General Discussion > Siam Subaru Society Forum
จริงเหรอครับที่รถกะบะท้ายปัดง่าย? จากกระทู้อุทาหรณ์ของ aUng Pao
iMPrugeZa:
--- อ้างจาก: Bluejeans ที่ สิงหาคม 07, 2009, 05:18:05 pm ---
คำถามที่อยู่ในใจผมสองข้อคือ
1. กะบะปัดง่ายเช่นนี้เสมอเหรอครับ?
2. และถ้าเจอกะตัวจะแก้อาการรถแบบไหน ทำอย่างไรดีครับ?
ขอบคุณครับ
--- End quote ---
เพื่อหาคำตอบผมว่าคงต้องให้จานอั๋นหรือคุณก้องหรืออีกหลายๆท่านมาอธิบายกันยืดยาว ระหว่างที่รอผมแนะนำว่าลองหาความรู้เรื่อง vehicle dynamic อ่านดูนะครับ เพราะรถทุกชนิดคงหนีไม่พ้นหลักการพวกนี้ จะแสดงออกเร็วหรือช้า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ซึ่งก็จะถูกจำกัดโดยความต้องการทางการใช้งานที่แต่ต่างออกไปในรถแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นครับ พอเข้าใจหลักการพวกนี้แล้ว ก็จะรู้ว่าควรจะหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขยังไง ส่วนว่าจะแก้ไขได้มั้ย อันนี้ตัวแปรก็มีอยู่หลากหลาย ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการฝึกฝนครับ แต่ถึงกระนั้นสถาพบนถนนก็แตกต่างจากสนามแข่งอย่างสิ้นเชิง ลองค้นหาดูครับ จากกระทู้เก่าๆก็ได้ ระหว่างที่รอคำตอบครับ :wavey:
Azzy:
ปัญหาหลักก็คงเป็นพวกแรงบิดของเครื่องยนต์ Diesel ที่มันจะมาเร็ว และมาหนักกว่ารถ sedan ปรกตินะครับ
คนไม่ชิน หรือ ด่วนใจร้อน หรือไม่รู้จักอาการ หรือ ประเภทของรถที่เราขับ ก็อาจจะลำบากหน่อย
ส่วนตัวผมเอง ผมใช้ Vigo ในวันธรรมดา ก็ประสบปัญหาบาง...........ย้ำว่า บ้าง นะครับ
Vigo ของผมเป็นตัวเกียร์ Auto ขับเคลื่อน 4 ล้อ และสามารถปรับเป้น ขับ 2 และขับ 4 แบบ Hi low ได้
เนื่องจากปรกติ ก็จะปรับอยุ่ที่ขับ 2 เพื่อที่จะ ประหยัดน้ำมัน และลดอาการหน่วงของระบบขับ 4 เมื่ออยู่ในย่านความเร็วสูง
ก็จะทำให้มีปัญหาบ้าง เวลาที่ฝนตก เวลากลับรถ หรือออกตัวบางที ก็จะมีอาการ ลื่นไถลบ้าง บางครั้ง
ดันนั้นเมื่อผมประสบปัญหานี้ วิธีแก้ปัญหาง่ายๆของผมเลยก็คือ เมื่อฝนตก ก็ปรับกลับให้เป้นขับ 4 เพื่อให้แรงบิดที่มีเยอะ ถ่ายไปยังล้อ 4 ล้อ จึงทำให้ลดแรงบิดในล้อหลัง ที่เกิดการ สลิปจาก พื้นที่ลื่น และยางที่อาจจะรีบน้ำได้ไม่ดี
แต่การแก้ปัญหาของผมนั้นจะไม่ได้ผล ในรถที่เป็นพวก ขับ 2 ยกสูงนะครับ ......... เช่น Vigo pre runner , Triton Plus หรืออีกหลายๆแบรนที่ทำ ขับ 2 ยกสูง
ถึงแม้ว่า.........ในบางครั้ง ก็อยากสนุกบ้าง อยากลองอาการท้ายไหลบ้าง Vigo ของผมเป็นตัวเกียร์ Auto เมื่อพอปรับเป็นขับ 2 เพื่อให้มันไหลเอาสนุกๆ แบบไม่เดือดร้อนคนอื่นๆ พอมันไหลไปซักพัก ก็ยกคันเร่ง การแก้อาการนั้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เหตุผลก็คือเรื่องของ น้ำหนักรถที่ค่อนข้างจะเยอะ เมื่อไม่มีแรงบิดถ่ายจาก ทอร์คคอนเวอเตอร์ อาการที่ว่าไหล ก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งเมื่อเรายกคันเร่งทิ้งทันที
