Siam Subaru Webboard
General Discussion => Siam Subaru Society Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ong_cm ที่ มีนาคม 23, 2013, 08:10:44 pm
-
ได้ต่อมาจากพี่สาวครับเป็นอิมฯปี96ขับหน้าN/A เดิมใช้อยู่ที่เมืองนนท์ตอนนี้ผมเอามาใช้ที่เชียงใหม่ได้1อาทิตย์ เกิดอาการเดินเบาตัวสั่นๆแถมกระตุกแบบเกือบดับบางจังหวะ แต่รอบสูงไม่เป็น โดยเฉพาะตอนติดไฟแดงเหยียบเบรคไว้(เกียร์ D)รอบเครื่องอยู่ประมาน450มีลุ้นเครื่องดับอยู่ตลอด เปลี่ยนหัวเทียนแล้วยังไม่หาย กำลังเล็งอู่ JK ไว้ หากมีพี่ๆน้องๆหลานๆท่านใดมีคำแนะนำรบกวนด้วยนะครับ :bbbear_27:
-
ถ้าใช้แก๊สก็ลองเอาไปให้ช่างจูนดูครับ
แต่ถ้าใช้น้ำมันอย่างเดียว ลองเช็คระบบจุดระเบิดดูครับ น่าจะแก้ได้
-
หายไวๆนะครับ :bbbear_26:
-
ขอบคุณทุกท่านครับ เมื่อตะกี้อ่านเจอในเว็บว่าsubaruให้ใช้หัวเทียนเบอร์6เพราะถ้าเป็นเบอร์8 จะจุดได้ไม่ค่อยดี เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองถอดดูว่ามันเบอร์อะไรแล้วค่อยมาดูที่คอล์ย วันก่อนไปที่อู่คุณยอน(สารภี)แกก็สงสัยคอล์ยแต่ยังไม่มีของมาลองเปลี่ยน ลองโทรถามช่างประจำรถที่เมืองนนท์ แกบอกว่าให้ลองเปลี่ยนน้ำมันเบนซินดู(รถไม่ได้ติดแก๊ส) ก็น่าคิดเหมือนกัน
-
ถ้าปิดแอร์แล้วหายก็แสดงว่าสวิสชเดินเบาแอร์เสียครับ
-
ถ้าเป็นที่คอยล์ สายเทียน หรือหัวเทียน น่าจะมีอาการ(ไม่มากก็น้อย) ในทุกๆย่านของรอบเครื่อง
แต่ที่ จขกท. แจ้งว่าเป็นเฉพาะที่รอบเดินเบา รอบสูงกว่านั้นปกติดี...
ดังนั้นอุปกรณ์ที่ทำงานเฉพาะที่รอบเดินเบา ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมรอบเดินเบา คือ isc valve ครับ
ถ้าโชคดี แค่สกปรก => ให้ช่างถอดออกมาล้าง และปรับตั้งรอบเดินเบาใหม่ก็หายครับ
ถ้าโชคร้าย มันใกล้ลาโลกแล้ว => หามือสอง หรือมือหนึ่งใส่ครับ
ปล. ทั้งหมดเป็นการเดานะครับ ผิดถูกยังไงก็ขออภัยนครับ :bbbear_20:
-
:bbbear_25:อาการไม่น่าเป็นห่วงขอให้แก้ได้ไวๆครับ....
