Siam Subaru Webboard

General Discussion => Siam Subaru Society Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 09:22:59 am

หัวข้อ: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 09:22:59 am
ผมคิดว่า หลายๆท่านที่เล่นเวปนี้ น่าจะทำงานกันแล้วหลายคน
ที่ผมอยากพูดคุยก็คือ หลังจากที่พี่ๆเรียนจบ ป ตรี กัน พี่ใช้เวลาหางานกันเท่าไหร่ แล้วเปลี่ยนงานกันบ้างมั้ยน่ะครับ

พอดีตัวผมเพิ่งเรียนจบเมื่อกุมภาที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ทำงานที่ DHL ตำแหน่ง IT Support ทำมาได้ 2 เดือนแล้ว
แต่มีความรู้สึกเบื่อเนื้องานมากๆ ทั้งๆที่งานก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร ผมเลยอยากรู้ว่าพวกพี่ๆ เป็นไงกันมั่งหลังจากที่เพิ่งจบใหม่ๆกันน่ะครับ
 :bbbear_37:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 09:54:27 am
จบมาใหม่ๆไปรับราชการ ตจว. ครับ

ลองทำให้มันเหนื่อยสิครับ จะไม่เบื่อ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Akaradech------> ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 09:57:26 am
ไม่เบื่อครับ ทำไป ชิวๆๆ ปลิวลม ไปวันๆๆ  :bbbear_23:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TAMsrc ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:05:57 am
ผม จบ ป.ตรี ใหม่ๆเป็นลูกน้องเค้า กดดัน น้อยใจ ทำงานก็ ไม่ได้ดั่งใจ เจ้านาย

ผมถือว่ามันเป็นประสบการณ์ ที่สั่งสม ทำให้เข็มแข็ง รอบคอบ รู้จักชีวิตในวัยทำงานมากขึ้น

ตอนนี้ มีธุรกิจ ของตัวเอง ก็นำเอาบทเรียนต่างๆมาปรับใช้ ชีวิตต้องดิ้นรน เพื่อความสำเร็จ  :bbbear_46:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: tori_98 ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:09:29 am
จบมาใหม่ๆไปทำงานกับญาติที่ รพ.พระมงกุฎ เงินเดือนดีมาก(สำหรับเด็กจบใหม่) และจะมีงานพิเศษได้วันละ 5000 บาท (บริษัทยาจะมาจ้างไปเป็นงานๆไป)
จากนั้น 2549 ก็ย้ายงานมาทำงานที่บริษัทเอกชน เงินเดือนก็ได้เท่าเดิม แต่ทำงานมีความสุขมาก ไม่มีตอกบัตร ทำงานตามสบาย หัวหน้าฮาๆ เพื่อนร่วมงานไม่มีใส่หน้ากากเข้าหากัน ใครยากดีมีจนก็ไม่ทิ้งกัน ก็เลยคิดว่าจะทำที่นี่ไปจนกว่าจะจบ ป.โท ถึงหางานในแผนกอื่นต่อไปครับ  :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:16:05 am
เป็นธรรมดาที่ 6 เดือนแรกในการทำงานจะรู้สึกอย่างนั้น เพราะเป็นช่วงปรับตัว อยู่ปี 4 ที่คณะฯ เรียก "น้า" รู้สึกว่ามีความรับผิดชอบเต็มมือ โดยเฉพาะถ้าต้องทำกิจกรรมระหว่างเรียนด้วยแล้ว แต่พอมาทำงานกลายเป็น "เด็กอนุบาล" เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่การสะกดคำ (ในมุมมองของธุรกิจ) ไม่รวมถึงถูกสั่งทั้งวันไปอีกเกือบ 2 ปี หลัง 6 เดือนแรก พยายามเปลี่ยนจากผู้ถูกสั่งไปเป็น "ผู้นำเสนองาน" ที่เสร็จก่อนกำหนด และขึ้นปีที่ 2 ด้วยการเป็นผู้นำเสนอวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และได้ประสิทธิผลที่ดี

ในระหว่างปีที่ 2 หาตัวเองให้เจอว่าตัวเองชอบงานฝั่งไหนและบุคลิกของเราเป็นแบบไหนระหว่างผั่ง front line กับกึ่งๆ เช่น Sales, Marketing, Business Development และ Support เช่น HR, Accounting, Finance, IT, etc.

หากเส้นทางที่จะไปต้องปรับฐานความรู้ใหม่ลองวางแผนต่อโทในเส้นทางนั้น และเล็งองค์กรที่เราต้องการไว้ล่วงหน้าเลย จบแล้วส่ง resume แยกเป็น 2 ส่วน คือที่ประกาศตำแหน่งว่าง และองค์กรที่เราชอบและอยากทำ (ไม่ต้องกังวลว่ามีตำแหน่งว่างหรือไม่ ฝ่ายบุคคลยินดีรับใบสมัครเสมอครับ) เพิ่มเติมองค์กร head hunter ไว้สักหน่อยก็ยังได้

ระหว่างทางที่ดำเนินการดังนี้ อย่าลืมพัฒนาเรื่องความสามารถทางภาษาด้วย เพราะการเป็นกลุ่มประเทศ AEC ใช้ภาษาแน่ๆ เช่นภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาอื่นก็เป็นออฟชั่นไป และอย่าลืมวาง career path ตัวเองด้วยครับ ว่าอยากเป็น manager ตอนไหน และหลังจากนั้นอยากไปถึงตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบใด เพราะวิธีการนึงที่จะทำให้วางแผนได้แม่นยำขึ้นคือดำเนินแผนตามเป้าหมายที่วางไว้ แล้วทำแผนย้อนหลังกลับมาครับ

หวังว่าคำแนะนำจากประสบการณ์ทำงานเกือบ 20 ปีของผมจะเป็นประโยชน์นะครับ

 :bbbear_9:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:30:36 am
อ่า งั้นผมขอถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ
ถ้าตอนนี้ ผมจะออกจากงานนี้ไป แล้วไปหางานที่มันตื่นเต้นมากกว่านี้ อย่างเช่น sale เป็นต้น พอดีตัวผมเคยทำด้าน sale มาก่อน แล้วผมก็รู้สึกว่า มันสนุกกว่าการมานั่งเป็น IT เยอะกว่ามากเลยอ่ะครับ

คือตอนนี้ผมควรจะทนกับตำแหน่ง IT ไปก่อนมั้ย หรือว่าควรออกไปหางานที่เราชอบดีกว่า

ปล. คอมเม้นพี่แต่ละคน โดนใจผมทั้งนั้นเลย 555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: saran_1st ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:38:34 am
ตอนผมจบตรี หางานอยู่ประมาณเดือนกว่าๆ ก็ได้เริ่มงาน (ค่อนข้างช้ากว่าเพื่อนคนอื่นในกลุ่ม ส่วนใหญ่จะจบปุ๊บได้ปั๊บ)
ทำมา 2 ปีเศษละครับ ที่เดียวเลย ยังไม่เปลี่ยนงาน

สำหรับผม ผมมองว่า 6 เดือนแรก เป็นการเรียนรู้งานนะครับ เหมือนหัดเดิน ช่วงนี้จะรู้สึก Challenge มาก (แต่ถ้าคุณเบื่อตั้งแต่ช่วงนี้ แสดงว่างานไม่ค่อยโดนแล้วล่ะมั้ง)
กว่าจะเรียนรู้ครบ ทำได้ทุก function ก็ 1 ปี

แต่ในความคิดผมนะ ถ้ามันไม่ได้แย่จริงๆแบบ เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง แย่หมด ก็พยายามอยู่ให้ครบ 1ปี เหอะครับ เวลาไปสมัครที่อื่นจะได้ดูโอเคหน่อย
มองในแง่ดีครับ ว่างานเราชิว ไม่หนัก ถึงจะหนืดๆ ไม่ Challenge บ้าง ก็เอาเวลาว่างที่เหลือ ไปพัฒนาทักษะด้านอื่นๆครับ
เช่น เรียนภาษา เล่นกล้อง หาแฟนเป็นตัวเป็นตน หัดซ่อมรถ ศึกษาเรื่องการลงทุน ฯลฯ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ddi ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:40:17 am
ใครไม่รู้เคยพูดไว้ว่า ทำงาน " ไม่สนุก ก็ เหนื่อย " คัฟ  :bbbear_36:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: NOp76 ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:41:17 am
ผมเป็น IT Manager อยู่ DHL ครับ



..
...
..
....





(ล้อเล่น นะครับ  :bbbear_36:)

ผมเองเรียนจบมาหางานก็ไม่นานมากครับ เที่ยวเล่นก็ซัก 3 เดือนระหว่างนั้นก็หางานไปด้วย พอได้แล้วก็เปลี่ยนที่ เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ ที่ไหนว่าชอบ สังคมดีดี ก็อยู่นานๆ หน่อย ที่ไหนอยู่แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ ก็ค่อยๆ มอง ค่อยหากันไปครับ

ผมจบนิเทศศาสตร์ ครับจบมาก็ทำ Production House ถ่ายหนังโฆษณา มันส์ดี ลุยๆ อยู่ไปก็รู้สึกว่าไม่ใช่แนวเรา ก็เปลี่ยนไปทำ Agency โฆษณา - ก็อยากเป็นลูกค้าบ้าง ก็ออกมาทำ Marketing เสร็จก็อยากรู้ลึกๆ เกี่ยวกับการคิดงานพวก Marketing Activity - ก็ออกมาทำ Organizer พอรู้เรื่อง Event เยอะละ ก็พอละ - กลับมาทำ Marketing เหมือนเดิม ครับ

ที่อยากจะบอกก็คือ ประสบการณ์ในการทำงานนั่นแหละครับ สำคัญที่สุดในชีวิตทำงาน พื้นฐานเราแน่น ไปสมัครงานที่ไหนเค้าก็รับ เราอยากประสบความสำเร็จในด้านไหน ก็ไปด้านนั้นเอาให้รู้ลึกรู้จริงกันไปเลย อย่าอยู่แบบหายใจทิ้งไปวันวันเลย เสียเวลา เก็บประสบการณ์ให้ได้เยอะที่สุด ตอนนี้พึ่งเรียนจบใหม่ๆ อย่าให้ไฟมันมอดซะก่อน เพื่ออนาคตของเราเอง

*พึ่งเริ่มงานเก็บประสบการณ์ให้ครบปีก่อนท่าจะดีกว่านะครับ

สู้ๆ  :bbbear_46:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: saran_1st ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:42:35 am
อ่า งั้นผมขอถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ
ถ้าตอนนี้ ผมจะออกจากงานนี้ไป แล้วไปหางานที่มันตื่นเต้นมากกว่านี้ อย่างเช่น sale เป็นต้น พอดีตัวผมเคยทำด้าน sale มาก่อน แล้วผมก็รู้สึกว่า มันสนุกกว่าการมานั่งเป็น IT เยอะกว่ามากเลยอ่ะครับ

คือตอนนี้ผมควรจะทนกับตำแหน่ง IT ไปก่อนมั้ย หรือว่าควรออกไปหางานที่เราชอบดีกว่า

ปล. คอมเม้นพี่แต่ละคน โดนใจผมทั้งนั้นเลย 555

ลองขอ Rotation ไป Section อื่นในบริษัทเดิม นี่พอจะด้าน Sales ที่สนใจมั้ยครับ
ผมมองว่าบริษัทที่คุณอยู่ก็เป็นบริษัทที่ใหญ่และมีศักยภาพนะ น่าจะมีอะไรให้เรียนรู้อีก

ถ้ายังไง ลองยื่นๆใบสมัครที่อื่นดูก็ได้ครับ แต่อย่าเพิ่งออกเลย อิมเพรซ่ามันกินน้ำมันเน้อ 555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: klaoies ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:49:06 am
เจ้าของกระทู้ ตั้งได้ ตรงเวลาที่ ผมกำลัง ท้อใจเลยครับ

ผมเอง เรียนจบใหม่ เมื่อ  2 ปีกว่าๆ ได้งาน แรก หลังเรียนจบใหม่ๆ ประมาน 4 5 เดือน ทำงานราชการ แต่ไม่ใช่ ข้าราชการหรอกครับ

เงินเดือน หลักพัน ผ่านมา 2 ปี เงินเดือน หลักหมื่น พอขำๆ

ในระหว่าง 2 ปี ที่ทำงานอยู่ในนี้ ดีครับ ผู้คน ยิ้มแย้ม แจ่มใส มีแต่ พี่ ป้า น้า อา  -*- ผมเหมือนจะเป็นเด็กน้อยสุดในนั้น

กาลเวลา ผ่านไปเรื่อยๆ ก้อ หาลู่ทาง สอบบรรจุ จนแล้ว จนเล่า สอบกี่ครั้ง ก้อไม่เคยติด  มา 2 ครั้งหลัง ได้ที่ 2 ติดๆกัน

รู้สึกเจ็บปวดมาก ทุ่มเท อ่านหนังสือ จริงจังเป็นเรื่่องเป็นราว ผลออกมา ผิดหวัง    คนที่ได้ที่ 1 ได้ไป อายุ คราวแม่

เค้าคงเก่งมากๆๆ ถึงได้  เหอ พูดแล้ว sad ไม่อยากจะเหลา เด่วแหลม วงการราชการไทย :bbbear_1:

ในระหว่าง ช่วง 2 ปี มานี้ ก้อ ทำงานอดิเรก  หารายได้เพิ่มเติม ถูๆไถๆ  เพราะ เงินเดือน ราชการ ไม่พอ ยาไส้ แน่นอน

มา ช่วงเวลานี้  รู้สึกตัวเอง อาจจะไม่เหมาะกับงานราชการ อีกต่อไปแล้ว อาจจะต้อง ออกมาหา อะไรทำสักอย่าง ที่ตัวเองชอบ

แต่ก้อ ค่อยๆเป็น ค่อยไปครับ

ยังไง เจ้าของกระทู้ สู้ๆ นะครับบบบบ :bbbear_9:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:52:06 am
งานแรกหลังจบใหม่ เป็นก้าวแรกที่สำคัญมากนะคับ
ถ้าก้าวแรกไม่ดี โอกาสจะไปต่อให้ถึงจุดหมายก็เหนื่อยหน่อยคับ  :bbbear_13:

ช่วงแรกๆก็อาจจะว่างๆเบื่อๆคับ แต่พอเรารู้มากขึ้น ก็ควรต้องเริ่มแสดงบทบาทในองค์กรนะคับ
แล้วจะกลายเป็น ไม่มีเวลาเองคับ และผลตอบแทนก็จะมาตามบทบาทเองคับ
แต่สิ่งที่น่ากลัวและน่าหนักใจที่สุดในการทำงานมันไม่ใช่งานหรอกคับ มันคือ "คน"
ทั้งเพื่อนร่วมงาน  หัวหน้า  ลูกน้อง ....มีอะไรสอนเราอีกเยอะคับ

แต่อย่างไรก็ตาม...ทุกสายงาน ทุกอาชีพ ก็ต้องมีจรรยาบรรณในการทำงานนะคับ
ตราบใดที่ยังรับเงินจากเขาอยู่ ก็ควรจะทำงานให้เขาเต็มที่คับ
ถ้าไม่ชอบหรือไม่ใช่ ก็ลาออกไปเลยดีกว่าคับ อย่าอยู่ให้คนอื่นนินทาหรือด่าลับหลังเลยคับ
เพราะทุกที่มักจะมีคนประเภทที่อยู่ไปเรื่อยๆ อยู่ไปวันๆ ไม่ชอบ ไม่พอใจ แต่ไม่ไปไหน และไม่ทำงาน !!!

ไม่อยากให้บัณฑิตใหม่ กำลังหลักต่อไปของประเทศ ต้องมาเอาอย่างคนพวกนั้นคับ .... สู้ๆคับ เป็นกำลังใจให้คับ  :bbbear_34:


...ดินดาน  :bbbear_32:




หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:52:29 am
ผมจบมา ก็มา"ขี่หลังเสือ"

ทุกวันนี้เป็นนายเค้า. แต่ก็ต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้า ของ ผบ อยู่ดี
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:55:54 am
ผมเป็น IT Manager อยู่ DHL ครับ



..
...
..
....