จริงๆแล้วปัญหาเรื่องแรงบิดเยอะๆ มารอบต้นๆ ของรถกระบะ ก็ไม่ต่างอะไรกะ อาการที่รถ Drift ที่ Set มาวิ่งแบบนั้น เพียงแต่ว่า กำลังของรถ Drift มาเมื่อ Turbo ทำงาน ในรอบปลาย
แต่รถกระบะ มันมาเร็วกว่าเท่านั้นเอง ในแง่ของการเดินคันเร่ง เพราะรถกระบะสมัยใหม่นั้น มีทั้ง คอมม่อนเรียล หรือแม้แต่ Turbo แปรผัน ซึ่งนั้นทำให้เร่งแรงบิดในรอบต้นๆให้มาเร็วขึ้นทั้งนั้น
อีกเรื่องนึงที่ดูเหมือนจะสำคัญแต่ก็เป้นเรื่องรอง ก็คือเรื่องน้ำหนักรถ แต่ในกรณีนี้ ถ้าคิดในเรื่องของ วงเลี้ยว และ ความเร็วในการเลี้ยวแล้ว ยังถูกถือว่าเป็นเรื่องรองลงมา
เพราะถ้าคุณเข้าเร็วมากไป วงเลี้ยวแคบเกินไป เกิน limit ของรถ มันก็ไม่น่าตกใจนี่ครับ หากว่ามันจะปัดบ้าง
Qiang:
สักแต่ว่าขับรถได้ คนพวกนี้ไม่เคยขี่จักรยาน ไม่รู้จักการทรงตัว ก็สมควรหมุนลงข้างทาง....
"ครั้งที่ 2 เส้นคลองหลวง ตอนนั้นฝนกำลังตก เป็นพื้นยางมะตอย ผมขับมาช้าๆประมาณ 50 km/h
กำลังเข้าโค้ง แตะเบรกนิดเดียว ท้ายปัดจนรถมาอยู่อีกเลนนึงเลย โชคดีไม่มีรถมาข้างๆ"
รถมีสี่ล้อยังบ่นโน่นบ่นนี่ สามล้อ ทรงตัวยากกว่า ไม่เห็นเป็นไร...
kong:
--- อ้างจาก: iMPrugeZa ที่ สิงหาคม 08, 2009, 12:00:39 am ---เพื่อหาคำตอบผมว่าคงต้องให้จานอั๋นหรือคุณก้องหรืออีกหลายๆท่านมาอธิบายกันยืดยาว ระหว่างที่รอผมแนะนำว่าลองหาความรู้เรื่อง vehicle dynamic อ่านดูนะครับ เพราะรถทุกชนิดคงหนีไม่พ้นหลักการพวกนี้ จะแสดงออกเร็วหรือช้า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ซึ่งก็จะถูกจำกัดโดยความต้องการทางการใช้งานที่แต่ต่างออกไปในรถแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นครับ พอเข้าใจหลักการพวกนี้แล้ว ก็จะรู้ว่าควรจะหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขยังไง ส่วนว่าจะแก้ไขได้มั้ย อันนี้ตัวแปรก็มีอยู่หลากหลาย ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการฝึกฝนครับ แต่ถึงกระนั้นสถาพบนถนนก็แตกต่างจากสนามแข่งอย่างสิ้นเชิง ลองค้นหาดูครับ จากกระทู้เก่าๆก็ได้ ระหว่างที่รอคำตอบครับ :wavey:
--- End quote ---
เหมือนโดนกดดันให้ตอบเลยครับพี่ :sleepy:
ถ้ารายละเอียดเฉพาะของกระบะ คงต้องพี่อั๋น เพราะผมไม่เคยขับในสนาม หรือ ขับเร็วๆ เคยแต่ขับบนถนนบ้าง กับ เคยนั่งรุ่นน้องเอามาดริฟเล่น แค่นั้น ขอตอบในแง่รวมๆแล้วกันนะครับ
ในความเห็นของผม คิดว่ามีหลายๆปัจจัยรวมๆกัน คือ
๑. กระบะเดี๋ยวนี้เครื่องค่อนข้างแรง แรงบิดรอบต่ำดี แต่เหตุผลนี้ ผมว่าอาจจะไม่ใช่เหตุผลหลักของอุบัติเหตุที่เกิด เพราะจะกดคันเร่งแล้วขวาง ก็คงเป็นเกียร์หนึ่งเกียร์สองอย่างมาก คงไม่ได้ถึงกับอันตรายมาก เพราะความเร็วไม่สูง