-
เหมือนเป็นที่ระบบจุดระเบิดนะครับ ดูว่าคอยล์แตกมั้ย แตกแค่นิดเดียวก็มีอาการกระตุกแล้วครับ หัวเทียน สายหัวเทียน
เดาเอาครับ
-
ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ ไม่นึกว่า n/a แก่ๆยังมีคนสนใจช่วยเหลือ ขออภัยที่ให้ข้อมูลไม่ครบขณะสั่นตอนเดินเบาเป็นทั้งเปิดและปิดแอร์ ตัวชดเชยรอบแอร์ปกติ pcv valve มีสองตัวถอดมาล้างเขย่าดูก็ยังมีเสียงคลิ๊กๆลองเป่าลมก็ยังผ่านได้ทางเดียว คอล์ยเท่าที่ดูก็ไม่แตกร้าว คงเหลือ isc valve ตามที่คุณ Monsterแนะนำครับเดี๋ยวจะลองดูได้ผลยังไงจะรายงานครับเผื่อใครเจอปัญหานี้อยู่ หรือมีท่านใดมีวิธีเช็คคอล์ยโดยใช้มัลติมิเตอร์ หรือวิธีอื่นก็รบกวนด้วยครับ เคยลองเช็คตามyoutobe ได้ค่าไม่เหมือนเขา ขั้ว 1-2และ 2-3 ผมได้เท่ากันของเขาต่างกันเป็นพันโอห์มเลยไม่แน่ใจ(ตามคลิป) http://www.youtube.com/watch?v=d_OgEX2TkHY
-
ค่อยๆ คิดไปครับ
ดิน น้ำ ลม ไฟ
เดี๋ยวก็เจอครับ
พยายามจับอาการให้ละเอียดครับ
ว่าความถี่ เป็น ไฟ หรือ อากาศ
ตรวจท่อแวคคั่มด้วยก็ดีครับ
ผมใช้รถมาเกือบปีก็พึ่งเจอต้นเหตุวานนี้เอง ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
โชคดีนะครับ
-
ลองถอดหัวเทียนออกมาดู ตรงเขี้ยวแห้ง ออกสีขาวๆเลยปกติไหมครับ หรือส่วนผสมบางไป(น้ำมันน้อย)
-
^^ หัวเทียนเพิ่งเปลี่ยนใหม่ น่าจะยังดูไม่ค่อยออก
ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วดึงสายหัวเทียนออกทีละหัว จ่อๆ ไว้ใกล้หัวเทียนฟังเสียงไฟสปาร์คดังเท่าๆ กันทุกหัวรึเปล่า
ถ้าอันใหนไม่มีเสียงไฟสปาร์ค ลองสลับสายหัวเทียนดู ถ้าไฟมาแสดงว่าสายหัวเทียนหักใน
แต่ถ้าสลับสายแล้วยังเงียบเหมือนเดิม ก้อเป็นที่คอยล์ล่ะครับ
* ใส่ถุงมือ หรือหาผ้าจับก็ดีครับเผื่อไฟรั่ว
-
ลองดู ปั๊มติ๊ก ดูครับ มันล้าแล้วหรือเปล่า รถผมเคยเป็นแต่ไม่ใช่อิมนะ
-
คอยล์ดูดีๆนะครับ แตกร้าวนิดเดียวก็เป็นละครับ บางทีต้องเอาแว่นขยายส่องดูเลย
-
นอนอู่พี่น้อย2คืนละเจ้าดาวแก่ๆของผม เข้าเช็คลูกน้องพี่น้อยดูบอกน่าจะเป็นที่คอล์ย แต่ก็เช็ควาล์วด้วยโดยการฉีดน้ำมันเครื่องเข้าทางรูหัวเทียนแล้วติดเครื่องควันท่วมอู่ ผลเครื่องยังสั่นเหมือนเดิมก็ตัดเรื่องวาล์วไป พี่น้อยมาดูบอกไม่น่าเป็นที่คอล์ยเลยลองเปลี่ยน ปั๊มติ๊กดูผลยังสั่นลองเอาปั๊มติ๊กของนิสสันใส่ดู(ลูกใหญ่กว่า)ก็ยังสั่น อันดับต่อมาลองเปลี่ยนเรกกูเลท ยังสั่นเหมือนเดิม ขณะนี้กำลังหาหัวฉีดมาลองเปลี่ยนดูป่านนี้ไม่รู้เป็นไง...T_T จริงๆอยากลองเปลี่ยนคอล์ยดูแต่หาคอล์ยมาลองไม่ได้ ท่านไหนมีจะอนุเคราะห์ให้ลองหรือมีคำแนะนำก็เชิญนะครับ :bbbear_27: :bbbear_27: :bbbear_27:
-
ไปรับรถกลับจากอู่แล้ว พร้อมกับอาการสั่นที่เหมือนจะมากกว่าเดิมหน่อย เจ้าของอู่บอกให้เอาไปล้างหัวฉีดดู ก็ขับไปที่เชียงใหม่ดีเซลเพื่อเทสหัวฉีดไปถึงช่างงานยุ่งไม่มีใครถอดหัวฉีดให้ เด็กหน้าร้านบอกว่าถ้าอยากได้เร็วๆให้กลับไปอู่ถอดเฉพาะหัวฉีดมา.... สรุปขับมาจอดบ้านนั่งมองหน้ากัน นี่กรูจะเอาไงต่อดีหว่า วิบากเวรจริงๆ ไม่โทษรถหรอกครับ แต่ยังไม่เจอช่างเจ๋งๆต่างหากขอกลับมาตั้งหลักก่อนละกัน
-
ใจเย็นๆนะครับ :bbbear_35:
พวกเซ็นเซอร์ตามจุดต่างๆ ลองเช็คดูบ้างหรือยัง
-
ไปอู่พี่ตี๋หางดงสิครับ ลองดู
ถอดหัวฉีดไม่ยากหรอก
อาการนี้ ลองเปลี่ยนน้ำมันดูหรือยังครับ เติม 95 ล้วนๆ สัก 200 ลองวิ่งดูก็ได้
สายหัวเทียน หากจะลอง เอายี่ห้ออื่น ของ Honda มั้งๆ ลองๆ เสียบก่อน ถ้าหาย ค่อยหาสายหัวเทียนมาเปลี่ยน
คอล์ย ลองหาสลับดู พี่ตี๋น่าจะมี
วัดกำลังอัดดูด้วยนะครับ ลองดู
สั่นๆ นี่ เสียงเป็นไงบ้าง เดินไ่ม่ครบสูบหรือเปล่า
ถ้ามีเวลา เอาเข้าได้ทั้งสองที่ พี่ยอนก็ได้ พี่ตี๋ หางดงก็ได้
หายไวๆ ครับ
ISC กับ ลิ้นปีก ลองล้างดูหรือยังครับ กรองอากาศ เปลี่ยนล่าสุดเมืี่อไรครับ
หัวเทียน เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนไปเลยครับ ของถูกๆ ตัวละ 75 บาทก็ใช้ได้เหมือนกัน
อีกอย่าง บางที มันเป็นที่แอร์โฟ นะครับ
สุดท้ายท้ายสุด หากเอาเข้าที่พี่ยอน ให้พี่เค้าเสียบเครื่องเช็คดู อาจเป็นปัญหาตัว เซนเซอร์ก็ได้ น๊อค กับ O2
-
อาการสั่นเป็นตอนเดินเบากับตอนเหยียบคันเร่งนิดๆครับและมีกระตุกลงเกือบดับเป็นพักไม่บ่อยนักไม่มีไฟโชว์ สายหัวเทียนดูแล้วสภาพยังใหม่ครับ ล้าง pcv valve แล้ว ล้าง isc แล้ว กรองยังใหม่ หัวเทียนเปลี่ยนใหม่หมด ชุดลิ้นเร่งช่างยืนยันว่าไม่ใช่แลยไม่ล้าง พี่น้อย(JK)คิดว่าเป็นที่หัวฉีด ลองเทสปลั๊กหัวเทียนดูดูจุดครบทุกสูบ คุณยอน(สารภี) เทสแอร์โฟลแล้วเช็คโค้ดแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นพวกเซ็นเซอร์แต่ยังไม่มีของมาลองเปลี่ยน ช่างประจำที่เมืองนนท์คิดว่าน่าจะเป็นที่วาล์วและให้ลองเปลี่ยนน้ำมันดูก่อนตอนนี้มึนครับ คงจะลองง่ายก่อนโดยการเปลี่ยนน้ำมันถ้าไม่ดีคงต้องไปหาพี่ตี๋หางดงดูแกรู้จักซูบารุดีใช่ไหมครับ รบกวนคุณ nnet ขอที่ตั้งอู่กับเบอร์โทรด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม
-
อู่พี่ตี๋
ทางบอกยากเหมือนกัน แถวๆ ด้านหลังโรงพยาบาลหางดง
เบอร์ 081-920-9437
น่าจะพอได้ครับ เห็นพี่แกหลังๆ เน้นทำ evo
แต่อะไหล่เครื่อง ej เก่าๆ ก็พอมี