(ล้อเล่น นะครับ  :bbbear_36:)

ผมเองเรียนจบมาหางานก็ไม่นานมากครับ เที่ยวเล่นก็ซัก 3 เดือนระหว่างนั้นก็หางานไปด้วย พอได้แล้วก็เปลี่ยนที่ เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ ที่ไหนว่าชอบ สังคมดีดี ก็อยู่นานๆ หน่อย ที่ไหนอยู่แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ ก็ค่อยๆ มอง ค่อยหากันไปครับ

ผมจบนิเทศศาสตร์ ครับจบมาก็ทำ Production House ถ่ายหนังโฆษณา มันส์ดี ลุยๆ อยู่ไปก็รู้สึกว่าไม่ใช่แนวเรา ก็เปลี่ยนไปทำ Agency โฆษณา - ก็อยากเป็นลูกค้าบ้าง ก็ออกมาทำ Marketing เสร็จก็อยากรู้ลึกๆ เกี่ยวกับการคิดงานพวก Marketing Activity - ก็ออกมาทำ Organizer พอรู้เรื่อง Event เยอะละ ก็พอละ - กลับมาทำ Marketing เหมือนเดิม ครับ

ที่อยากจะบอกก็คือ ประสบการณ์ในการทำงานนั่นแหละครับ สำคัญที่สุดในชีวิตทำงาน พื้นฐานเราแน่น ไปสมัครงานที่ไหนเค้าก็รับ เราอยากประสบความสำเร็จในด้านไหน ก็ไปด้านนั้นเอาให้รู้ลึกรู้จริงกันไปเลย อย่าอยู่แบบหายใจทิ้งไปวันวันเลย เสียเวลา เก็บประสบการณ์ให้ได้เยอะที่สุด ตอนนี้พึ่งเรียนจบใหม่ๆ อย่าให้ไฟมันมอดซะก่อน เพื่ออนาคตของเราเอง

*พึ่งเริ่มงานเก็บประสบการณ์ให้ครบปีก่อนท่าจะดีกว่านะครับ

สู้ๆ  :bbbear_46:

ประโยคเริ่มต้นพี่ ทำผมวูบบบเลยนะ!! :bbbear_38:

ลองขอ Rotation ไป Section อื่นในบริษัทเดิม นี่พอจะด้าน Sales ที่สนใจมั้ยครับ
ผมมองว่าบริษัทที่คุณอยู่ก็เป็นบริษัทที่ใหญ่และมีศักยภาพนะ น่าจะมีอะไรให้เรียนรู้อีก

ถ้ายังไง ลองยื่นๆใบสมัครที่อื่นดูก็ได้ครับ แต่อย่าเพิ่งออกเลย อิมเพรซ่ามันกินน้ำมันเน้อ 555

ผมลองยื่นไปมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แล้วเขาก็โทรมาเมื่อวานตอนเช้า แต่ผมลางานไปสัมภาษไม่ได้ เสียดายอ่ะ!!
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Teeraparp ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:59:08 am
ทำงานที่แรก ผมทำ 10 ปีครับ แฟนผมทำที่เดียวมา 20 ปีครับ ตั้งแต่จบ เบื่อมีกันทุกคน แต่ 2 เดือน รู้แล้วเหรอว่า เบื่อจริงๆ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Norasaker ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 11:03:04 am
ทำงานที่แรก เครียดดดมากก ทำที่สาทร ทั้งตึกมีแต่สาวๆ น่ารัก, สวย, sexy มีทุกแบบ เลือกมองไม่ถูก..เครียด
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 12:19:41 pm
ทำงานที่แรก ผมทำ 10 ปีครับ แฟนผมทำที่เดียวมา 20 ปีครับ ตั้งแต่จบ เบื่อมีกันทุกคน แต่ 2 เดือน รู้แล้วเหรอว่า เบื่อจริงๆ

พอดี ผมเคยทำงานเกี่ยวกับเซลมาก่อนน่ะครับ เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว ทำไปสักพักใหญ่ๆ ที่รู้สึกตอนนั้นคือ โคตรเหนื่อยเลย
แต่มันสนุก ได้เจอลูกค้าแปลกๆ โดนด่าบ้าง พลาดเองบ้าง แต่มันมีความสนุกอยู่ในงานของมันอ่ะครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ผมรู้สึกอย่างนั้น

และที่ผมมาสมัครทำงานที่ DHL เป็น IT ก็เพราะว่า ผมเรียนมาทางสายนี้ ก้อยากลองใช้ความรู้ให้ตรงกับสายงานซะหน่อย แต่ผลมันก็เป็นอย่างที่ผมเล่าให้ฟังตามที่ต้นกระทู้นั่นแหละครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 12:24:15 pm
ผมจบมา ก็มา"ขี่หลังเสือ"

ทุกวันนี้เป็นนายเค้า. แต่ก็ต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้า ของ ผบ อยู่ดี

บอกแล้วว่าเหนือจอมยุทธ ยังมี "มนุษย์เมีย"

 :bbbear_43:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 12:29:01 pm
ประโยคเริ่มต้นพี่ ทำผมวูบบบเลยนะ!! :bbbear_38:

ผมลองยื่นไปมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แล้วเขาก็โทรมาเมื่อวานตอนเช้า แต่ผมลางานไปสัมภาษไม่ได้ เสียดายอ่ะ!!

ไม่รู้ว่าจะทำให้เสียวขึ้นรึเปล่า "เดือนก่อนได้มีโอกาสขึ้นเวทีพร้อมกับ MD ของ DHL ครับ เป็นผู้ใหญ่ที่เป็นกันเอง และมีความเป็นผู้นำครับ"  ก็ลองหาโอกาสในองค์กรปัจจุบันดูก่อนครับ เพราะเป็นแบรนด์ระดับโลก อย่าเพิ่งท้อ ใช้เวลาสักพักภาพต่างๆ อาจจะชัดขึ้นนะครับ

 :bbbear_17:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: babysaloon ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 12:38:05 pm
ทำงานที่แรก เครียดดดมากก ทำที่สาทร ทั้งตึกมีแต่สาวๆ น่ารัก, สวย, sexy มีทุกแบบ เลือกมองไม่ถูก..เครียด


555 ชอบจัง


ดีใจแทน จขกท. ที่มีพี่ๆเข้ามาแนะนำเป็นอย่างดี

กระทู้นี้ทำให้นึกถึงตอนทำงานใหม่ๆเลยครับ....สิ่งเดียวที่คิดได้ตอนนั้นคือ งง
งง กับชีวิต  ทุกอย่างมันเปลี่ยน

สำหรับผม...เราควรรูก่อนว่าเราอยากทำอะไร...เป็นอะไร...(สายงาน) แล้วมุ่งไปสู่มันครับ
บางคนบอกไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไง...แต่โลกสมัยนี้ ไม่ต้องเสียเวลาไปลองเองเราก็รู้ได้ว่างานไหน...มีอะไรดี
บ้านเราเสียอย่าง คือ ไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญกับการแนะแนวเด็กก่อนจบเท่าที่ควร

ผมโชคดี ที่เจองาน เจอทาง ที่ชอบจริงๆ มาตั้งแต่แรก
ผมทำ Agency โฆษณาครับ
ทำมา 10 กว่าปีแล้ว
เปลี่ยนงานมาแล้ว 6 ที่ :bbbear_38:

แต่ไม่เคยเปลี่ยนสายงานเลยครับ....เจอมาแล้วแทบทุกรส...น่าจะแล้วนะ :bbbear_13:

ท้ายนี้...ขอให้เจออาชีพที่ใช่ และภูมิใจกับมันครับ :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 12:55:40 pm
เบื่องาน คือหมดใจ   มาลองนั่งคิดดูครับ หมดใจ เพราะอะไร ไม่สนุก เงินน้อยไป ถูกเอาเปรียบ ฯลฯ

หาคำตอบให้ได้ว่าเราเบื่อเพราะอะไร จะได้เดินทางถูกครับ

ย้อนไปเมื่อ ซัก 7 ปีก่อน เรียนจบก็พยายามหางานทำ เป้ามีอยู่แล้ว คืองานอะไรก็ได้ที่ไม่นั่งอยู่ออฟฟิส ได้เงินเยอะ หวยก็มทาออกที่ Sales ครับ

ข้อดีของ Sales คือ ไม่ต้องอยู่ออฟฟิสให้เครียด ออกไปเจอผู้คน จะแว่บไปไหนก็ได้
แต่ ข้อเสียก็เยอะเช่นกัน ทั้ง ต้องดิ้นรนทำยอด ต้องคอยถูกจำผิดจากเจ้านายว่าเมิงไปแว่บไหน ไปสัมภาษงานที่อื่นรึป่าว

ถ้าคนที่ไม่ชอบการดิ้นรนเอาตัวรอด ชอบเพลเซฟ เป็น sales ยาก ต้องใจรักจริงๆ

มาต่อครับ ก็เป็น sales กับการเป็นลูกจ้างให้กับบริษัทแบบ family business
ผมอยู่ที่นี่ บอกได้เลยครับว่า เป็นสถานที่บ่มเพาะ ให้ผมเรียนรู้อะไรอีกมากมาย ในชีวิตหน้าที่การงาน

เหมื่อนที่พี่ Hattori ว่าเลยครับ อยู่ปี 4 โอ๊ยยย อย่างป๋า จบมาทำงาน โถ่ ไอ้เด็กน้อย ผมถูกเจ้าของเรียกเข้าห้องเย็นไปด่า ถึง 3 เดือนเต็ม แบบวันเว้นวัน

ไม่หน้าด้านอยู่ไม่ได้ครับ แถมที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องพนักงงานออกกันว่าเล่น ตอนผมเข้ามาวันแรก พี่ๆ ในนั้นเค้านินทากันเต็มเหนี่่ยว ว่าไอ้หน้ายังงี้ อยู่ไม่เกิน 3 วัน

พอโดนด่าเข้าหนักๆ ผมไม่คิดอะไรมากแล้วครับ คิดได้อย่างเดียวตอนนั้น กรูจะเปลี่ยนคำด่าเป็นคำชมหวานๆ ให้ได้

ไม่มีอะไรมากครับ กับอาชีพ sales ที่จะแลกกับคำชมหวานๆ นั่นคือ "ยอดขาย" หลังจากนั้น 6 เดือน เกมพลิกครับ ทั้งบริษัทมองผมว่าไอ้นี่มันมาแรง มันไฟแรงเว้ย

ถูกวางตัวให้จะเป็น supervisor ในเวลาอันใกล้

แต่ๆๆๆ family business แบบที่นี่ คือ ถูกต้องไม่เอา เอาถูกใจ ผ่านมา 3 ปี เริ่มโดนเอาเปรียบ เริ่มโดนตุกติก งานที่จะได้หลุดไปจากการตัดสินใจผิดของผู้บริหาร ผมรับไปเต็มๆ กับคำว่า "แพะ"

นี่ล่ะครับ คำว่าหมดใจ ของผมมันเกิดขึ้นแล้ว เริ่มหาทางออกด้วยการเปลี่ยนงาน .... แล้วกรูจะไปขายอะไรต่อดีฟระ

และแล้ว พี่เบนซ์ (Benzino) ได้หยิบยื่นโอกาสที่น้อยคนมากๆ จะได้รับ คือการไปทำงานกับพี่เบนซ์ ทำงานกับกองทัพ ค้าขายอาวุธ รถถัง ปืนใหญ่ รถหุ้มเกราะ

ได้เจอบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน ได้โอกาสได้ทำในสื่งที่ไม่เคยทำ ถือเป็นความแปลกใหม่ไปอีกแบบ

ที่สำคัญไปกว่าการทำงาน คือ ผมได้เรียนรู้วิถีทางการใช้ชีวิต วิธีคิด ความรู้ และอีกหลายๆอย่างจากพี่เบนซ์คนนี้ครับ

อยู่ทำงานทีนี่มาซักพัก ชีวิตพลิกผันอีกครั้ง จะต้องไปแต่งงานอยู่บ้านนอก แต่ดันพลิกผันซ้ำซ้อน เลิกกันไปซะก่อน ที่นี้เลยต้องหาทางดิ้นรนชีวิตอีกครั้ง

ชวนพี่อีกคนที่เคยทำงานด้วยกัน เปิดบริษัทขายของแข่งกับที่ทำงานที่แรกซะเลย  supplier ก็เห็นว่าเราเปิด เลยตามกันมาเป็นพรวน และก็พอที่จะไปได้ดี

และก็มาหาทำอย่างอื่นเพิ่มอีก โดยเป้าหมายคือธุรกิจของเราเอง จับพลัดจับผลู ได้โอกาสเป็นตัวแทนขายหม้อน้ำ ขายเบรค ซึ่งด้วยแบรนด์ที่ไม่เป็นสองรองใคร ก็น่าจะไปด้วยดี

สุดท้ายชีวิตยังต้องเจออะไรอีกเยอะ ต้องดิ้นรนกันต่อไป

ขอให้เจ้าของกระทู้ สู้ๆครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 01:30:02 pm
แนวคิดพี่แต่ละคน อย่างเจ๋งอ่ะ!! :bbbear_34:
ผมคงต้องรีบหาทางจบเรื่องนี้ให้ไวๆละ ว่าจะเอางานเดิม หรือเปลี่ยนงานดี

ขอบคุณพี่ๆทุกคนด้วยครับ  :bbbear_35:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 01:33:32 pm
แนวคิดพี่แต่ละคน อย่างเจ๋งอ่ะ!! :bbbear_34:
ผมคงต้องรีบหาทางจบเรื่องนี้ให้ไวๆละ ว่าจะเอางานเดิม หรือเปลี่ยนงานดี

ขอบคุณพี่ๆทุกคนด้วยครับ  :bbbear_35:

หาคำตอบกับตัวเองให้เจอครับ ก่อนจะเดินทางผิด เพราะปัญหาเล็กๆ ถ้าคิดได้ว่าจะเอาทางไหนก็ลุยได้เลย

ผมมองเหมือนพี่ปุ๊ย Hattori นะครับ  DHL เป็นอินเตอร์ ก็ไม่ธรรมดา โอกาสเติบโตก็มี ยิ่งถ้าภาษาได้ด้วย ยิ่งไปได้เร็ว ก่อนจะคิดเปลี่ยนออกมา ก็ลองคิดดีๆ ก่อนนะครับ

ไม่มีหนทางไหนโรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจของตัวเอง

 :bbbear_19:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: tori_98 ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 01:47:18 pm
จะว่าไปตอนนี้ที่บริษัทที่ผมอยู่ก็ผูกขาดใช้บริการแต่ DHL ตลอดเลย
DHL Connect up version แต่ละทีผม(IT เหมือนกัน) ต้องมานั่งupdate ให้ ครั้งล่าสุดค่ีอยดีหน่อยมีทีม IT จาก DHL มาช่วยลง 5 คน (สัก 6 เดือนกว่าๆแล้ว)
เป็นกำลังใจให้ IT DHL นะครับ
ปล.เคยโทรไปขู่ DHL call center ด้วยสมัยยุคแรกๆที่เริ่มมาใช้ DHL connect แล้ว print ออกเครื่องพิมพ์ Zebra แล้วมีปัญหา เลยแกล้งบอกว่าถ้าไม่มี IT มาแก้ปัญหาให้ใน 2 ชม. พวกผมเลยบอกว่างั้นจะให้ user ไปใช้ Fedex แล้วนะ , 1 ชม.ผ่านไป IT DHL มาทีเดียว 3 คนเลย  :bbbear_43:

เล่าให้ฟังขำๆเพราะบริษัทเราเป็น partner กันนะครับ ออกทะเลไปนิดนะ  :bbbear_44:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 02:38:42 pm
เอามั้ง ว้อย....ผมอาจไม่ลำบากเท่าใครหลายคน

แต่ช่วยแชร์ละกัน ...อ่านมันๆ คลายเหงาใจ

เรียนจบที่ตัวเลข หกปี ตามเกณฐ์ คณะแพทย์

จบมาไม่ต้องคิดอะไรมากครับ พัก สิบวัน  จากนั้น ไปจกฉลาก เพื่อไปรับราชการ ตจว.

ซึ่งก้อเป็นข้อดี ไม่ต้องดิ้นรนหางาน ..

ซึ่งผมเลือกจังหวัดที่พ่อแม่อยู่ ในดินแดนทุรกันดาร .. เลยไม่ต้องรบรา แย่งกับใครนัก เด่วก้อต้องมีผู้ผิดหวังจากจังหวัดที่เจริญ

มาอยู่กับผม

15 เมษายน 2546 ผมเดินทางโดยรถยนต์ จาก กทม. จำได้ว่าตอนผ่านโคราช คนยังเล่นน้ำสนุกสนาน...

วันรุ่งขึ้น (มั้ง) ไปรายงานตัวที่ สนง. สาธารณสุขจังหวัด ...เจอเพื่อนใหม่ๆ

แล้วอีกวันก้อเริ่ม ทำงาน ตำแหน่ง นายแพทย์ 4 รับเงินเดือนที่ 8790 บาท

หมอจบมาใหม่ ใครก้อเรียกหมอ ครับ   ให้เกียรติ มากกว่า ที่จบสาขาอื่นมาใหม่ แต่ ...ในหัว ... จะรักษาคนไข้ได้มั๊ยวะเนี่ย

ไม่อยู่กับ อาจารย์แล้ว พี่ๆก็ไม่มีแล้ว   แล้วหมอรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อนช่วยมั๊ย ... ก็ช่วยล่ะนะ แต่ ไปเปิดคลินิคก่อน  ที่รพ ไว้ทีหลัง

ทำไมหล่ะ ... รายได้มันเยอะกว่าไงครับ   

ช่วงเวลานี้ เราเรียกกันเล่นๆว่า "ฤดูใบไม้ร่วง" ครับ   แต่ที่ร่วงไม่ใช่ใบไม้แต่อย่างใด หากแต่เป็นชีวิตคน ...

แต่เวรใน รพ. พวกเราก็ได้รับ ต่อจากพี่เขา เป็น รายได้เสริม ที่ เป็นรายได้หลัก 

ทำให้ในเดือนแรก ผมได้ 38000 มาโดยปริยาย ดีใจ๊ดีใจ  ก้อเอาให้แม่ไป..ทั้งกำ (คือมันห่อรัดหนังกะติ๊กมา)

คนมองว่า โอ้ว ทำงานเดือนแรก ได้เกือบสี่หมื่น   เราก็อว่า โอ้วววว เยอะ แต่ลองนึกดูนะครับ

ผมกะเพื่อน แปดคน   สองคนไปอยู่ รพช.(รพ.อำเภอ) เหลือ หก เวรวันละสามคน เท่ากับ อยู่วันเว้นวัน

นั้นเวรนอกเวลานะครับ ไม่รวม ในเวลาราชการ ที่ต้องทำอยู่แล้ว จันทร์ ถึง ศุกร์...


เด่วมาต่อ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 03:18:54 pm
เอามั้ง ว้อย....ผมอาจไม่ลำบากเท่าใครหลายคน

แต่ช่วยแชร์ละกัน ...อ่านมันๆ คลายเหงาใจ

เรียนจบที่ตัวเลข หกปี ตามเกณฐ์ คณะแพทย์

จบมาไม่ต้องคิดอะไรมากครับ พัก สิบวัน  จากนั้น ไปจกฉลาก เพื่อไปรับราชการ ตจว.

ซึ่งก้อเป็นข้อดี ไม่ต้องดิ้นรนหางาน ..

ซึ่งผมเลือกจังหวัดที่พ่อแม่อยู่ ในดินแดนทุรกันดาร .. เลยไม่ต้องรบรา แย่งกับใครนัก เด่วก้อต้องมีผู้ผิดหวังจากจังหวัดที่เจริญ

มาอยู่กับผม

15 เมษายน 2546 ผมเดินทางโดยรถยนต์ จาก กทม. จำได้ว่าตอนผ่านโคราช คนยังเล่นน้ำสนุกสนาน...