๒. คนขับ ส่วนใหญ่ขับกันเร็วเกินกว่าที่ควรจะขับ ณ สภาพนั้นๆ อันนี้ผมว่าเป็นสาเหตุหลัก อาจจะเพราะว่ากระบะสมัยนี้ วิ่งเร็วแล้วช่วงล่างก็ยังนิ่ง รู้สึกปลอดภัย เลยมั่นใจ แต่คงน้อยคนที่เคยเอามาลองในสนาม เลยอาจจะไม่รู้ว่าที่รู้สึกมั่นใจ มันเกินจากความเป็นจริงหรือเปล่า คงน้อยคนที่จะรู้ ว่ารถตัวเองที่ลิมิต มันรู้สึกแบบไหน
๓. ไม่ค่อยเสียดายรถ อาจจะเหมือนกับ ถือว่ากระบะ ต้องทนทาน ลุยได้ อะไรแบบนั้น เลยเหมือนกับไม่ได้ระวังเท่าที่ควร
๔. โดยธรรมชาติของรถกระบะ เป็นอะไรที่เสียเปรียบรถเก๋งอยู่แล้ว ในแง่ของ physics มันเป็นอะไรที่ต้อง compromise คือ การออกแบบระบบต่างๆ เช่นช่วงล่าง หรือ ระบบเบรค ต้องเผื่อไว้ให้ขับ "ได้" ทั้งตอนที่ใส่ของเต็มหลังรถ กับ ตอนที่ไม่ใส่อะไร อีกทั้งยังเป็นรถที่สูงกว่ารถทั่วๆไป ซึ่งเสียเปรียบอยู่แล้ว แถมราคา ก็ต้องไม่แพง ต่างจากพวก SUV เช่น X5, M-Class, etc. ที่ทำมาขายอีกตลาดนึง ยอมลงทุนเพื่อจะลดข้อเสียเปรียบได้
๕. โจทย์ สำหรับในแง่การตลาด ในการสร้างรถกระบะ ผมว่า กว้างมากๆ สมัยนี้ ยิ่งกว้างกว่าเดิมอีกด้วย เคยได้ยินเรื่องของผู้ผลิตรายหนึ่งที่ประสพความสำเร็จเป็นเจ้าแรกๆของเมืองไทย เค้าบอกว่า ตอนนั้น คู่แข่งสร้างรถโดยที่ยึดตามกฏหมาย เช่น กฏหมายบอกว่า รถกระบะ สามารถขนของหนักได้เท่านั้นเท่านี้ ก็ออกแบบตามนั้น แต่ผู้ผลิตรายนี้ ไม่ได้ออกแบบตามกฏหมาย แต่ออกแบบตามการใช้งานของลูกค้า ซึ่ง ไม่ตรงกับกฏหมาย รถที่เค้าทำออกมาขาย เลยทนทาน ใช้งานได้ตามสภาพการใช้งานจริง พอมาถึงวันนี้ รถกระบะ สำหรับเมืองไทย รุ่นหลังๆนี่ ทำมาเบียดตลาดรถเก๋งอีกต่างหาก เลยยิ่งต้อง compromise มากขึ้น ต้องนั่งสบายกว่ารุ่นก่อนๆด้วย เลยเหมือนกับเป็นเป็ด ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ได้เก่ง
๖. เรื่องรายละเอียดปลีกย่อย ไม่แน่ใจว่าเจ้าของรถกระบะเค้าเช็คกันมากน้อยขนาดไหน เช่น ถ้าใส่ของเยอะ ต้องเติมลมหลังเยอะ พอเอาของออกแล้วลืมปล่อยหรือเปล่า อันนี้ก็จะทำให้หมุนง่ายๆ หรือ สภาพยางหลังของรถที่ใช้งานใส่ของ อาจจะหมดเร็ว ได้สังเกตุกันมากน้อยขนาดไหน เพราะถ้าเป็นรถบ้านทั่วๆไป ส่วนใหญ่ยางหน้าจะหมดสภาพก่อน ก็จะไม่หมุน
--- อ้างจาก: Qiang ที่ สิงหาคม 08, 2009, 11:49:53 am ---รถมีสี่ล้อยังบ่นโน่นบ่นนี่ สามล้อ ทรงตัวยากกว่า ไม่เห็นเป็นไร...
--- End quote ---
ถ้าเรื่อง handling ของตุ๊กๆ ได้ข่าวว่าจารย์อั๋น โปรมากครับ เดี๋ยวต้องรอเค้ามาตอบ :supergrin:
Nut GDA:
เสียใจกับความสูญเสียที่เกิดจากความประมาทของผู้อื่นครับ
เท่าที่อ่านดู มันหมุนและเสีกหลักกันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ นี่ขนาดเป็นรุ่นใหม่ๆนะเนี่ย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version