อู่ส่วนใหญ่ผมทำที่พี่ยอน แต่หากคิวยาวๆ ก็จะเอาเข้าที่พี่ตี๋ครับ
-
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลครับผม :bbbear_48:
-
อยากให้เข้า อู่ที่ทำ subaru เป็นหลัก ประสบการณ์ต่างกันมาก ปัญหานี้ไม่น่าเป็นเรื่องยากสำหรับช่าง อู่ทั่วไปอาจเก่งเฉพาะที่ตนเคยซ่อม เคยเข้าไปเห็นรถยังไม่รู้รุ่นอะไร บางร้านยี่ห้อยังไม่รู้ จะซ่อมได้ไหมผมไม่แน่ใจ เท่าที่อ่านมาเห็นด้วยกับความคิดข้างล่างนี้เพราะเคยเป็น แท่งเซรามิค ไม่รู้เรียกอะไร ตรงไกล้ๆหัวเทียนหักใน เนื่องจากความร้อนสูงเปลี่ยนไม่กี่ร้อยก็จบครับ อู่ซู่มีทั้งอะไหล่ใหม่และเก่าเพียบครับ
^^ หัวเทียนเพิ่งเปลี่ยนใหม่ น่าจะยังดูไม่ค่อยออก
ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วดึงสายหัวเทียนออกทีละหัว จ่อๆ ไว้ใกล้หัวเทียนฟังเสียงไฟสปาร์คดังเท่าๆ กันทุกหัวรึเปล่า
ถ้าอันใหนไม่มีเสียงไฟสปาร์ค ลองสลับสายหัวเทียนดู ถ้าไฟมาแสดงว่าสายหัวเทียนหักใน
แต่ถ้าสลับสายแล้วยังเงียบเหมือนเดิม ก้อเป็นที่คอยล์ล่ะครับ
* ใส่ถุงมือ หรือหาผ้าจับก็ดีครับเผื่อไฟรั่ว
ลองดู http://www.siamsubaru.com/subaruboard/index.php?topic=92250.0
-
"อยากให้เข้า อู่ที่ทำ subaru เป็นหลัก ประสบการณ์ต่างกันมาก ปัญหานี้ไม่น่าเป็นเรื่องยากสำหรับช่าง อู่ทั่วไปอาจเก่งเฉพาะที่ตนเคยซ่อม เคยเข้าไปเห็นรถยังไม่รู้รุ่นอะไร บางร้านยี่ห้อยังไม่รู้ จะซ่อมได้ไหมผมไม่แน่ใจ"
เจอมาแล้วครับ แต่พูดไม่ได้รื้อหากันอยู่ครึ่งวันไม่รู้ตำแหน่งอุปกรณ์ตัวหนึ่ง อึ้งไปเลยผม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับทุกท่าน ถ้าซ่อมสำเร็จลูกสาวผมจะได้เลิกบ่นน้าซูของเค้าซะที :bbbear_48: :bbbear_48:
-
:bbbear_4:ยินดีด้วยครับ...อยุ่เชียงใหม่เหมือนกัน...อาการรถของน้องน่าจะแก้ไม่ยากถ้าหากได้ช่างที่มีประสบการณ์..ลองไปที่น้องnnet..(น้องเดียร์)แนะนำหรือยังครับ..ส่วนตัวเคยซ่อมรถตัยเองมาหลายแห่ง...เคยเจอปัญหาที่แก้ไม่ตกมาก็เยอะ..สุดท้ายเส้นผมบังภูเขา..อย่างเช่นรถตัวเองเคยเปลี่ยนซิลฝาวาล์ว..หลังจากนั้นรถมีอาการสดุด..ควันขึ้นเยอะมาก..ให้ช่างดูตั้งหลายอย่าง..เปลี่ยนสายหัวเทียน...เช็กหัวเทียน..ก็ไม่หาย..ไปให้ช่างตี๋..ดู..ปรากฏว่า..สายปลั๊กหัวฉีดเสียบไม่แน่น...ใส่กลับเข้าไปที่เดิม..หายสนิทเลย...เจอปัญหาบางทีมันเล็กน้อยแต่เราหาจุดเสียไม่เจอ..เป้นกำลังใจให้ครับ..ยินดีให้คำแนะนำ.ชาวซูเชียงใหม่มีหลายคัน..หากมีปัญหาปรึกษาได้ครับ..088-2682408 พี่แซมครับ..วันหลังมา meetiing ด้วยกันนะครับ..