วันรุ่งขึ้น (มั้ง) ไปรายงานตัวที่ สนง. สาธารณสุขจังหวัด ...เจอเพื่อนใหม่ๆ

แล้วอีกวันก้อเริ่ม ทำงาน ตำแหน่ง นายแพทย์ 4 รับเงินเดือนที่ 8790 บาท

หมอจบมาใหม่ ใครก้อเรียกหมอ ครับ   ให้เกียรติ มากกว่า ที่จบสาขาอื่นมาใหม่ แต่ ...ในหัว ... จะรักษาคนไข้ได้มั๊ยวะเนี่ย

ไม่อยู่กับ อาจารย์แล้ว พี่ๆก็ไม่มีแล้ว   แล้วหมอรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อนช่วยมั๊ย ... ก็ช่วยล่ะนะ แต่ ไปเปิดคลินิคก่อน  ที่รพ ไว้ทีหลัง

ทำไมหล่ะ ... รายได้มันเยอะกว่าไงครับ   

ช่วงเวลานี้ เราเรียกกันเล่นๆว่า "ฤดูใบไม้ร่วง" ครับ   แต่ที่ร่วงไม่ใช่ใบไม้แต่อย่างใด หากแต่เป็นชีวิตคน ...

แต่เวรใน รพ. พวกเราก็ได้รับ ต่อจากพี่เขา เป็น รายได้เสริม ที่ เป็นรายได้หลัก 

ทำให้ในเดือนแรก ผมได้ 38000 มาโดยปริยาย ดีใจ๊ดีใจ  ก้อเอาให้แม่ไป..ทั้งกำ (คือมันห่อรัดหนังกะติ๊กมา)

คนมองว่า โอ้ว ทำงานเดือนแรก ได้เกือบสี่หมื่น   เราก็อว่า โอ้วววว เยอะ แต่ลองนึกดูนะครับ

ผมกะเพื่อน แปดคน   สองคนไปอยู่ รพช.(รพ.อำเภอ) เหลือ หก เวรวันละสามคน เท่ากับ อยู่วันเว้นวัน

นั้นเวรนอกเวลานะครับ ไม่รวม ในเวลาราชการ ที่ต้องทำอยู่แล้ว จันทร์ ถึง ศุกร์...


เด่วมาต่อ

ต่อด่วนเลยครับพี่ กำลังมันส์เลย!!
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: dodoo99 ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 04:05:33 pm
ผมจบมา ก็มา"ขี่หลังเสือ"

ทุกวันนี้เป็นนายเค้า. แต่ก็ต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้า ของ ผบ อยู่ดี

มี ผบ แล้วหรอครับ :bbbear_33:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: signifer ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 04:16:31 pm
อ่านประวัติคุณ เสือดำแล้ว สนุก น่าทำเป็นพ๊อกเก็ตบุ๊คมากเลย

ผมเรียนรหัส 42 นี่ก็จบมานานแล้วเหมือนกัน ความฝันผมตอนแรกคือเรียนให้ดีที่สุด พอจบตรีที่รังสิต ก็ต่อโทเลยเพราะตอนเรียนตั้งใจมาก
ต่อโท คุยกับทางมหาลัยว่า ถ้าจบขอบรรจุเป็นอาจารย์ประจำภาควิชา คอมพิวเตอร์ อาร์ต ประมาณนั้น

พอเรียนไปได้เกือบเทอม คุณพ่อผมป่วยด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ตอนนั้นคุณพ่อโคม่า เป็นเจ้าชายนิทราครับ ผมไม่เป็นอันเรียน
และคุณพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว พอมาเป็นแบบนี้ ครอบครัวก็เคว้ง ตอนนั้นเรียนไม่รู้เรื่อง ทะเลาะกับอาจารย์(อาจารย์แกไม่ค่อยสนใจว่าพ่อผมป่วย)
ผมทะเลาะแรงมาก และยื่นใบลาออกกับคณบดีเลย ซึ่งท่านก็ใจดีมาก บอกดรอปไว้ ครูอยากให้เธอกลับมาเรียนให้จบ

หลังจากดรอปคอร์ส ผมต้องกลับมาดูคุณแม่และน้องๆที่ยังเรียนมัธยม เรียนมหาลัยปีสอง เพราะกำลังใจไม่มีแล้ว ส่วนคุณพ่อนอนไม่รู้เรื่องอยู่ราชวิถี
หลังจากนั้น มีเพื่อนชวนไปทำงานที่เนตดีไซน์ครับ ในตำแหน่งผู้ช่วยอาจารย์ และเขยิบมาเป็นอาจารย์ในที่สุด ช่วงชีวิตที่อยู่เนตดีไซน์
สนุกกับการทำงาน แม้งานจะน่าเบื่อเพราะต้องสอนคอร์สซ้ำๆกับ บางวัน 3 คอร์ส เช้า บ่าย ค่ำ แต่นักเรียนโอเค ตั้งใจเรียน ทำให้เราสนุกกับการสอนด้วย
ส่วนเงินเดือน ถือว่าเยอะกว่า ป.ตรีที่อื่นพอสมควร และได้รับการยอมรับจากทั้งคนในบริษัทและนักเรียน(น่ารักเยอะ เคยสอนดาราด้วย อิอิ)
ชีวิตมาพลิกอีกที ตอน เข้าปีที่ 3 ที่เนตดีไซน์ คุณพ่อผมหลังจากนอนเป็นเจ้าชายนิทรามาสามปี ท่านก็จากไป วันนั้นจำได้เลยว่า
หลังจากจบคอร์สเช้า ช่วงผมพักเที่ยง ที่บ้านโทรมาบอกว่า พ่อจากไปแล้ว เลยแคนเซิลคอร์สบ่ายที่ต้องสอน กลับบ้านทันที
หลังจากเสร็จสิ้นงานศพคุณพ่อ คุณปู่คุณย่า ขอร้องให้กลับมาช่วยดูกิจการอพาร์ทเม้นต์ของที่บ้าน

จึงกลับมาช่วยที่บ้านจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันเป็นนายตัวเองมากว่า 4 ปีแล้ว ตอนนี้ขยายกิจการไปในด้านอสังหาริมทรัพย์
รู้สึกว่าเป็นงานที่ชอบ ท้าทาย และ สนุกกับมัน ไม่ต่างจากตอนเป็นอาจารย์

ตอนนี้มีความฝันเล็กๆว่า อยากเปลี่ยนอพาร์ทเม้นต์ที่ดูแลอยู่ ให้เป็น หอหญิงล้วน เสียจริงๆ ชีวิตคงแฮปปี้ทุกวัน ^^

ถ้าท่านใดอยากทำอพาร์ทเม้นต์ หรือ พวกอาคารพาณิชย์ ยินดีแลกเปลี่ยนนะครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 04:53:57 pm
ครับ ....  มาต่อ

อยู่กันไปวันเว้นวัน หรือจะเรียกคืนเว้นคืน น่าจะตรงกว่า อยากหยุดก็ทนอยู่ ติดๆกัน ไป จะได้ไปไหนได้บ้าง

จากวัน เป็นเดือน และ เป็นปี  เรา หมายถึง พชท แพทย์ใช้ทุน ก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป อยู่ตามแผนกต่างๆ

อายุรกรรม บ้าง  ศัลยกรรม สูติ เด็ก   และประสบการณ์ก็ค่อยๆเพิ่ม  ทั้งการทำงาน และ การเอาตัวรอด...

รอดจาก อะไร? รอดจากการทำงาน แบบ โดดเดี่ยว    ปรึกษาใคร เพื่อน ที่โง่ๆเท่ากันนั้นแหล่ะครับ

แต่ไม่ใช่พี่แพทย์ ทุกคนจะเป็น เอาเป็นว่าส่วนน้อยละกัน  ส่วนใหญ่พอพึ่งพาได้...


ผ่านไป ...ถึงเวลาอันเป็น มงคลฤกษ์ ผมได้ไปผจญภัย ที่ รพช. เสียที ยังจำได้เนอะ รพ.อำเภอนั้นไง

ผมโชคดี ที่ได้ไปอยู่อำเภอที่ไม่ไกล จังหวัดมาก 26 กิโล เอง  เป็น รพช. 30 สิบเตียง (ตอนนี้ขยายเป็น 60แล้ว)

หมอสามคน รวมผม ...   ชีวิตที่นั้นไม่ยุ่งเยิงเท่าไร ยกเว้น ....เวลาตรวจตอนเช้า

คนไข้ สองสามร้อย นั่งรอ ส่วนมากสั่งยาเดิม ขอฉีดยาบำรุง ยานวด กว่าจะเสร็จก้อ เที่ยง บางวันบ่าย

ทำอยู่อย่างนี้ วนไปวนมา   ตอนเย็น อยู่เวร ...ถึงเช้า..แต่เวรที่รพช.นี้ ถ้าไม่หนักหนา เช่น ไข้ นิดหน่อย ท้องเสียไม่มาก

คุณพยาบาลใจดี สั่งยาให้ก่อน พรุ่งนี้มาใหม่ พอให้เราได้พักบ้่าง   แต่อันไหนดูหนักก้อตามเรา

รักษาได้รักษาไป  ไม่ไหว   ..ส่ง   ส่งไปให้เพื่อนเรานั้นแหล่ะ ที่รพ จังหวัด 555 

ผมอยู่ที่นั้น ตอนเย็นๆ นั่งฟังเสียง ใบไม้ เสียงลม อากาศดีๆ  เค้าเลยได้เมียกันเยอะ 

แต่กับผม   เฮ้อออ..  กูอยู่ไม่ได้หรอก    กูเหงา  กูเบื่อ กู สารพัดจะกู ผุดมาในสมอง...

กลับ!! ต้อง กลับ กทม. เท่านั้น  ทำไงวะ  เลยพิจารณา หนทาง


เด่วมาอีกครับ กลับบ้านก่อน เมียรอ   


เด่วมาต่อครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TURBO-Plus ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 05:02:06 pm
ซื้อข้าวโพดคั่วกะน้ำ นั่งรอ ประวัติตาหมอต่อ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: mystic ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 05:08:38 pm
ตัวผมเอง จริงๆ แล้ว เริ่มทำงาน มาตั้งแต่ ม.ต้นเลยครับ

เนื่องจาก ธุรกิจที่ แม่ผม ทำอยุ๋นั้น มีปัญหา อย่างหนักครับ ทางบ้าน มีเงินให้ผม ไว้จ่ายได้แค่ ค่าหอเท่านั้น (ผมอยุ่คนเดียวมาตลอดครับ) ก็เริ่มจากทำงาน เป็น เด็กเฝ้าร้านเกม ได้ วันละ 30 บาท ครับ เริ่มงาน ตั้งแต่ 4โมงครึ่ง ถึง 5ทุ่ม ทำจนจบ ม.3 พ่อย้ายมาทำงาน ที่ ภูเก็ต ก็ได้กลับมาอยุ๋บ้าน กับพ่อ2คน ส่วนแม่ ก็ ต้องไปทำงานโรงแรม  ตอนนั้น ก็เริ่ม สอน กีต้าร์ที่บ้าน บ้าง ในวันเสา-อาทิต วันธรรมดา เย็นๆถึงกลางคืน ก็ ทำงาน ร้านพิซซ่า จนจบ ม.6 ก็ สอบติด มหาลัย (รับตรง)
ตอนมาเรียนมหาลัย ก็ยังยึดอาชีพสอนมาเรื่อยๆ ตามสถาบันดนตรีต่างๆ และ เล่นกลางคืนบ้างประปราย จนเรียนจบ ผมก็ เริ่ม หางานทำที่ เป็นหลักแหล่ง แต่ก็ยัง มีงาน เดิมๆ รองรับอยู๋ ก็ ได้มาทำ บริษัท kpnmusic ซึ่ง งานที่ทำตอนนั้น เกี่ยวโยงกับ โรงเรียนวัดใน กทม 90 โรงเรียน ผมได้รับหน้าที่ให้ดูแล 2โรงเรียน หน้าที่ๆต้องทำ มีตั้งแต่ เป็น ออแกไนซ์ จัดงาน สอนนักเรียนในโครงการ ประสานงานระหว่าง บริษัท กับโรงเรียน เหนื่อยครับ ปัจจุบันนี้ หมดสัญญางานไปแล้ว แล้วก็ มาได้งานใหม่ เป็น อาจารพิเศษ สอนอยุ๋ โรงเรียน อัสสัมชัน ธนบุรี ตรงตามสายงาน ค่อนข้างตรงกับสายงานที่เรียนมา วันเสา-อาทิต ก็ ยังสอน อยุ๋ตามสถาบันดนตรีตามห้าง กลางคืน ก็ ยังเล่นดนตรีตามผับต่างๆอยู๋ และก็ ให้บริการ เช่า เครื่องเสียง ตามงาน อีเวน งานแต่ง การทำงานของผม ก็ ประมานนี้ล่ะครับ

ถามว่า ทุกวันนี้ เบื่องานที่ทำอยู๋รึเปล่า ก็ไม่นะครับ อาจจะ ต้อง นอนได้ไม่เต็มที่บ้าง เป็นกรรมกร ยกเครื่องเสียงบ้าง ก็จะพยายาม หาเงิน สร้างตัวเองไปเรื่อยๆครับ ผมถือคติไว้อย่างนึงครับ มีงาน มีเงิน ครับ  :bbbear_19: :bbbear_19: :bbbear_19:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: NOp76 ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 05:12:08 pm
อาหมอรีบกลับมาให้ไว กำลังเพลินเลย

ตัวผมเอง จริงๆ แล้ว เริ่มทำงาน มาตั้งแต่ ม.ต้นเลยครับ

เนื่องจาก ธุรกิจที่ แม่ผม ทำอยุ๋นั้น มีปัญหา อย่างหนักครับ ทางบ้าน มีเงินให้ผม ไว้จ่ายได้แค่ ค่าหอเท่านั้น (ผมอยุ่คนเดียวมาตลอดครับ) ก็เริ่มจากทำงาน เป็น เด็กเฝ้าร้านเกม ได้ วันละ 30 บาท ครับ เริ่มงาน ตั้งแต่ 4โมงครึ่ง ถึง 5ทุ่ม ทำจนจบ ม.3 พ่อย้ายมาทำงาน ที่ ภูเก็ต ก็ได้กลับมาอยุ๋บ้าน กับพ่อ2คน ส่วนแม่ ก็ ต้องไปทำงานโรงแรม  ตอนนั้น ก็เริ่ม สอน กีต้าร์ที่บ้าน บ้าง ในวันเสา-อาทิต วันธรรมดา เย็นๆถึงกลางคืน ก็ ทำงาน ร้านพิซซ่า จนจบ ม.6 ก็ สอบติด มหาลัย (รับตรง)
ตอนมาเรียนมหาลัย ก็ยังยึดอาชีพสอนมาเรื่อยๆ ตามสถาบันดนตรีต่างๆ และ เล่นกลางคืนบ้างประปราย จนเรียนจบ ผมก็ เริ่ม หางานทำที่ เป็นหลักแหล่ง แต่ก็ยัง มีงาน เดิมๆ รองรับอยู๋ ก็ ได้มาทำ บริษัท kpnmusic ซึ่ง งานที่ทำตอนนั้น เกี่ยวโยงกับ โรงเรียนวัดใน กทม 90 โรงเรียน ผมได้รับหน้าที่ให้ดูแล 2โรงเรียน หน้าที่ๆต้องทำ มีตั้งแต่ เป็น ออแกไนซ์ จัดงาน สอนนักเรียนในโครงการ ประสานงานระหว่าง บริษัท กับโรงเรียน เหนื่อยครับ ปัจจุบันนี้ หมดสัญญางานไปแล้ว แล้วก็ มาได้งานใหม่ เป็น อาจารพิเศษ สอนอยุ๋ โรงเรียน อัสสัมชัน ธนบุรี ตรงตามสายงาน ค่อนข้างตรงกับสายงานที่เรียนมา วันเสา-อาทิต ก็ ยังสอน อยุ๋ตามสถาบันดนตรีตามห้าง กลางคืน ก็ ยังเล่นดนตรีตามผับต่างๆอยู๋ และก็ ให้บริการ เช่า เครื่องเสียง ตามงาน อีเวน งานแต่ง การทำงานของผม ก็ ประมานนี้ล่ะครับ

ถามว่า ทุกวันนี้ เบื่องานที่ทำอยู๋รึเปล่า ก็ไม่นะครับ อาจจะ ต้อง นอนได้ไม่เต็มที่บ้าง เป็นกรรมกร ยกเครื่องเสียงบ้าง ก็จะพยายาม หาเงิน สร้างตัวเองไปเรื่อยๆครับ ผมถือคติไว้อย่างนึงครับ มีงาน มีเงิน ครับ  :bbbear_19: :bbbear_19: :bbbear_19:

นี่หาเงินสร้างตัว หรือหาเงินแต่งรถฮะ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: mystic ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 05:14:04 pm
อาหมอรีบกลับมาให้ไว กำลังเพลินเลย

นี่หาเงินสร้างตัว หรือหาเงินแต่งรถฮะ

555  :bbbear_44: :bbbear_44:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 05:39:16 pm
ตัวผมเอง จริงๆ แล้ว เริ่มทำงาน มาตั้งแต่ ม.ต้นเลยครับ

เนื่องจาก ธุรกิจที่ แม่ผม ทำอยุ๋นั้น มีปัญหา อย่างหนักครับ ทางบ้าน มีเงินให้ผม ไว้จ่ายได้แค่ ค่าหอเท่านั้น (ผมอยุ่คนเดียวมาตลอดครับ) ก็เริ่มจากทำงาน เป็น เด็กเฝ้าร้านเกม ได้ วันละ 30 บาท ครับ เริ่มงาน ตั้งแต่ 4โมงครึ่ง ถึง 5ทุ่ม ทำจนจบ ม.3 พ่อย้ายมาทำงาน ที่ ภูเก็ต ก็ได้กลับมาอยุ๋บ้าน กับพ่อ2คน ส่วนแม่ ก็ ต้องไปทำงานโรงแรม  ตอนนั้น ก็เริ่ม สอน กีต้าร์ที่บ้าน บ้าง ในวันเสา-อาทิต วันธรรมดา เย็นๆถึงกลางคืน ก็ ทำงาน ร้านพิซซ่า จนจบ ม.6 ก็ สอบติด มหาลัย (รับตรง)
ตอนมาเรียนมหาลัย ก็ยังยึดอาชีพสอนมาเรื่อยๆ ตามสถาบันดนตรีต่างๆ และ เล่นกลางคืนบ้างประปราย จนเรียนจบ ผมก็ เริ่ม หางานทำที่ เป็นหลักแหล่ง แต่ก็ยัง มีงาน เดิมๆ รองรับอยู๋ ก็ ได้มาทำ บริษัท kpnmusic ซึ่ง งานที่ทำตอนนั้น เกี่ยวโยงกับ โรงเรียนวัดใน กทม 90 โรงเรียน ผมได้รับหน้าที่ให้ดูแล 2โรงเรียน หน้าที่ๆต้องทำ มีตั้งแต่ เป็น ออแกไนซ์ จัดงาน สอนนักเรียนในโครงการ ประสานงานระหว่าง บริษัท กับโรงเรียน เหนื่อยครับ ปัจจุบันนี้ หมดสัญญางานไปแล้ว แล้วก็ มาได้งานใหม่ เป็น อาจารพิเศษ สอนอยุ๋ โรงเรียน อัสสัมชัน ธนบุรี ตรงตามสายงาน ค่อนข้างตรงกับสายงานที่เรียนมา วันเสา-อาทิต ก็ ยังสอน อยุ๋ตามสถาบันดนตรีตามห้าง กลางคืน ก็ ยังเล่นดนตรีตามผับต่างๆอยู๋ และก็ ให้บริการ เช่า เครื่องเสียง ตามงาน อีเวน งานแต่ง การทำงานของผม ก็ ประมานนี้ล่ะครับ

ถามว่า ทุกวันนี้ เบื่องานที่ทำอยู๋รึเปล่า ก็ไม่นะครับ อาจจะ ต้อง นอนได้ไม่เต็มที่บ้าง เป็นกรรมกร ยกเครื่องเสียงบ้าง ก็จะพยายาม หาเงิน สร้างตัวเองไปเรื่อยๆครับ ผมถือคติไว้อย่างนึงครับ มีงาน มีเงิน ครับ  :bbbear_19: :bbbear_19: :bbbear_19:

สมกับที่เป็นเด็กใต้ด้วยกันจิงๆน้องบ่าว   :bbbear_34: :bbbear_34: :bbbear_34:

More jobs is better than " No job "   :bbbear_17:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: mystic ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 05:56:47 pm
สมกับที่เป็นเด็กใต้ด้วยกันจิงๆน้องบ่าว   :bbbear_34: :bbbear_34: :bbbear_34:

More jobs is better than " No job "   :bbbear_17:

 :bbbear_19: :bbbear_19: :bbbear_19:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 05:57:36 pm
อ่านประวัติงานแต่ละท่านนี่ไม่ธรรมดา สมกับความเป็น "เซียนซูบารุ" จริงๆ ครับ เพราะซูไม่ใช่รถที่คนปกติใช้ชีวิตสบายๆ เค้าอยากได้กันเลย ซึ่งมันก็สะท้อนคาแรกเตอร์ของเจ้าของพอควรทีเดียว ผมเลยไม่กล้าเขียนประวัติผมเลย เพราะแค่นั่งรถเมล์ไปกลับบ้าน - โรงเรียน วันละ 30 กม. คนเดียวตั้งแต่ป.4 เกือบตกรถเมล์ตายมา 3 ครั้ง และเกือบถูกแทงมา 2 ครั้ง พอจบก็ต้องหาเองทุกบาททุกสตางค์จนมีวันนี้ก็คงเป็นเรื่องพื้นๆ ไปละ ... หวังว่าเจ้าของกระทู้อ่านแล้วคงมีแรงฮึดขึ้นอีกเยอะนะครับ

 :bbbear_32:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ST@BL3 ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:15:27 pm
จบใหม่ๆก็หางานอยู่3-4เดือน จนวันนึงได้มีโอกาสทำงานที่เครื่องดื่มอัดลมโคล่าสีดำๆระดับโลกยี่ห้อนึงแถวหัวหมาก งานก็ตรงกับที่ตัวเองได้เรียนมาเฉพาะทางเหมือนกัน เป็นBusiness Developer ชื่อดูดีแต่จริงๆมันก็กึ่งๆระหว่างนักจัดการร้านค้าปลีกและsale ซึ่งบ่อยครั้งครับที่เรานั้นจะต้องมีบทบาทไปก้าวก่าย จัดการสินค้าในร้านเค้าด้วย รวมถึงกะสต๊อคสินค้าให้เค้าพอขายใน1-3รอบการสั่งซื้อ จริงๆผมชอบเลยอ่ะ วันๆไม่ได้อยู่ออฟฟิศเลย ผลตอบแทนก็ดีมากสำหรับเด็กจบใหม่เลยครับ เงินเดือน รวมค่าน้ำมัน ค่าเสื่อมรถ/ปี รายได้เฉียดๆ20000 แต่ที่อยู่ได้ไม่นานก็เพราะ เวลา ครับ เช้ามาต้องมาถึง7.30 มอนิ่งบรีฟจน9โมงแล้วก็ออกไปตามlistลูกค้า ซึ่งอย่างน้อยๆที่ผมเจอก็คือวันละ40ร้านค้า ทำงาน6วัน เฉลี่ยสัปดาห์นึงจะต้องเยี่ยมร้านค้าถึง240ร้าน ในแต่ละวันเค้าจะกำหนดให้เราต้องไปเยี่ยมร้านค้าให้ได้ครึ่งนึงภายในเวลาเที่ยงวัน ซึ่งมันยากนะครับที่จะทำเวลาได้ขนาดนั้น ผมลองเฉลี่ยแล้ว ร้านนึงต้องใช้เวลาให้น้อยกว่า7นาที ไหนจะรถติด ไหนจะจอดรถยากบ้าง โอยยยย ...กดดัน ถ้าไม่ได้ตามเป้าในแต่ละวัน ก็จะโดนด่าเลยครับ วันรุ่งขึ้นเห็นผลเลย ทำให้วันๆนึงผมจะกลับบ้านไม่ทันดูละครน้ำเน่าทุกที ไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย วันอาทิตย์หยุดวันเดียวก็ไม่อยากออกไปไหนแล้วเพราะเหนื่อยมาก สุดท้ายต้องขอลาออก เพราะผมเลือกที่จะมีเวลาให้ครอบครัว พ่อแม่ และตัวเองดีกว่า (จุดประสงค์ของคนเราต่างกันนะ ผมจะเลือกครอบครัวก่อน เงินมาทีหลัง จะน้อยกว่าหน่อยแต่ถ้ามีเวลาให้ครอบครัวก็โอเคกว่า)

ผ่านมา4เดือนด้วยขั้นตอนการคัดเลือกอันแสนยาวนาน ผมได้งานใหม่ที่ธนาคารนึงที่เด็กจะไปนาซ่าให้ได้ ผมเลือกสมัครงานที่นี่เพราะมันมั่นคงแน่ๆ มีเวลาให้ครอบครัวและแฟนตายตัว เวลาเลิกงานตายตัวเลยครับ ผลตอบแทนแม้จะน้อยกว่าแต่มันก็ใกล้บ้านผมมากกว่าเยอะ ทำเวลาได้ดีกว่าแถวหัวหมากแน่ๆ ค่าครองชีพถูกเพราะอยู่ชานเมือง ที่สังคัง"ห้อมล้อมด้วยสาวแบงค์ทั้งวัน" เป็นหนุ่มแบงค์มาได้พักใหญ่ก็รู้สึกลงตัวดีครับ งานซ้ำๆกันในแต่ละวัน แต่ลูกค้าหลากหลายความต้องการเหมือนเจอโจทย์ใหม่ๆทุกวัน ที่แน่ๆมียอดขายเป็นตัวบอกperformanceอีกแล้ว แต่ แต่ แต่.... มันhappyกว่างานเก่าเยอะครับ เพราะproductธนาคารเช่นเงินฝากมันเข้าถึงลูกค้าง่ายกว่า เพราะเงินต้นก็ไม่ได้หายไปไหน แถมยังได้ผลประโยชน์เพิ่มมาอีก บัตรเครดิตเอย สินเชื่อเอย สนุกดีครับ หาลูกค้าข้างนอกก็มีบ้าง จะเซ็งๆบ้างก็เห็นะมีอยู่เรื่องเดียวคือเป้ารายตัว ถ้าไม่ได้ตามเป้าก็โดนสวดมันอยู่นั่นอ่ะจนกว่าจะได้ เป้าเยอะครับ มันมันก็ไม่ได้ยากจนถึงขนาดจะหาไม่ได้ product แบงค์มันคืนผลประโยชน์ในตัวมันอยู่แล้วครับ 

สรุปว่าค้นพบครับว่าตัวเองมาสายนี้เหมาะสุด
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:22:52 pm
มาต่อครับ ...

ตอนอยู่ รพช. นั้น ยอมรับเลยว่า อะไรๆมันก้อไม่พร้อม รวมไปถึง ปัญญา ของผม

รพ.เล็กๆอยู่กลางทางไปจังหวัดใหญ่ ไหนเลยจะไม่มีอุบัติเหตุ  วันนึงเกือบๆสองทุ่ม ผมนั่งๆนอนๆอยู่ ...

หมอ อย่าไปไหนนะ ตำรวจ ว.มา ว.40 หมู่ .... เออ ไอ้ ว.สี่ศูนย์ นี้มันเอี้ยไรวะ   อีกสิบห้านาที

ผมเลยรู้โค้ด ว. ไปโดย ปริยาย  รถกระบะ ชน หก ล้อ  .... ผม หมอคนเดียว จบมา ปีนึง  พยาบาลสาม ผู้ช่วยสาม....

คนแรก เข็นเข้ามา  เออ คอหมุน ได้ ไม่เป็นไร ลองช่วยก่อน ... tube เอา tube มา  หมายความว่า จะใส่ท่อช่วยหายใจ

ยังไม่ทันเตรียม อีกคนเข้ามา ยังพอหายใจ รวยระริน  พอ! ลุงคนแรก เข็นไปเก็บได้  ไปช่วยคนที่พอจะรอดก่อน 

ท่อ ของลุงคนแรก เลย ใส่ให้คนสองไป   หน้าอกเนี้ย ยุบ ลมออกใต้ผิวหนัง  ..  ปอดแตกแน่ๆ.......เอา ICD มา

ICD คือท่อสำหรับระบา่ย ลม หรือ เลือด ออกจากช่องปอด โดย ต่อลงน้ำ ใช้น้ำเป็น one way valve ""ขนาด ประมาณ ท่อน้ำมัน 3/8 ใส่ไปหน้าอกด้านข้าง

ขณะนั้น รายที่สาม สี่ ห้า...แปด หรือเก้า จำได้ไม่ชัด   ก้อเข็นเข้ามา  ......   โชคดี ที่ ที่เหลือ ไม่เท่าไร...พอรอได้

กลับมาที่ ICD นะครับ  พยาบาล บอก ไม่มีค่ะหมอ ไม่มีใครใส่ มาหลายปีแล้ว ... "ไอ้เฮี้ย" ดังก้องในใจ 

แต่ที่ปากพูดไป ทำไงล่ะพี่ ตายนะ ถ้าไม่มี  นี่ก้อร่อแร่แล้ว   ผมไม่รู้ทำยังไง   เอาเข็ม เบอร์ใหญ่ที่สุดมา สามสี่ อัน ต่อสายน้ำเกลือ แทงๆๆ ต่อลงน้ำ

เอารถพยาบาลมา ส่งเร็วววววววว      หว้อๆๆๆๆๆ   ไปแล้ว มาจัดการที่เหลือต่อ ... 

สิบนาทีผ่านไป   หว้อๆๆๆๆ  กลับ มา  พยาบาล ที่ไปส่งเดินเข้ามา  เฮ้ยพี่ ทำไมเร็วจัง   ..... ป่าวหมอ ออกไป ถึง ปั๊ม สามแยกตลาด ก็ ...เรียบร้อย

อ่อ  ตายซะแล้ว   ไม่เป็นไร  ที่เหลือ ต้องไม่ตาย   แฮ่ๆๆ เพราะไม่หนักเท่าไร

หลังหัก ส่งไป รพ.จังหวัด คนนึง แล้ว อะไรอีกน้ออออ  จำไม่ได้แล้ว  ...จาก เกือบสองทุ่ม เสร็จสิ้น เที่ยงคืน  ... หมอไปนอนเถอะ เด่วพี่ดูให้ ถ้าไม่แย่

จะพยายามไม่ตาม...  ขอบคุณครับ พี่  แต่เรื่องICD ที่ไม่มี ไม่จบแน่  ค่อยฟ้อง ผอ. พรุ่งนี้    555


เด่วต่อครับ

หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:25:15 pm
ชีวิตหมอ ไปเขียนหนังสือได้เลยนะ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TURBO-Plus ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:25:37 pm
เห็นแต่ล่ะท่านเล่ามา น่าอิจฉาจัง ของผมไม่มีอะไรจะเล่าเลย :bbbear_27:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:44:21 pm
แต่ ไม่ได้ฟ้องครับ   

ผมไปบอกพี่หัวหน้าห้องฉุกเฉิน  พี่ครับ หามาไว้หน่อยนะ  เผื่อได้ใช้   เค้าบอกผมว่า หมอไม่ใส่กันมานานแล้ว

แล้วรพ.ใกล้ รพ.จังหวัด เลยส่งอย่างเดียว ไม่ใส่กัน.....จนวันนี้ไม่รู้หาไว้ยัง

อยู่ๆไป ก้อ เบื่อ ๆ ไป ตรวจคนไข้ ซ้ำๆๆๆ   ออกไปชันสูตร ศพ  รถชน  จมน้ำ แขวนคอ ไหลตาย    ...สารพัดจะตาย

อยู่เวร   กลางวันกิน ก๋วยจั๊บญวน เย็นกินข้าวตามสั่งหน้า รพ.  วนไปเวียนมา 

เอาวะ ผมโทรหา รุ่นพี่ ที่ รพ.แห่งนึง    พี่ ผมอยากไปเรียน......ศัลยกรรม .....   เออ ดี วันไหนว่างเข้ามาคุย กะอาจารย์ พี่จะพาไป


จากนั้น ผมก้อขอลางาน เพื่อ เข้ากทม. ขี่เรือบิน  ยังจำได้ ว่าเช้าวันที่ไปรอขึ้นเครื่อง เจอ วง บิ๊กแอส รอขึ้นเครื่องอยู่เหมือนกัน ...

ลงเครื่องก้อ จับแท๊กซี่ ไปรพ.  ... รุ่นพี่ ที่ตอนนั้น เป็น young staff พาไปหาอ.หัวหน้างาน

อ้าวว่าไง?   

..ผมจะขอมาเรียนต่อครับ ..

อืมมมม  คนสมัครเยอะนะปีนี้   คุณสมบัติก้อ น้อยกว่าเขา (ผมใช้ทุนมาไม่ครบ)   แล้วถ้าไม่ได้เรียนล่ะ

..ไม่เป็นไรครับ กลับไปใช้ทุนต่อครับ ปีหน้าฟ้าใหม่ผมจะมาสมัครอีก

อืมม  เดี๋ยว มาสัมภาษณ์ไว้ก่อนนะ เอาเบอร์ทิ้งไว้ ผมจะโทรแจ้ง มาสัมภาษณ์..

..ครับ    อารายวะ  แค่เนี้ย อุตส่าห์ แลกเวร ขี่เครื่องบินมา เท่าเเนี้ยยยคุยเท่าเนี้ยยยยย :bbbear_1:

ผมก้อกลับ ไปใช้ชีวิต วนๆๆๆ แบบเดิม ขากลับไม่เจอ วง นักร้องอะไรแฮ๊ะ...

ไม่นาน ก้อ โทรตามผม ไปสัมภาษณ์     ลักษณะ ก้อ อาจารย์หมอ ห้าคน รุม ถามนู้นนี่นั้น ถามสารพัด แม้กระทั่ง ดูบอลป่าว เชียร์ลิเวอร์พูล

หรือ แมน ยู    มีเมียหรือยัง ตั้งใจจะมีตอนมาเรียนป่าว  เที่ยวมั๊ย กินเหล้าป่าว ......อาจดู ติ๊งต๊อง  แต่ มีนัย ทุกคำถามครับ



เด่วมาต่อครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:51:25 pm
เห็นแต่ล่ะท่านเล่ามา น่าอิจฉาจัง ของผมไม่มีอะไรจะเล่าเลย :bbbear_27:
เหมือนกัลเลย อายจัง :bbbear_23:

สรุปicd มันคือโบล ออฟ ใช่บ่ แบบคายทิ้งซะด้วย

ปล.ดีนะที่ไม่เจอ แบงค์วงแคลชเซ็งห่านเลย555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:51:28 pm
มา เห็นเล่ากันเยอะแล้ว ผมขอถ่ายทอดมั่ง อาจจะเน่าหน่อย แต่นี่แหละผม

เกิดมาเป็นเด็กบ้านนอกชาวไร่ส้มคนนึง แต่อยู๋กับพ่อแม่ไม่ได้เพราะความรั้นและดื้อมากกกก จนถูกส่งไปอยู่กับป้าแล้วเรียนประถม 3
ตอนนั้นจำความได้  เกเรมาก เคยเผาบ้านตัวเองด้วยไม้ขีด ใหม้ไปเกือบทั้งหลัง จนป้าโมโหหวดด้วยก้านมะพร้าว ลายทั้งตัว หนีออกจากบ้าน ด้วยความคิดที่ว่า ไม่อยู๋ก็ได้ แต่ตกค่ำหิวข้าวไม่มีข้าวกิน ตกไปโขมยไข่ไก่ในฟาร์มตัวเอง มาแอบให้รถขายโรตีทอดให้กิน เป็นแบบนี้ทุกวันเลยต้องกลับไปง้อป้าและขอโทษท่าน ตอนนั้นพ่อก็ไม่รู้เรื่องว่าผมเป็นอยู่ยังไง ส่งเงินมาให้ใช้อย่างเดือนเดือนล่ะ15000 แต่เราได้ใช้จริง วันล่ะ 5 บาท