-
ขอบคุณครับคุณsam วันนี้ไปหาพี่ตี๋มาแล้วครับ แกลองรถรอบนึงแล้วลองขยับปลั๊กหัวฉีดดู บอกตรงๆผมงงครับเครื่องมันดูเหมือนทำตัวเรียบร้อยขึ้นถึงจะยังไม่หายขาดซะทีเดียว แต่จนถึงตอนนี้อาการสะดุดรอบเดินเบาและอาการสั่นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด น่าจะมาถูกทางละครับพี่ตี๋แกบอกว่าไม่ใช่วาล์วไม่ใช่คอล์ย แต่น่าจะเป็นปัญหาระบบไฟตามจุดต่อนี่แหละ แต่อาการเป็นๆหายๆวิเคราะห์ยาก ให้ลองใช้ต่อไปอีกหน่อยเอาไว้ให้ชัดเจนค่อยว่ากัน เกรงใจแกจริงๆครับงานก็เยอะตังส์แกก็ไม่คิดซักบาท ก็คงต้องใช้ต่อไปอีกซักพักแต่ก็แอบคุยเรื่องหัวตัด gc8 ไว้บ้างแล้วเผื่อว่าอยากเป็นวัยสะรุ่นอีกซักครั้ง :bbbear_25: :bbbear_25: ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำนะครับผม
-
จากอาการเดินเบาเครื่องสั่น และมีกระตุกบ้าง จนหนักเข้าวิ่งๆอยู่เหลือ2สูบบ้าง
ล่าสุดเอาเข้าอู่คุณยอน(สารภี)อีกรอบ วิเคราะห์กันจนได้บทสรุปว่าเซ็นเซอร์ข้อเหวี่ยง(crankshaft sensor)
น่าสงสัยที่สุดคุณยอนเลยให้ยืมเซ็นเซอร์มาใส่ลองวิ่งดู ก็3วันแล้วครับอาการเดินเบาเครื่องสั่นๆยังมีบ้าง
แต่อาการกระตุก และวิ่งไม่เต็มสูบ หายไปเลย น่าจะเจอสาเหตุแล้วครับ แปลกใจว่าโค๊ดไฟไม่ยักกะเตือน
ดีใจที่ไม่เปิดฝาสูบออกมาทำบ่าวาล์วใหม่ตามที่ช่างอู่หนึ่งบอก เกือบแล้ว :bbbear_15:
ขออณุญาติอัพนะครับเผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆได้บ้าง :bbbear_46:
-
ขอบคุณพี่ๆน้องๆชาวซูบารุทุกท่านที่ให้คำแนะนำรวมถึงแนะนำ อู่ซ่อมด้วยครับผม :bbbear_48: :bbbear_48: :bbbear_48:
-
หายแล้ว ยินดีด้วยคร้าบ
ของผมเซนเซอร์น้ำเสื่อม สตาร์ทตอนเช้าเครื่องเย็นๆ เร่งไม่ขึ้น เช๊คเอนจิ้นก็ไม่โชว์
ส่วนมากถ้าไฟโชว์ก็คือ เซนเซอร์ต้องไปเกิดใหม่จิงๆ :bbbear_43:
-
:bbbear_34:ลุ้นครับ....ถ้าอยู่กรุงเทพ...น่าจะใช้เวลาซ่อมไม่นานแน่ครับ....