ข้ามมาตอนเรียน ปวช ที่เทคนิค ด้วยความผยอง ไม่ง้อพ่อแม่ เพราะโกรธที่ส่งเราไปอยู๋กับป้า เลยส่งตัวเองเรียนตั้งแต่นั้น งานชิ้นแรกที่ทำคือ ปอกผักในตลาดสดวันล่ะ 50บาท ปอกจนมือมีแต่รอยมีด วันนึงเจอเพื่อนที่เรียนด้วยกัน มันชวนให้เราไปเป็นเด็กเสิรฟในร้านอาหาร ได้เดือนล่ะ2000  เสริฟได้ไม่นาน  มาสนิทกับพ่อครัว จนมาขอเค้าเป็นผู้ช่วยกุ๊ก อัฟเงินเดือนเป็น 2500 เป็นได้ไม่นาน ก็หลงรักเด็กเสริฟที่ร้านแล้วอกหัก ทั้งๆที่ไม่เคย ป๊าม สก้ามกัน จนทำใจไม่ไหว ออกจากงาน มาเป็นเด็กเดินตั๋วหนัง เดือนล่ะ2500 ทำได้ไม่นาน ออกเพราะไปดักตีลูกเจ้าของโรงหนังเพราะหมันใส้
ตกงานช่วงนึง เพื่อนที่อยู๋ห้องเดียวกันก็ตกงาน ค่าเช่าห้องตอนนั้น 400 บาทต่อเดือน ห้องน้ำรวม แล้วบังเอิญเพื่อนมันติดบุหรี่ ตกงานไม่มีเงินซื้อ เลยพาเพื่อนเดินเก็บก้นบุหรี่ใส่ถุงแล้วให้มันดูด
จนวันนึงเดอนผ่านผับเธคทุกวัน เกิดความสงสัยว่ามันมีอะไรดี เลยเดินเข้าไปดูไม่มีเงินเที่ยว พอเข้าไปได้ แม่เจ้า คนเยอะมาก แสงสีสวยงาน เลยไขอเค้าทำงานในนั้น ได้เป้นเด็กบาร์น้ำ เดือนล่ะ2500 แต่ด้วยความที่เรียนเทคนิคไฟฟ้า เลยสนใจด้านแสงเสียง เลยไปขอช่างไฟในเธคทำงาน
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 07:59:17 pm
ต่อๆ
ตอนเค้าก็ไม่รับ แต่ด้วยความตื้อของเรา เราบอกแค่ว่าเงินเดือน1500ก็เอา เพราะผมชอบ หัวหน้าเลยให้ทำ
ด้วยความหน้าตาดี ขาว หล่อ 5555 เลยมีรุ่นพี่ชวนเป็นแดนเซอร์ เงินเดือน 4500 เป็นได้ไม่นาน มาชอบคอกับน้องคนนึง และเจอคำพูประโยคนึงว่า*พี่จะเต้นกินรำกินไปตลอดมั้ย* เท่านั้นแหละกูขอย้ายตัวเองไปเป็นช่างไฟแบบเดิม แต่ไม่พอแค่นั้น เกิดความสนใจด้านดีเจเปิดเพลงอีก เลยไปเป็นดีเจต่อ เงินเดือน5500  เป็นได้ไม่นาน กลัวเป็นเอดส์ตายเพราะตอนนั้น ฮอตมาก เลยกลับมาเป้นช่างไฟแบบเดิม
ด้วยช่วงนั้น ถานบันเทิงมีกฏเข้มให้ปิดตีสอง แต่ทางร้านรั้น ไม่ยอมปิด เลยเจอของแข็งเข้าให้ โดยยึดใบอนุญาติซะ
พอร้านปิด บังเอิญว่าหัวหน้าช่างไฟ รู้จักบริษัทอีเว้นในกรุงเทพ เลยฝากผมเข้ามาทำงานกรุงเทพ อ้อลืมบอก ตอนนั้นผมจบ ปวส แล้ว เลยไม่ห่วงเรื่องเรียน คิดแค่ว่ามาทำงานกรุงเทพค่อยต่อตรีให้จบ
พอมาอยู่กรุงเทพ ด้วยความที่เส้นใหญ่เจ้านายฝากงานให้เลยได้เป็นหัวหน้าแผนก lighting design เงินเดือน7500 ทำงานอยู๋ช่วงเวลานึง
ด้วยความเป็นคนช่างพูด กล้าลุย กล้าชน เลยมีลูกค้าของบริษัทเราชื่นชอบ เวลามีงานเค้าจะโทรหาเรา และนี่คือจุดเริ่มต้น
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 08:15:23 pm
ต่อๆ

พอทำงานนานๆเข้า ลูกค้าโทรหาเราบ่อยๆ เราก็เอางานเข้าบริษัท แต่มันเริ่มต้น bossmaตรงที่ ช่วงหลัง ไม่เอางานเข้าบริษัท แต่กลับโอนงานให้ที่อื่นทำ แล้วกินค่าคอม30% ทำแบบนี้จนตัวเองไม่ค่อยทำงานให้บริษัทตัวเอง แต่จะหนีไปคุมงานที่รับรับแล้วให้ที่อื่นทำ
ช่วงนั้นรายได้ต่อเดือนเกือบแสน เลยมีความคิดที่อยากลงทุนทำเอง ตอนนั้นมีเงินเก็บ 450000 เลยซื้อรถกระมือสอง แล้วลงของนิดหน่อย
ยิ่งทำลูกค้ายิ่งชอบ เพราะเราช่างพูด ช่างโม้ มีอยู่งานนึงเป้นงานใหญ่ งบเกือยห้าแสน แต่ของเราไม่พอ เลยกัดฟันโทรหาพ่อครั้งแรก ตั้งแต่หนีออกจากบ้าน แล้วของเงินทุนก้อนแรก 3 ล้าน มาลงอุปกรณ์แล้วเช่าตึกแถวเก็บของ แล้วทำหนักเข้าๆ จนอุปกรณ์ของเราเยอะกว่าบริษัทตัวเอง จนเจ้านายรูเรื่องว่าเราแอบทำเอง เค้าเลยเชิญให้ออก เราก็ออก แต่ก็เสียใจที่เนรคุณเค้ามา แต่อย่างว่านะครับ*เบื่อการก้มหน้ารับเงินเดือนตายตัว*เลยคิดแค่เพียง เราต้องเป็นนายคนให้ได้ จนพ่อเสียไปตอนนั้นผมเครียดมากที่พ่อเสียเพราะไม่เคยไปหาแกเลย ด้วยความโกรธที่ท่านส่งเราไปอยู๋กับป้า
ด้วยความที่เป็นลูกคนโต และมีน้องชายอีกคน สมบัตรทั้งหมด เลยต้องตกเป็นของผมและน้อง ไร่ส้มทั้งหมด650ไร่ บ้านสองหลัง ฟาร์มไก่9000ตัว เงินในบันชีอีก10กว่าล้าน
ด้วยความที่เราเป็นครอบครัวใหญ่ มีป้าและอาๆน้าๆเยอะ เราเลยให้เค้าจัดการทุกอย่าง เราขอแค่เงินลงทุน 6 ล้าน
จนถึงทุกวันนี้ ทำงานด้วยความลำบากตรงที่ต้องคอยแข่งขัน กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ตอนนี้ถ้าคิดมูลค่าอุปกรณ์ในบริษัทก็ตก25ล้าน และต้องดูแลคนงาน 36 คน บ่อยมากที่รับ5จ่ายหกทุกเดือน แต่ก็ยังดีตรงที่ เป็นนายตัวเอง ไม่ต้องก้มหน้ารับเงินเดือนใคร ขายรถก็เยอะ ขายบ้านก็บ่อย จำนำรถก็มาก แต่ก็พยายามปิดครอบครัวตัวเองว่า เราไม่ลำบาก เพราะเงิน6ล้านที่เอามา จริงอล้วก็ไม่อยากเอา แต่บริษัทต้องแข่งขันต่อ

ลืมบอกผมก็จบแค่ ปวส จะเรียนต่อหลายรอบ ก็มัวแต่บ้านงานอยู๋แบบนี้ ถอยก็ลำบากลูกน้องเยอะสงสารเค้า เดินต่อก็ต้องผ่านปัญหาให้ได้
แต่ก็ยังดีตรงที่เราทำฝันตัวเองได้ จากเด็กปอกผัก จนเป็นBOSS

ใครที่อ่านจนจบก็อย่างงกับภาษาที่ใช้ เพราะผมตาลายในการพิม  ขออภับหากพิมไม่ประติดประต่อ เพราะผมเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง :bbbear_40:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 08:21:18 pm
จริงๆมีเยอะกว่านี้เป็นสิบเท่า แต่เล่าย่อๆแค่พออินแทรนเจ้าของกระทู้หน่อย :bbbear_27:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: babysaloon ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 08:37:48 pm
 :bbbear_2:

หนุกทั้งพี่หมอ พี่ต้น เรย

ต่อเถอะฮะ จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 08:46:08 pm
:bbbear_2:

หนุกทั้งพี่หมอ พี่ต้น เรย

ต่อเถอะฮะ จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ
เรื่องเครียดในวันนั้น เปนเรื่องสนุกในวันนี้

สู้ๆครับทุกคน :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Pj_yo ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 09:02:30 pm
อ่านเรื่องของพี่ต้นbossma เหมือนกำลังดูหนังบู๊+ไซฟาย เลยครับ  :bbbear_32:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 09:34:17 pm
แต่ละคนนี่... :bbbear_1: สุดๆไปเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: babysaloon ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 09:48:27 pm
เรื่องเครียดในวันนั้น เปนเรื่องสนุกในวันนี้

สู้ๆครับทุกคน :bbbear_34:



เมื่อเย็น เจอพี่โชคตัวจริงด้วยครับ แถววิภาวดี

แต่ไม่รู้จะทักยังไง เพราะไม่ได้ขับ ซู ตอนนั้น :bbbear_35:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:00:11 pm
อ่านเรื่องของพี่ต้นbossma เหมือนกำลังดูหนังบู๊+ไซฟาย เลยครับ  :bbbear_32:

ซึ้งทุกท่านเลยครับ ตั้งแต่หน้าแรกแล้ว จขกท คงอึ้ง ของbossma  นี่นอกจากหนังบู๊+ไซฟายแล้ว ถ้าขยายความช่วงจะเป็นเอดส์อีกนิดนี่ได้แนว AV เพิ่มอีกด้วยน้าาา ....

 :bbbear_44:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:17:55 pm
ซึ้งทุกท่านเลยครับ ตั้งแต่หน้าแรกแล้ว จขกท คงอึ้ง ของbossma  นี่นอกจากหนังบู๊+ไซฟายแล้ว ถ้าขยายความช่วงจะเป็นเอดส์อีกนิดนี่ได้แนว AV เพิ่มอีกด้วยน้าาา ....

 :bbbear_44:
ไม่ใช่ไวรัส แต่เป็น เอดยส อดเย....มากกว่า555 :bbbear_44:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:25:01 pm


เมื่อเย็น เจอพี่โชคตัวจริงด้วยครับ แถววิภาวดี

แต่ไม่รู้จะทักยังไง เพราะไม่ได้ขับ ซู ตอนนั้น :bbbear_35:
จิงเนอะ ไม่รู้จะทักยังไง แต่เบรคให้ทางซูตลอด ชะลอให้แต่ไกล ใครเคยเจอวีออสขาวเบรคให้ทางคือผมเองครับ555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TURBO-Plus ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 10:47:31 pm
ผมดีใจกับทุกท่านที่ประสบความสำเร็จ และเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านครับ  เรื่องของผมไม่มีให้เล่า เพราะไม่มีอะไรจะเล่าจริงๆ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: mystic ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 11:25:14 pm
ต่อๆ

พอทำงานนานๆเข้า ลูกค้าโทรหาเราบ่อยๆ เราก็เอางานเข้าบริษัท แต่มันเริ่มต้น bossmaตรงที่ ช่วงหลัง ไม่เอางานเข้าบริษัท แต่กลับโอนงานให้ที่อื่นทำ แล้วกินค่าคอม30% ทำแบบนี้จนตัวเองไม่ค่อยทำงานให้บริษัทตัวเอง แต่จะหนีไปคุมงานที่รับรับแล้วให้ที่อื่นทำ
ช่วงนั้นรายได้ต่อเดือนเกือบแสน เลยมีความคิดที่อยากลงทุนทำเอง ตอนนั้นมีเงินเก็บ 450000 เลยซื้อรถกระมือสอง แล้วลงของนิดหน่อย
ยิ่งทำลูกค้ายิ่งชอบ เพราะเราช่างพูด ช่างโม้ มีอยู่งานนึงเป้นงานใหญ่ งบเกือยห้าแสน แต่ของเราไม่พอ เลยกัดฟันโทรหาพ่อครั้งแรก ตั้งแต่หนีออกจากบ้าน แล้วของเงินทุนก้อนแรก 3 ล้าน มาลงอุปกรณ์แล้วเช่าตึกแถวเก็บของ แล้วทำหนักเข้าๆ จนอุปกรณ์ของเราเยอะกว่าบริษัทตัวเอง จนเจ้านายรูเรื่องว่าเราแอบทำเอง เค้าเลยเชิญให้ออก เราก็ออก แต่ก็เสียใจที่เนรคุณเค้ามา แต่อย่างว่านะครับ*เบื่อการก้มหน้ารับเงินเดือนตายตัว*เลยคิดแค่เพียง เราต้องเป็นนายคนให้ได้ จนพ่อเสียไปตอนนั้นผมเครียดมากที่พ่อเสียเพราะไม่เคยไปหาแกเลย ด้วยความโกรธที่ท่านส่งเราไปอยู๋กับป้า
ด้วยความที่เป็นลูกคนโต และมีน้องชายอีกคน สมบัตรทั้งหมด เลยต้องตกเป็นของผมและน้อง ไร่ส้มทั้งหมด650ไร่ บ้านสองหลัง ฟาร์มไก่9000ตัว เงินในบันชีอีก10กว่าล้าน
ด้วยความที่เราเป็นครอบครัวใหญ่ มีป้าและอาๆน้าๆเยอะ เราเลยให้เค้าจัดการทุกอย่าง เราขอแค่เงินลงทุน 6 ล้าน
จนถึงทุกวันนี้ ทำงานด้วยความลำบากตรงที่ต้องคอยแข่งขัน กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ตอนนี้ถ้าคิดมูลค่าอุปกรณ์ในบริษัทก็ตก25ล้าน และต้องดูแลคนงาน 36 คน บ่อยมากที่รับ5จ่ายหกทุกเดือน แต่ก็ยังดีตรงที่ เป็นนายตัวเอง ไม่ต้องก้มหน้ารับเงินเดือนใคร ขายรถก็เยอะ ขายบ้านก็บ่อย จำนำรถก็มาก แต่ก็พยายามปิดครอบครัวตัวเองว่า เราไม่ลำบาก เพราะเงิน6ล้านที่เอามา จริงอล้วก็ไม่อยากเอา แต่บริษัทต้องแข่งขันต่อ

ลืมบอกผมก็จบแค่ ปวส จะเรียนต่อหลายรอบ ก็มัวแต่บ้านงานอยู๋แบบนี้ ถอยก็ลำบากลูกน้องเยอะสงสารเค้า เดินต่อก็ต้องผ่านปัญหาให้ได้
แต่ก็ยังดีตรงที่เราทำฝันตัวเองได้ จากเด็กปอกผัก จนเป็นBOSS

ใครที่อ่านจนจบก็อย่างงกับภาษาที่ใช้ เพราะผมตาลายในการพิม  ขออภับหากพิมไม่ประติดประต่อ เพราะผมเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง :bbbear_40:


พี่ผม สุดยอดครับบบ  :bbbear_34: :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: POP_EMS ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 12:35:12 am
 :bbbear_17: :bbbear_17: :bbbear_17:

You are all champions.
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: airron ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 07:47:24 am
 :bbbear_41: ผมเหนื่อยมากคับ...ก่อนอื่นผมทำงานเกี่ยวกะกลุ่มยานยนต์ คือตอนนี้นะคับรถไหม่จะเข้ามาหลายคับ กะพวกอีโก้คา ท้าทายมากคับ

ผมอยากให้พี่ๆๆน้องๆๆรู้ว่าการทำรถเป็นคันนั้น แสนลำเคนจริงๆๆ ผมไม่ได้นอนมาห้าวันแล้วคับ หุ่นยนต์มีปัญหา งานกะส่งไม่ทัน  เครียดครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 09:03:15 am
มาต่อ เด่ว ตามBossma ไม่ทัน ...

และแล้ววันนึง มีเบอร์รับที่เมม ไว้ โทรเข้ามา .....

สวัสดีครับ จารย์   .....เอ้อ  ผมรับคุณมาเรียนนะ เตรียมตัวไว้ อ่านหนังสือด้วย ...

ผมดีใจเนื้อเต้น  ฝันใกล้เป็นจริง  .......

ใช้ชีวิต วนๆๆ ๆๆ ๆๆ เหมือนเดิม ผิดแต่ มีความหวังรออยู่


จนวันสุดท้าย ผมก้อขับรถ ขับทางเดิม ผ่านโคราช แต่ไม่มีคนเล่นน้ำ เข้าสระบุรี อยุธยา และ กทม.


ปีนั้น รับมาเรียน สี่คน ครับ ผู้ชายสาม ผู้หญิงหนึ่ง   ไอ้ผู้หญิงเนี้ย เรียกไอ้ ถูกต้องแล้วววว  ฮ่าๆๆ

ก่อนเปิด เทอม    เราถูกส่งไปเรียนวิจัย ที่จุฬา 5 วัน  ได้คุยทำความรู้จัก  รวมถึงเพื่อนๆจากสถาบันอื่น อีก เกือบ 80 ชีวิต

และวันที่ 1 มิย ก็เริ่มต้นชีวิต แพทย์ประจำบ้าน  ... พวกมาเรียนต่อหลังจบหมอแล้ว เรียกแพทย์ประบ้าน หรือ resident

ผมก้อไม่รู้ ว่ามันประจำบ้านยังไง จวบจนวันนี้... 

เรียนศัลย์ สี่ปีครับ  สมัยรุ่นเดอะ อย่างที่หมอ ในชาวซูบารุเรา เรียน สามปี  ผมรุ่นสมัยใหม่ เอาให้โหด สี่ปีไปเลย

วันแรก ...  พี่คนนึง ใน สี่คน  เฮ้ยไอ้ต้น กูมาลาออก! อ้าว เฮี้ยและ   ทำไมอ่ะพี่ ยังไม่ทันไรเลย

..แฟนกูท้อง   

ท้องแล้วไงพี่ ก้อมาเรียนดี๊ 

..ห่าเมิง  ยังไม่ได้แต่งงาน  พ่อเขาจะเอาเรื่องกูอยู่ ไปเคลียร์ก่อน  ฟ้าสีทองผ่องอำไพ กูคงได้มาอยู่กะเมิง .......ไปแล้ว หนึ่ง พี่ตั๊ม รุ่นพี่ ที่มหาลัย

เตะบอลกินเหล้ากันมาตลอด  แล้วแกก้อจากไป ทิ้งน้องรักไว้แต่เบื้องหลัง

เอ้าเหลือสาม ไปเป็นไร สบาย....สามก้อสาม   
.
.
.
ชีวิตแพทย์ประจำบ้านปีหนึ่ง ทำอะไร โอ้วววว  สาธยาย หมดไม่หมด

เด่วว่าต่อครับ

   
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 09:12:41 am
 :bbbear_34:  :bbbear_34:

ค่อยเข้าแก๊ปวัน "ศุกร์หรรษา" หน่อย ปูเสื่อรอครับคุณเสือดำ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: BOMBER_IMP ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 09:30:48 am
แต่ละท่านชีวิตสุดยอดมาก  :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Akaradech------> ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 09:57:31 am
 :bbbear_46: :bbbear_46: :bbbear_46:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: SilverGC ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 10:26:58 am
พอจบกระทู้ น่าจะเอาไปพิมพ์หนังสือ "ศาลาคนสู้" เอาไว้แข่งกะ "ศาลาคนเศร้า" ได้ 555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: pongpolh ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 10:28:44 am
ชื่นชมหลายๆ ท่านที่มุมานะ จนมีวันนี้ได้
 :bbbear_34:




... มารออ่านเรื่องคุณเสือดำนะครับ สนุกและได้แง่คิดดีครับ  :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 10:39:58 am
อ้าว เคยบอกแพทย์ประจำบ้านมีหน้าที่ จีบพยาบาล เจอคนไข้สวยขอตรวจภายใน :bbbear_44:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 10:50:55 am
มาต่อครับ วันนี้ดูว่างๆ น่าจะได้หลาย

ปีหนึง แพทย์ประจำบ้านศัลยกรรม....... กรรมกร ชั้นดี จบปริญญาตรี ดีกรีหมอ

จริงๆครับ ทำทุกอย่าง ตามฟิล์ม ตามแล็ป วิ่งขอนู้นนี้  เตรียมและจัดคิิวผ่าตัด นั่งช่วยตรวจคนไข้

ช่วยนะครับ ไม่ค่อยได้ตรวจเอง   ค่อยๆเล่าไปนะครับ

เช้ามา ไป ราวน์ (คือตรวจคนไข้ที่นอนอยู่ในตึก เรียก round ward) ตั้งแต่ ตีห้า ..ทำแผล..

วันไหนเคสแยะ ... เช้ากว่านี้อีก

เตรียมของให้พร้อม คนไข้ ประวัติ แล็ป รอพี่ หัวหน้าสาย คือพวกพี่สาม ปีสี่  และ อาจารย์ มา ราวน์

ข้อมูลทุกอย่าง สิ่งที่ต้องทำต้องพร้อมครับ ไม่งั้น   ...เราจะเป็นใบ้ ทันทีที่เค้าถาม   แล้วจะเป็น ควาย ต่อไป

ที่สำคัญต้องอ่านหนังสือมาก่อน ก้อจะรู้ว่า เขาจะถามอะไร  และก้อจะได้รู้ว่าต้องเตรียมอะไร  ฮิฮิ

หากมีปํญหาหนัก ก้อ ห้องเย็น อันนี้ดีมาก โดนด่า คนเดียว    และ ห้องร้อน คือโดนเดียวนั้น น้องนักเรียน คนไข้ ญาติอยู่หมด

..

จบ แปดโมง ไปเข้า conference แต่ละวันจะมีหัวข้อ แตกต่างไป คนเตรียมก็ ปี1 ส่วนใหญ่  ปีสอง สาม สี่ ลดหลั่นไป ตามความยากง่าย

มีเมามัน มาก คือ M&M    อ๊ะๆๆ ไม่ใช่ชอคโกแลตนะครับ  มันคือ ความตายของเหล่า แพทย์ประจำบ้าน

มันคือ MORBID & MORTAL  ทุกเคสที่มีปัญหา จากการรักษา ตั้งแต่ เล็กน้อย แผลติดเชื้อ แผลแยก วินิจฉัยผิด ล่่าช้า ผ่าซ้ำ  จน... ตาย

ต้องเอามารายงาน และ ทำไม ทำไม ทำไม   วัน M&M ทุกอย่างประดัง เบซา   คำด่า ตั้งแต่ ไอ้โง่  เฮี้ย ห่า และสารพัดสัตว์  เหน็บแหนม ประชดประชัน

โอย มันชิบหาย (ถ้าเราไม่โดน)  น้องนักเรียนแพทย์ นั่งยิ้มกัน แพทย์ประจำบ้านหำหดกันหมด ....

ก่อนจะด่า อ.เขาจะถามนี้แหล่ะ คุณคิดยังไง ทำไมเอาไปผ่า  เตรียมยังไง ทำไมเป็นแบบนี้ ผ่าไปทำอะไร ทำไมตาย  ก็ตอบเขาไปนั้นแหล่ะครับ

ผมอย่างนี้ อย่างนั้น       ถ้ามันไม่ถูกต้อง ก็  เริ่มและ ไอ้ ..... เป็นชั่วโมง หรรษาจริงๆ   แต่ถ้ามันถูก ทำดีทุกอย่างแต่ เสียคนไข้ไป   ไม่ได้ชมนะครับ 

เออ ... สมศักดิ์ศรี  ตายอย่างนี้ ไม่มีใครว่า ....

เรื่องนี้ คนอาจสงสัย แม้แต่หมอสาขาอื่น มักมอง มองผ่าตัดว่าเถื่อน ถ่อย หยาบคาย   แต่  ...มันเป็นอีกวิธี ให้มันจำ ครั้งหน้าต้องไม่ตาย ..

หมอผ่าตัด ตายไม่ตาย  อยู่ที่มือเรา เท่านั้นครับ 

เด่วมาต่อ

       
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 10:57:24 am
โลกสวยด้วยมือเรา555 :bbbear_23:

เฮ้ยให้ไว ปูเสื่อรอแล้ว ข้าวกลางวันไม่ต้องกิน มาเหลาก่อน :bbbear_39:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ValenDear ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:09:03 am
คล้ายๆ กับเรื่อง God hand เทรุ หัตถ์เทวดา (การ์ตูนเรื่องเดียวที่เมื่อก่อนผมติด) เลย การ์ตูนเกี่ยวกับหมอผ่าตัด โหด มัน ฮา จริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:11:19 am
.....

หมดชั่วโมงเช้า ก้อทางใครทางมัน

สายผ่าตัดไป เข้าห้องผ่าตัด  เราปีหนึ่ง ก้อ ยืนดูบ้าง ได้เข้าช่วย มือสองสามบ้าง ไม่ได้ผ่าหรอก

อ.แต่ละท่านก้อคาร์แคเตอร์ไม่เหมือนกัน บางคนใจเย็น เงียบๆ บางคนใจร้อน ปากหมา ด่าหมด

เรา  ปรับตัวให้ทัน ปากพูดอย่างเดียว ครับๆๆๆๆๆ  ๆๆๆๆ ๆๆๆ ขอโทษครับบ

สายออกตรวจก้อไปตรวจ OPD ไป   สลับวันกัน ..

ตอนเย็นก็มาราวน์ เย็นอีก  เหมือนเดิม ครับ เสร็จกี่โมงยามก้อว่ากันไป

แล้วก้อ อยู่เวร .......... เวรกรรม น้องปีหนึ่ง วิ่งดูทุกอย่าง ทำได้ทำ ทำไม่ได้ตามพี่ ตามกันไปเรื่อยยันอาจารย์

ความเมามัน ก็ในเวรนี้แหล่ะครับ  ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้นอน  วันได้ได้นอน โชคดีจริงๆ


สองสัปดาห์   เพื่อน อีกคน ก้อ อำลา   ไปชนิดไม่บอกกล่าว เก็บของออกจากหอพักหนีไปเลย

ซวยและ เหลือพะหน่อ เสือดำกะพี่สาวหัวใจชาย     

พอรู้ว่า เหลือสองคนเท่านั้น   พี่บี (นามสมมติ) เดินมาหาผม ปากอมบุหรี่  (คนนี้ กินเหล้า ยังกะน้ำ ดูดยา วันสองซอง สาวๆในคอนโทรล เพียบ)

ไอ้เสือดำ ถ้าเอ็งจะตัดช่องน้อย บอกพี่ก่อนนะ ไปด้วย   ถ้าเอ็งอยู่ พี่ก้ออยู่   .....เอ้า ได้ พี่ เหมือนกันถ้าพี่ไม่ไหว บอกผมด้วย...

เด่วมาต่อครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:12:11 am
ขอย่อชีวิตช่วงเริ่มก้าวกายเข้ากรุงเทพ เดี๋ยวแพ้ไอ้หมอมัน

หลังจากที่ตกงานจากงานประจำผับเธค ก่อนหน้านั้นได้พบนักเรียนพยายบาลสาวคนนึงซึ่งกำลังจะจบ มาเต้นอยู่ในร้าน น่ารักมาก เราเลยจัดซะให้เด็กเสริฟไปขอเบอร์เพจ แล้วก็เริ่มสานรักกัน จนวันนึงเธคปิดบริการถาวร ด้วยความที่ไม่มีงานทำ บวกกับผ่อนรถนิสสันเอ็นวี  ค่าเช่าห้อง ใจก็คิดจะกลับไปหาครอบครัวดีมั้ย แต่ถ้าไปเค้าจะคิดว่าเราไปไม่รอดหรือปล่าว คิดต่างๆนาๆ แต่แล้วก็ไม่ไป จังหวะที่แฟนเรียบจบพยาบาลพอดีแล้วได้ประจำที่อนามัยชุมชนในกำแพงเพชร เค้าเลยชวนเราไปอยู่ด้วยกันก่อนมั้ย แล้วค่อยหางานทำ แรกๆเราก็กลัวคนอื่นหรือเพื่อนๆดูถูกว่าเกาะหญิงกิน แต่เราก็ทนเสียงอ้อนวอนจากแฟนไม่ไหว เลยต้องไป  ถึงอนามันวันแรกสายตาคนในนั้นมองเราแปลกๆ ตัวขาว ผมยาว ตุ้งติ้ง และตั้งแต่แต่นั้นมาเราเลยได้ชื่อว่า *ผัวหมอ* ผมกินอยู่แบบนั้นมาเป็นปี พอมีกิจกรรมชุมชน หรือฉีดยายุงลายหมู่บ้าน ไอ้เครื่องพ่นควัญอ่ะนะ เราก็อาสาไปช่วยเค้า เดินพ่นวันล่ะหมู่บ้าน ชาวบ้านก็ดีพอเห็นว่า ผัวหมอมาแล้วๆมาๆ กินข้าวกินปลาก่อนค่อยกลับอนามัย ตอนนั้นมีความสุขกับงานชุมชนซึ่งต่างจากงานกลางคืนที่เคยทำ หรือกระทั่งเวลามีคนไข้ป่วยหนักเราก็จะอาสาขับรถอนามัยไปส่งคนไข้ที่จังหวัด ผมขับรถเร็วสุดตอนนั้น130 ขี้แทบพุ่ง แต่ด้วยความคะนอง จนวันนึงพาคนไข้ไปส่งโรงบาลจังหวัด หักหลบรถรถขนอ้อย ลงข้างทางตกบ่อน้ำข้างทาง เราคอหักแขกหัก แต่คนไข้ในรถจากที่ไปรักษาตัวโรงบาล กลับต้องมาตายในหน้าที่ของเรา แล้วพยาบาลในรถอีกคนก็หัวแตกแขกถลอก ช่วงนั้นกลัวและหลอนกับสิ่งที่เกิด กว่าจะทำใจได้ก็ต้องเข้าวัดกันสนุกเลยทีเดียว
จนวันนึงพ่อแม่แฟนรู้เรื่องว่าเราไปอยู่กับลูกสาวเค้า เค้าเลยต้องการให้ผมจัดการทุกอย่างตามประเภณีด้วยการแต่งงาน แต่.....
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TURBO-Plus ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:13:10 am
เจ้าของกระทู้ อ่านชีวิตไอ่หมอ กะ กะบดป่านนี้ ผูกคอตายแล้วครับ ชีวิตมันเส้าลำบากกว่าตูอีก :bbbear_41:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:22:36 am
ด้วยความที่เราไม่มีงาน ไม่มีเงิน จะทำไงดีเลยต้องตัดสินใจโทรหาพ่อ แต่ติดต่อไม่ได้ เลยโทรน้า ประโยคแรกที่น้าพูด*มืงยังจำญาติพี่น้องได้อีกหรอ* เท่านั้นแหละ ผมวางสายทันทีพร้อมกับน้ำตาความหยิ่งผยองของเรา ตอนนั้นลืมบอกผมอยู๋กับแฟนด้วยเหตุผลที่เค้าขอร้องให้อยู่ไม่อยากให้ไป เค้าจะหางานให้ผมทำเอง ผมเลยไปใหนไม่ได้เลยต้องอยู่เกาะเค้าตลอด เสร็จแล้วช่วงนั้นคิดมาก อีกไม่มีอาทิตย์ก็ต้องแต่ง เงินก็ไม่มี ตอนนั้นสินสอด 10/10 เลยตัดสินใจบอกแฟนตัวเองว่า *ตัวเอง เค้าไม่มีเงิน เค้าไม่กล้าคุยกับทางบ้าน*แล้วก็นั้นงน้ำตาตกให้แฟนเห้นซะ1ดอก สิ่งแรกที่แฟนผมทำคือ หยิบสร้อยคอ และข้อมือ และทองแท่งมาวางที่มือผม แล้วสมุดบันชีเค้าทั้งหมด แล้วบอกผมว่า *ตัวเอง เค้ารู้มาตลอด ตัวเองอย่าคิดมาก นี่ไงสินสอด* ผมถึงกับอึ้งพูดไรไม่ออก ตอนแรกผมปฎิเศษ จนทะเลาะกันงอนกันเป็นวัน ผมเลยต้องยอมทำตามที่เค้าบอก
วันแต่งงานเป้นวันงานที่อัอายที่สุด ผมไม่กระทั่งญาติพี่น้องคนใหนเลย มีแต่เพื่อน ยกขบวนขันหมากไปขอ ทำพิธี จนจบงาน แต่งงานไปทั้งน้ำตาจริงๆ เงิน ทอง ญาติพี่น้อง สินสอด *เราไม่มีเลย* พอแต่งจบไม่นาน มาพอปันหาของเสียงคนในหมู่บ้านประมาณว่า*เกาะเมียกิน* เอาเลยทีนี้ได้จังหวะหางานแล้ว เลยคุบกับเมียตัวเองว่า *ตะเองเค้าต้องทำงานแล้วหล่ะ อยู่แบบนี้นานๆไม่ดีแน่* เค้าเลยลยยอมให้ทำ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: SilverGC ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:29:48 am
เจ้าของกระทู้ อ่านชีวิตไอ่หมอ กะ กะบดป่านนี้ ผูกคอตายแล้วครับ ชีวิตมันเส้าลำบากกว่าตูอีก :bbbear_41:


 :bbbear_17: :bbbear_17:
 :bbbear_41:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:32:21 am
สิ่งแรกที่คิดได้คือ โทรหาลูกพี่หัวหน้าช่างไฟให้เค้าหางานให้ ได้คำตอบมาว่า มืงไปกรุงเทพเลย อยู๋แถวทาวอินทาวบริษัท...ไปถึงแล้วบอกเค้าว่า น้าหินฝากมา ผมเลยตัดสินใจเดินทางด้วยรถทัว กำแพง-กรุงเทพ ก่อนขึ้นรถบอกเมีย *เค้าจะกลับมาหาตะเองเดือนล่ะครั้งนะ* พอมาถึงกรุงเทพลงหมอชิต อั้ยย่ะวุ่นวายแท้ แล้วทาวอินทาวไปทางใหนหว่า เลยหยอดตู้โทรหาลูกพี่ว่าไปไงต่อ แกตอบแค่เพียง ถ้าจะอยู่กรุงเทพมืงต้องเรียนรู้เอง แม่งอย่างกับในหนัง 555 สิ่งแรกที่แวบคิดได้คือแทกซี่เท่านั้น จ่ายเยอะแต่ถึงชัว วันนั้นออกจากหมอชิตบ่ายสอง ถึงทาวอินทาวหกโมงครึ่ง มิเตอร์ถึงกับจุก2200กว่าบาท เอาว่ะยอมจ่ายดีกว่าโง่หลงทาง ลงถึงบริษัทเดินไปถามยามว่า พี่ครับ พี่เอกอยู่มั้ยครับ ชันสองเลยน้อง แลกบัตรด้วย เสร็จนั่งสัมภาษสักพักสรุปว่าได้เงินเดือน4500หักประกันสังคมโน้นนี่นั่นเหลือ3400 หาที่พักเองค่าอาหาร60ต่อวันตำแหน่ง *เด็กโหลด * พอสัมภาษจบเลยหาที่พักนอน พรุ่งนี้เริ่มงาน ตอนนั้นเงินเหลือติดตัว6000 เดินหาห้องเช่าถูกๆ สรุปได้ห้องเช่าซึ่งอยู่ติดคลองน้ำคลำ เดือนล่ะ1500 ไม่มีพัดลม ไม่มี้องน้ำ มีแต่พื้นห้องผุๆกับเสื่อน้ำมัน ถ้านอนดิ้นมีหวังตกคลองแน่ เอาว่ะแค่ซุกหัวนอนหางานทำนอนก็นอน ตื่นเช้ามาเข้าทำงานด้วยความไม่คุ้นหน้าใครเลย ทำจนเลิกงาน5โมงเย็น...
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:41:10 am
ด้วยความคิดถึงเมีย และเหงา และเคว้งอย่างมาก หยอดตู้โทรหาแฟนแล้วบอกแค่ว่า*ตะเองเค้าคิดถึงตะเอง เค้าอยากกลับไปตะเองอ่ะ* เมียตอบกลับทั้งเสียงสะอื้นว่า *ตะเองก็กลับมาซิ เค้าก็คิดถึง* เท่านั้นแหละนั่งแทกซี่ไปลงหมอชิต แล้วขึ้นรถทัวรอบทุ่มครึ่ง ไปถึงกำแพงห้าทุ่มกว่า ลงจากรถได้เจอแฟนยืนรอรับ โดดกอดด้วยความคิดถึง*แค่วันเดียวที่ห่าง* เท่านั้นไม่พอ พอตื่นเช้าด้วยหน้าที่กลัวโดนที่บริษัทด่า เลยบอกเมียว่า เดี๋ยวตีห้าเค้ากลับนะ เราเลยขึ้นรถทัวรอบหกโมงเช้ากลับกรุงเทพ เป็นแบบนั้นสองวันครั้งไปๆมาๆ จนทนไม่ไหว เมียเลยบอกให้อยู่กรุงเทพเถอะเดี๋ยวเค้าไปหาเอง เมียผมเลยขับรถมาหาผมในกรุงเทพอาทิตย์ละครั้ง จนนานๆเข้าผมเริ่มชินกับกรุงเทพ และเกิดความรักงานอย่างเต็มตัว บวกกับอดีตของตัวเรื่อง แต่งงานแบบอับอาย เกาะเมียตัวเอง บวกกับสงสารเมียตัวเองที่ต้องมาคอยนั่งคำนวนว่าเดือนนึงทำงานเงืนเดือนจะเหลือเทาไร เดือนนึงห้ามช๊อต ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เราคิดตอนนั้นว่าลำบากโน๊ะเมียเรารวมทั้งเราด้วย
เราสงสารเค้ามากมันเป้นเริ่มต้นความของเราที่ว่า*กูจะเป็นนายเค้าให้ได้ กูจะให้เมียกูสบายให้ได้ * ตั้งแต่นั้นมาผมไม่เคยไปหาเค้าเลยมีแต่เค้ามาหา จนเค้าน้อยใจ มีปากเสียง หนักเข้าๆ จนต้องเลิกกันในที่สุด ด้วยเหตุผลที่ว่า*ความห่าง*
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: dodoo99 ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:43:04 am
สุดยอดชีวิตเลยหว่ะพี่ต้น  เรียกเบี้ยวไม่ได้แล้วแบบนี้เปลี่ยนชื่อ ต้น ซูสู้ :bbbear_23:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: dodoo99 ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:47:56 am
อภิมหากาพย์แน่ๆเลย แต่รออ่านนะสนุกดี :bbbear_30:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:49:26 am
แต่เหตุผลของเราที่เรายอมห่าง เพราะเราต้องการสร้างตัวเองให้มั่นคงให้ได้ จากลูกค้าเราต้องเป้นหัวหน้า จากหัวหน้าต้องเป้นเจ้าของให้ได้ ด้วยความพยายามของเราบวกกับเค้าน่าจะเข้าใจเราว่า ที่เราไม่ค่อยไปหาเค้าเพราะเรา*สร้างความสบายให้เค้าอยู่* แต่เค้าก็ทนไม่ไหวเลยต้องเลิกกัน  ช่วงนั้นผมทำใจอย่างมากกับการเสียเค้าไป โทษตัวเองทุกอย่าง เลยตัดสินใจกลับไปง้อเค้าที่อนามัยแล้วตกงานในกรุงเทพ จนอยู่กันไม่นานก็ต้องเลิกกันด้วยเหตุผลที่เราอยากทำงาน ผมเลยยอมไปแต่โดยดี เพราะสิ่งที่เราตั้งใจทำคือ ทำให้เค้าสบาย ผมเลยโทรหาลูกพี่คนเดิมว่า หางานให้ผมใหม่อีกรอบ รอบนี้ผมไม่หนีแล้ว ผมจะทำจริงๆแล้ว เลยได้งานบริษัทแถวถนนสามัคคีงามวงวาน ในตำแหน่งหัวหน้า  ช่วงนั้นผมพยามติดต่อเค้าแล้วพยามบอกเค้าว่า ต้นเป้นหัวหน้าแล้วนะ เด๋ยวรออีกหน่อย ต้นจะลงทุนทำเองให้ได้ เค้าพูดสวนมาว่า จะเอาเงินใหนมาลงทุนในเมื่อตะเองมันหยิ่งกับพ่อกับแม่แบบนั้น งั้นตะเองคอยดูนะเค้าขอเวลา1ปี แต่เหมือนผมกับเค้าจะดีขึ้น แต่กลับไปไม่รอด เลยต้องเลิกกันแบบจดใบหย่า ทุกอย่างคือจบ ในขณะนั้นเหมือนผมจะมีดวงนารีคุ้มครอง ผมได้เจอสาวคนนึง เค้าทำงานเป็นออแกไนท์เซอร์ตำแหน่งเออี........
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: babysaloon ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:51:10 am
พี่ต้นสุดติ่ง :bbbear_40:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:56:30 am
เฮ้ยยย  ขอมาขยายความจากที่เล่ามาก่อนนี้ บ้าง เดี๋ยวจะไม่อินเทรนเท่า เสือดำ กะ บอสม่า

................

เริ่มจากตอนใกล้เรียนจบ กับสถาบันที่ไปแข่งใครเค้าสมัครงานก็แพ้  เพื่อนๆ ก็เริ่มจะหางาน ไอ่เราก็ต้องหางานบ้าง จะหวังเรื่องทำงานกะที่บ้าน ธุรกิจที่บ้าน หันไปก็ไม่มี

ไม่ได้มีธุรกิจไว้รองรับ เหมือนเพื่อนๆ คนอื่นเค้า เลยต้องดิ้นรนหาเอาเอง  พ่อแม่ตั้งความหวังเต็มที่ เมิงมารับราชการซะดีๆ

ด้วยเพราะที่บ้านเป็นครูกันทั้งบ้าน ตั้งแต่ปู่ย่า ยันพ่อแม่ เลยต้องหวังว่าเราจะเอากะเขาด้วย แต่ๆๆๆ เราไม่เอาด้วย ทีนี้ล่ะ โดนเหน็บละ เอาซิ แล้วเมิงจะรู้ ทำๆไปเข้าก็ไล่มึงออก

อยู่ราชการดีๆ ไม่เอารึ สบาย สวัสดิการเพียบ เอ่อ ก็จิงๆ  แต่มันไม่รวย ยิ่งเป็นครู หูยยย กว่าจะรวย เมื่อไหร่ล่ะนี่ ตอนเด็กยังช่วยพ่อลุยเข้าดงข้าวโพด
ตัดข้าวโพดมาเลี้ยงวัวที่บ้านอยู่เลย

ไม่เอาๆ ไม่ไหวๆๆ ไม่อยากเลี้ยงวัวแล้ว เลยตั้งมั่น จะเป็นเจ้าของกิจการให้ได้ ทำอะไรดีล่ะ คิดไม่ออก แต่ไม่อยากทำงานซ้ำๆ น่าเบื่อๆ รอรับเงินเดือนไปวันๆ

นึกออกได้ก็คือ Sales กรูไปเป็น sales ดีกว่า ได้เงินเดือน ได้คอมมิชชั่น ค่าน้ำมัน โอ๊ยยย สบายละกรู

ไปสมัครงาน ได้ทำงานที่ที่เคยเล่ามาก่อนหน้านี้ อาเจ๊เจ้าของบอกมา เธอต้องมีรถนะ ต้องออกไปหาลูกค้า เอ้าาา ได้ มี เรามีรถ รถกระบะ อีซูซุมังกรทอง ไปหาลูกค้าได้ สบายยย

ได้เงินเดือน 11,500 ขายของได้ถึงจะได้คอมมิชชั่น โอ้ยยย สบายเดี๋ยวก็ได้ขายได้ ค่าคอมบานตะไท

ทำไปอยู่หลายเดือน โดนด่าอยู่หลายเดือน กว่าจะตั้งหลักได้ คอมมิชชั่นก้ยังไม่ได้ พอเริ่มขายได้ เอ้าทำไมๆๆ กรูยังไม่ได้ค่าคอม มาถึงบางอ้อ

ว่าเขาระบุไว้ว่ามึงต้องขายได้ถึงเป้า และกำไรได้ตามที่กำหนด ถึงจะได้ค่าคอม เอ่ออออ แล้วที่มึงเก็บตังลูกค้าได้แล้ว กำไรมึงก็ได้แล้ว

ใจคอมึงจะไม่ให้กรูเลยเรอะ     ปีแรก เป้า 15 ล้าน ก้มหน้ารับชะตาชีวิตต่อไป เอาวะๆๆ กรูต้องทำได้ซิ ลองดูซักตั้ง

รับเงินเดือน 11,500 มาได้เกือบปี ยังไม่ได้ค่าคอม เช่าห้องหมดละ 3000 และ คอยซ่อมมังกรทองเก่าๆ ของเราอีก กินอยู่จิปาถะ สรุปคือเดือนชนเดือน

วันนึงระหว่างขับรถไปหาลูกค้า ...  แกร๊กกกกๆๆๆๆๆ ชิบหาย อะไรวะ รถกรูเป็นไรฟระ ตังก็ไม่มีซ่อม เวรละกรู

ลากซิครับ ลากไปอู่ อีก 3 วันมาดู เกียร์ไม่มีเฟืองละครับ กลมมาเชียว ต้องเปลี่ยนเกียร์ หรือ โอเวอฮอล โดนไป หมื่อนก่าบาท สบายแฮ

มานั่งคิดต่อ เปลี่ยนรถดีก่าม้างงง เอาที่มันใหม่กว่านี้ เดิมรถปี 90 เอาซัก 95-96 แล้วยังพอผ่อนไหว ก่าน่าจะดี คงซ่อมน้อยกว่านี้ เอาเลย

ขายกระบะ เทิร์นแอคคอร์ด ไฟ 2 ก้อน โอ้ อย่างโก้ แต่ๆๆ ความบรรลัยกำลังมาเยือนในไม่ช้านี้ครับ

เดี๋ยวมาเล่าต่อ...

หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:58:00 am
ตอนนั้นคิดแค่ว่าเราโชคดีมากแล้ว เราเริ่มก่อตั้งบริษัทส่วนเค้าเป็นคนจัดหางาน ผมเริ่มสานสัมพันกับเค้าอย่างเต็มสูบ ตอนนั้นทำทัวคอนเสิร์ตแกรมมี่ทั่วประเทศ ด้วยตำแหน่งหัวหน้าระบบ เค้าก็เริ่มจีบเริ่มแทะๆ ตอนนั้นผมใช้อีคาร์อยู่สีแดง ใส่ชุดแต่งโบแมก วิ่งสุดๆ170 แรงโคตร ในโลกนี้เราคิดว่าอีคาร์แรงสุดแล้ว 5555 หลังจากเค้าเลิกงานจากออฟฟิตเซ็นทรัลเวิรดห้าโมงเย็น ผมจะขับรถแรงคู่ใจมารับเค้าทุกวัน แล้วเค้าจะพูดแซวตลอดว่า เค้าเห้นรถต้นมาแต่ไกล จำได้เลย *จานบิน* ในใจเราก้คิดนะว่า ชมหรือด่าว่ะ แต่ช่างเถอะ ตอนนั้นคิดสองอย่างคือ รถสวย แฟนสวย จบ  แต่เรื่องรถมีวันนึง ผมไปงานสุรนารีเกมส์ที่โคราช ขับรถแรงคู่ใจไปกับน้องในออฟฟิต ช่วงลำตะคองมองกระจกท้าย เฮ้ย รถอะไรว่ะวิ่งตามแต่ไกล แปปเดียวแซงเราแล้ว บอดี้ก็คล้ายรถเรา ทำไมแรงจังว่ะ น้งนั่งข้างๆหันมายิ้มแล้วบอกว่า พี่แกล้งโง่ประเนี่ย ขับอีคาร์ปลากระแลน แต่ไม่รู้จัก *อิมเพรสซ่า* ไรว่ะอิมเพลสซ่า  โห่พี่ขับสี่ล้อเครื่อง2000เทอร์โบ วิ่ง230นิ่มๆเอาแล้วไงงานเข้ากูล่ะ มีรถแรงกว่ากูอีก และนี่คือจุดเริ่มต้นของความรัก*อิมเพรสซ่า*กลับจากโคราชเลยเริ่มหาข้อมูลรถคันนี้ บอกได้คำเดียวโอ้ว รถอย่างเน่าปีอย่างเก่า แต่500000ขึ้น :bbbear_40:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 12:09:28 pm
ย้อนมาช่วงที่กำลังคบกับแฟนคนล่าสุด และปัจจุบัน ซึ่งพี่ๆน้องๆในนี้น่าจะรู้ดี ผมเริ่มกับเค้าและได้เค้าเป็นแรงบังดาลใจหลายๆอย่าง เค้าโตและแก่กว่าผม2ปี เค้าเป้นคนน่ารักและขยัน เป็นมือขวาคนสนิทของดาราดังคนนึง ตอนนั้นผมเริ่มมองเห็นอนาคตตัวล่ะว่า *ถ้าเรามีอุปกรณืเอง และเค้าหางานมา เราสบายแน่* ผมเลยเดิมเต็มสูบกับงานที่ทำตอนนั้นเป้นหัวหน้า แต่ก็เริ่มตอดงานมากิน%เค้าก็ช่วยหางานมาเรื่อยๆ เริ่มเก็บเงิน เริ่มวางแผนงาน จนมาถึงวันที่ต้องออกจากบริษัทตัวเองเพื่อมาตั้งบริษัทของตัวเอง ยอมรับนะครับช่วงแรกกำไรดีมาก เดือนนึงกำไรเป็นล้าน ซื้อรถเป็นว่าเล่น ช่วงนั้นผมรับงานเยอะมากเพราะแฟนหางานเก่ง จนตั้งตัวเองได้เรื่อยๆ ลงทุนหนักเรื่อยๆ จนวันนึงบริษัทเริ่มแย่ ด้วยความห้าวก้าวกระโดดของผม ผมไปจับงานใหญ่มากงบจัดงาน 7 ล้านกว่า ด้วยความที่ว่า งานนี้เราได้ชัว เลยลงทุนครั้งใหญ่ด้วยเงินตัวเองทั้งหมด  14ล้าน แบ่งจ่ายสองงวด ตีเช๊คล่วงหน้า วันรับของเราจ่ายไปล่ะครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งตั้งใจว่า จบงานนี้เราจะเครียเลยไม่รอดิว เพราะจะได้เอาของอีกชุดมาลง เท่านั้นแหละครับ งานยกเลิกด้วยเหตุผลการเมืองรุนแรงเรื่องสีเสื้อ งานอีแวนในกรุงเทพถูกยกเลิกหมด ผมแทบช๊อค เงินทุน7ล้านที่จ่ายไปหมด แถมต้องหาเงินมาจ่ายงวดหลังอีก ขีวิตตอนนั้นหน้ามืดสุดๆ แต่ด้วยสติของเราและความคิดแบบกว้างๆของแฟนเราตอนนั้น เค้าให้กำลังดีมาก เคาเลยอาสาเจรจางวดที่สองให้ว่า ขอเปลี่ยนเช๊คจาก7ล้านงวดสุดท้ายเป้น ผ่อนชำระเป็นงวด1ปี ทางบริษัทผู้ขายเค้าโอเคตกลงตามนั้นเพราะเห็นว่าเราไม่เคยเสียเครดิต แล้วแฟนผมพยามปลอบใจผมสั้นๆว่า ของที่ซื้อมางานนี้ไม่ได้ใช้ แต่งานหน้าเราก็ได้ใช้ เพราะมันเป้นของต้นแล้วนิ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Bossma ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 12:14:46 pm
จนตั้งแต่นั้นมา ผมก็เริ่มเดินต่อ สู้มาเรื่อย ทุกวันนี้ยอมรับว่าแย่หน่อยเพราะผลกระทบทางการเมืองที่กำลังจะเกิด งานน้อย ลูกค้าไม่กล้าจัดงาน งานราชการก็แบ่งเค๊กกันสนุก ส่วนต่างมากกว่าการว่าจ้าง ทุกวันนี้รายจ่ายตายตัวต่อเดือนก็ครึ่งล้าน ขาดทุนบ้าง กำไรบ้างสลับกันไป

ทุกวันนี้ผมอยู๋ด้วยกำลังตัวเองที่ว่า กูเริ่มจาก0 และถีบตัวเองมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าบุญ จบแค่ ปวส ปัญหามีไว้ให้แก้พอมันผ่านช่วงนี้ไปได้ อนาคตลูกเมียครอบครัวกูต้งสบายอย่างแน่นอน *อย่างน้อยอนาคตลูกเราก็ไม่ต้องไม่เดินหางานทำแบบเรา *

ขอบคุณนะครับท่านที่ติดตามอ่าน อาจจะฟังดูเน่าๆ แต่ผมเชื่อว่าถ้าใครอยู่จุดเดียวกับผมตอนนี้จะรู้ว่า *เหนื่อย*
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: BOMBER_IMP ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 12:30:40 pm
พี่ต้นหล่อโคตร......ขอคาราวะซักสองจอก
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: mystic ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 12:46:18 pm
สิ่งแรกที่คิดได้คือ โทรหาลูกพี่หัวหน้าช่างไฟให้เค้าหางานให้ ได้คำตอบมาว่า มืงไปกรุงเทพเลย อยู๋แถวทาวอินทาวบริษัท...ไปถึงแล้วบอกเค้าว่า น้าหินฝากมา ผมเลยตัดสินใจเดินทางด้วยรถทัว กำแพง-กรุงเทพ ก่อนขึ้นรถบอกเมีย *เค้าจะกลับมาหาตะเองเดือนล่ะครั้งนะ* พอมาถึงกรุงเทพลงหมอชิต อั้ยย่ะวุ่นวายแท้ แล้วทาวอินทาวไปทางใหนหว่า เลยหยอดตู้โทรหาลูกพี่ว่าไปไงต่อ แกตอบแค่เพียง ถ้าจะอยู่กรุงเทพมืงต้องเรียนรู้เอง แม่งอย่างกับในหนัง 555 สิ่งแรกที่แวบคิดได้คือแทกซี่เท่านั้น จ่ายเยอะแต่ถึงชัว วันนั้นออกจากหมอชิตบ่ายสอง ถึงทาวอินทาวหกโมงครึ่ง มิเตอร์ถึงกับจุก2200กว่าบาท เอาว่ะยอมจ่ายดีกว่าโง่หลงทาง ลงถึงบริษัทเดินไปถามยามว่า พี่ครับ พี่เอกอยู่มั้ยครับ ชันสองเลยน้อง แลกบัตรด้วย เสร็จนั่งสัมภาษสักพักสรุปว่าได้เงินเดือน4500หักประกันสังคมโน้นนี่นั่นเหลือ3400 หาที่พักเองค่าอาหาร60ต่อวันตำแหน่ง *เด็กโหลด * พอสัมภาษจบเลยหาที่พักนอน พรุ่งนี้เริ่มงาน ตอนนั้นเงินเหลือติดตัว6000 เดินหาห้องเช่าถูกๆ สรุปได้ห้องเช่าซึ่งอยู่ติดคลองน้ำคลำ เดือนล่ะ1500 ไม่มีพัดลม ไม่มี้องน้ำ มีแต่พื้นห้องผุๆกับเสื่อน้ำมัน ถ้านอนดิ้นมีหวังตกคลองแน่ เอาว่ะแค่ซุกหัวนอนหางานทำนอนก็นอน ตื่นเช้ามาเข้าทำงานด้วยความไม่คุ้นหน้าใครเลย ทำจนเลิกงาน5โมงเย็น...


ที่นอนพี่นี่ เหมือนผมตอน ออกจากบ้าน มา ตอน ม.ต้นเลยอ่ะพี่ ถ5555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 12:57:04 pm
ต่อของผม....

เหลือสองคนแล้ววว  เวรก็หารสอง ครับ ที่นี้เหมาหมด เหมาจ่าย 9300 ยกเว้นรับเวรพิเศษ ของอาจารย์ ตรวจฉุกเฉินกลางคืน

ได3500 ต่อเวรแปดชม. เที่ยงคืนถึงเช้า ..ได้มาก แต่ไม่ได้นอน

สำหรับเวรศัลย์กลางคืน ก้อทำทุกอย่าง คับ ด่านแรก คือน้องนักเรียนแพทย์ ปี6 กะเรา

ไมค่อยได้นอน เช้าก็ วังวนเดิมมมม ถ้าผ่าเสร็จใกล้แปดโมง ก้อไม่ได้ราวน์  ไม่ได้อาบน้ำ้ ไป conference ก่อน

ผมมีสบู่นกแก้ว ก้อนนึง อยู่ในห้องน้ำ ห้องผ่าตัด เอาไว้อาบเผื่อไม่ได้กลับหอ..

รพ.ที่ผมไปเรียน ขึ้นชื่อหน่อย กะ อุบัติเหตุ รถชน ยิง แทง สารพัด        ครั้งนึง...จำได้ชัด

สามคน รถชนกันมา  พี่หัวหน้าเวร ผ่าคนแรก  เปิดอีกห้อง พี่ปีสาม ผ่าคนสอง   คนสาม เด็กหนุ่ม 17ปี รอที่ฉุกเฉิน

มึง เฝ้าไว้ อัดเลือด อัดน้ำเกลือไป กูใกล้เสร็จ  ไอ้ยี (นามสมมติ พี่ปีสาม) ไม่รู้ยังไง ใครเสร็จก่อน ส่งขึ้นมา..เลย   คำสั่งพี่ชี๊ฟ (ชี๊ฟ คือ chief หัวหน้าเด้นท์)

เต็มที่ครับพี่น้อง เลือดเอย สารพัด อัดเข้าไป สุดท้าย.....  พี่ไม่ต้องรีบ ไปแล้ว  .......อ่อ ไม่เป็นไร  เอ็งเตรียมให้ดี โดนใน M&Mแน่  ....ครับพี่ ผมตอบ


ช่วงมีลานเบียร์ ก้อนะ ตามภาษาหมอหนุ่ม ไปสังสรรค์กันบ้าง มันใกล้รพ.นิ 

ไปไอ้เสือดำ กินเบียร์.....ผมอยู่เวรครับ .....ไอ้ห่า กูก้อยู่ ......ไป .....   เอ้าไปก้อไป

กินกันไป เราน้องสุด จิบน้อยๆ กลัวเมา      และแล้ว   ตื้ดๆๆ พี่ ฉุกเฉินตาม .......เออ มึงไปดู มีอะไรตาม  ..ครับพี่

.
.
.

พี่ คนไข้ ผู้ชาย มอไซ ชน   บลาๆๆ..............ผมรายงานไปตามสเตป  ..........เอ้อ ผ่าสิวะ  เตรียมขึ้นไปเลย พร้อมแล้วเรียกกู ...ครับพี่

เตรียมคนไข้ จองเลือด ตามดมยา จองไอซียู  พร้อม ไป ห้องผ่าตัด .....ระหว่างไป ก็ โทร ...พี่พร้อม  ...เออ เด่วกูไป

ชี๊ฟเด้นท์ (มาจาก ชี๊ฟ เรสซิเด้นท์ ครับ ลืมบอก)  ผมพาร่างกาย เต็มไปด้วย ยอดข้าว เดินมา ผ่าตัด..........

เฮ้ย จับมือกูด้วย เด่วแผลเบี้ยว  จารย์ด่าตายห่า  .....  ตับแตก ครับ คนไข้คนนั้น เลือดเต็มท้อง  แต่ รอด เพราะ หมอยอดข้าว ฮ่าๆๆ

หมอยอดข้าวคนนี้  เก่งมาก ในห้องที่หอ มีแต่หนังสือ ตำราเรียน ชนิด ไม่มีที่นอน แกนอนกะหนังสือ    แกรักษาใครไม่ค่อยมีปัญหา

แกสามารถ เก็บ ขนมของใครไม่รู้ ที่ตกอยู่ที่พื้นกินได้โดยไม่สนใจ ตกตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ก้อยังกิน   

แกอกหักจากพยาบาล......

ตอนนี้อยู่ไหนแล้วก้อไม่รู้... แต่ผมยัง รัก เคารพ คิดถึงพี่นะครับ ..

ความมันยังมีอีกมากกก  ครับ

เด่วมาต่อ

   
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 01:39:49 pm
แต่ละคน มหากาพย์จริงๆ  :bbbear_1:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: NOp76 ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 01:42:54 pm
แต่ละคนสุดยอมมากครับ แต่ผมว่าของผมก็ต่างออกไปอีกแบบ จะเริ่มดีไหมเนี่ย  :bbbear_38:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ---น้ำตาเสือดำ--- ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 01:51:57 pm
วัน ผ่าน เป็น เดือน และครบ ปี ...

ตอนนี้ ผมเป็นปีสองแย้วววว  ก่อนจะขึ้น สบายแล้วกู ...

แต่หารู้ไม่ ระยำกว่าเดิมอีก ... เราต้องตามไล่ดูน้อง ดูทุกอย่าง ...ที่มันทำ

อ่อความรับผิดชอบมันมากขึ้น ได้ผ่าตัดเองบ้่งเคส ง่ายๆ ไส้ติ่งอักเสบ ตัดขา เจาะคอ ..

จริงๆ ได้ทำมาต้องแต่ ปีหนึ่งปลายๆแล้ว อาจารย์ที่เรา ช่วย พี่ที่เราช่วย เห็นว่า เออ เริ่มปล่อยได้ เขาก้อให้เราทำ..

เวรหารสองกะพี่บี สาวหนุ่ม  และตามดู รีเช็คน้องที่มาเริ่มเรียนใหม่ และ สอนเขาว่าต้องทำอย่างไร ให้ รอดตัว

วันผ่าตัด ข้าวก็ได้กินบ้าง ไม่ได้กินบ้าง  .. กินก้อรีบๆๆ เคี้ยวไม่ต้องมาก กลืนๆไป ให้อิ่มพอ วันไหนว่าง ก็อกินกันให้หายอยาก..

เรื่องราว ต่างๆ ก้อสนุกสนาน ผมเล่าไม่หมด

จน ผมเป็นปีสี่  เป็นชี๊พ แล้ว ......หน้าที่ที่เพิ่มคือ จัดระบบในสายให้มัน ดำเนินไปได้ น้องคนนั้นไปนั้น คนนี้ไปนี้ คนนี้ทำนู้น

ตัวเองนอน เอ้ย ไปผ่าตัด  อ่านหนังสือมากขึ้นเตรียมสอบ........

การสอบของหมอผ่าตัด มีทั้งเขียน และพูด   ครับ อัตราการผ่าน น้อยที่สุด ในบรรดา หมอผู้เชี่ยวชาญ ....

เพราะคนที่จะออกไปต้อง พร้อม ทุกอย่าง    โง่ เพี้ยน ไม่รอด  ม้าศึกคึกมาก  ไม่รอด   คนปกติเท่านั้น

เวลาสอบปากเปล่า จะมีอาจารย์สามสี่ท่าน รุม ถาม   ด่าบ้าง  หัวเราะ เสียดแหนม ต่างๆ  วนไปหลายๆฐาน

แต่ที่ต้องการ คือ ต้องเอาความรู้ ว่ามีจริง  และ ทนความกดดัน รอบข้างได้  รวมถึงแก้ไขสถานะการณ์เฉาพะหน้า

เมื่อจบออกไปแล้ว  คุณคือ leader คนเเดียว ในห้องผ่าตัด หรือโรงพยาบาล  ถ้าคุณล้ม คนไข้ตาย

ต้องรู้จักพลิกแพลงใช้ของที่มี ในโรงพยาบาลห่างไกลที่ขาดแคลน 

การเป็นหมอผ่าตัดไม่ได้แค่ผ่าเป็นผ่าได้ ....แต่ต้องรู้ว่า อันนี้ ต้องผ่า ไม่ควร หรือไม่ต้องเลย    ม้าศึกทั้งหลาย ที่จะ ผ่าๆๆๆ ก้อต้องโดนดองไว้

สี่ปี ที่ผ่านไป ได้ความรู้ ได้ข้อคิด และความอึด มาโดยไม่รู้ตัว  นอนละ สองสามชม. หรืไม่ได้นอน

ยืนผ่าตัด แสนยาวนาน แปดชม. โดยไม่ได้กิน ไม่เยี่ยว     ช่วยอาจารย์ ผ่าตัด สิบสองชม. โดย อาจารย์ใจดี ให้ไปกินช้าว แป๊บหนึ่ง

ในขณะที่อาจารย์ผมทำต่อ ไม่กิน  ... ยืนผ่า หัวชนกัน ทั้งคืน

และมันก้อผ่านไป  พี่บี สาวหล่อ กลับบ้าน ทางเหนือ 

ผม ไปอยู่บ้านนอก มาสามปี  แล้วก้อ มาอยู่ กทม.           

เบื่อมั๊ย มันก้อเบื่อ บ้างบางเวลา เหนื่อยมั๊ย  เหนื่อยบ้างบางครั้ง ...


แต่ชีวิตมันต้องเดินครับ  :bbbear_19: :bbbear_19:

 
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 02:07:50 pm
มาต่อผมบ้าง ...

ด้วยความที่ไม่คิดถึงเรื่องต้องผ่อนรถ

หลังจากได้แอคคอร์ดคันนั้นมา พร้อมแลกกับเงินผ่อนต่อเดือนอีก 6000 บาท เงินเดือนปรับมาเป็น 12000 เชี่ย ใจดีโคตร เพิ่มให้กรู 500 บาท

หายไปครึ่งละกับผ่อนรถ ค่าเช่าห้องอีก 3000 สรุปต่อเดือนคือ ไม่พอใช้ เวรรร ทำไงล่ะนี่ เลยบ้าเลือด ขายของหนัก พอได้คิมมิชชั่นมาผ่อนปรนบ้าง

เอาตังจากบัตรเครดิตมาใช้บ้าง อู้ยยย ดอกแสนแพง แต่ก็ถูๆไถๆ ไป พอหมดปี อ้้าวววขายของทะลุเป้า 15 ล้าน วู้ววว ได้ตังแล้วโว้ยยย ได้มาแสนเก้า โล่งครับโล่ง

ปีถัดมาเลยเจอเป้า 22 ล้าน อ๊ากกกก แล้วกรูจะทำได้ฟระ   ระหว่างนั้นได้โอกาสรู้จักพี่เบนซ์ เริ่มได้มีโอกาสสัมผัสกับ ซูบารุ จริงๆ ที่ไม่ใช่ในเกม

จังหวะนึงเลยได้เลกาซี่พี่เบนซ์มาดูแลต่อ โอ้ยยย มีความสุข รถอะไรวะ มันดีอย่างนี้ ช่วงนั้นยังห้าว ขับรถนี่อย่างเหาะ คิดว่าเก่ง จิงๆ ไม่ใช่

จำได้ ออกทริปครั้งแรกกับ เพื่อนๆชาวซุ วิ่งลอยฟ้าบางนา (ตอนนั้นรถเราเครื่อง NA) วิ่งหวดกะจีซี กะเขาได้หมด ใช้ใจวิ่งล้วนๆ

จนอยู่มาวันนึง ประสบพบเจอกับอุบัติเหตุ อย่างหนัก แต่เพราะคนอื่นนะครับ ไม่ใช่ความห้าวของเราเอง (ความห้าวของเรามาเจอในตอนหลัง เดี๋ยวจะเหลาให้ฟังอีกที)

เข้าโรงบาล ช้ำในจากโดนวอลโว่สอย ประตูหุบมาอยู่ในรถ ตัวผมไปนั่งอยู่บนคันเกียร์ หน้าหลัง ยุบ สรุปคือเละ เหตุการณ์เกิดขึ้นบนสะพานแขวนพระรามเก้า

ตอนกำลังจะขับกลับบ้านนอก รถติดบรรลัยเพราะผม

หายนะมาเยือนหลังจากนี้ล่ะครับ ประกันซ่อมได้เท่าที่ครอบคลุม  ที่เหลือ จ่ายเอง งานเข้า ต้องจ่ายเองแสนกว่าบาท ตอนนั้นไม่ขายซากคครับ เพราะคิดแล้ว ไม่คุ้ม แถมไม่มีรถขับ

เลยต้องซ่อม ฮ่าๆๆ สรุปมาเจอเครื่องพังอีก คันนัก อยากแรง กัดฟัน วางคอแดงไปเล้ยยยย   ตังก็หามาจากบัตรเครดิตล่ะครับ ฮี่ๆๆๆ เป็นหนี้หัวโต ซวยแน่ๆ

อ่าาา เข้าเรื่องกลับมานั่งทำงานได้เหมือนเดิมละ พอหายดี ก็เริ่ม กลับมาวิ่งขายของต่อ จับโปรเจคได้งานนึง  13 ล้าน หวังว่าปีนี้ตรูรอดละ งานเดียวสบายเลย

ลูกค้ง ลูกค้าสนิทกัน วางหมากวางเกมไว้หมดแล้ว ยังไงก็ไม่พลาด งานนี้กินนิ่ม แน่นอน แต่ๆๆๆๆ เหรียญมีสองด้าน ลูกค้าหน้างานอ่ะโอเค

แต่นายใหญ่นายโต เขามีกำลังภายในกันอยู่กับคู่แข่งเรา เรารู้เกมอยู่แล้ว วิธีแก้ลำก็มีอยู่อยู่แล้ว โอ๊ยยย สบายขอเพียงแค่นายเราเอาด้วย ก็จบ

เดี๋ยวมาเล่าต่อ....

หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 02:25:02 pm
ถ้ายังไม่งานใหม่รองรับแน่นอน หรือบริษัทใหม่ดูแล้วไม่ดี ก็ทนอยู่ไปก่อน

......................เด๋วไม่มีตังค์แต่งรถ ตายห่าพอดี.........5555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 02:31:38 pm
สุดยอดทั้งหมอเสือดำ และทั้งต้น Bossma เลยครับ เป็นตัวอย่างของทั้ง "ความอดทน" และ "ความเพียร" จริงๆ ก็รอฟังของสมาชิกท่านอื่นอยู่นะครับ ผมว่าเป็นหนึ่งในกระทู้ที่เป็นที่สุดแล้ว เสร็จแล้วจะขออนุญาติตัดต่อทีละตอนไปทำเรื่องราวของแต่ละท่านไว้เป็นโปรไฟล์ของสมาชิกนะครับ ขออนุญาติแทนเจ้าของกระทู้นะครับ เรียนเชิญท่านอื่นตามมาได้เลยครับ

 :bbbear_34:  :bbbear_19:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 02:32:42 pm
ถ้ายังไม่งานใหม่รองรับแน่นอน หรือบริษัทใหม่ดูแล้วไม่ดี ก็ทนอยู่ไปก่อน

......................เด๋วไม่มีตังค์แต่งรถ ตายห่าพอดี.........5555

เออเนอะ ต้องหาตังมาแต่งรถให้ได้สินะ 5555555555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: NOp76 ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 02:33:19 pm
ปูเสื่อรอฟังเรื่องตะบู๋ดีฝ่า  :bbbear_2:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 02:38:08 pm
ปูเสื่อรอฟังเรื่องตะบู๋ดีฝ่า  :bbbear_2:
รอของพี่นพด้วย อยากรู้ว่าทำงานที่ไหนได้แฟนที่นั่นป่าว
เออเนอะ ต้องหาตังมาแต่งรถให้ได้สินะ 5555555555
อันดับ1เลย อดข้าวก็ยอมนะ555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 03:08:58 pm
อยากแชร์เหมือนกัน แต่รอของคุณอาว์เสือดำ เฮียเบี้ยว และดินเหนียว จบก่อนดีฝ่า  :bbbear_17:


...ดินดาน  :bbbear_32:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 03:28:40 pm
อยากแชร์เหมือนกัน แต่รอของคุณอาว์เสือดำ เฮียเบี้ยว และดินเหนียว จบก่อนดีฝ่า  :bbbear_17:


...ดินดาน  :bbbear_32:

หนังที่ดี ต้องไม่มีวันจบนะพี่ 55555555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TURBO-Plus ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 04:51:38 pm
สุดยอดทั้งหมอเสือดำ และทั้งต้น Bossma เลยครับ เป็นตัวอย่างของทั้ง "ความอดทน" และ "ความเพียร" จริงๆ ก็รอฟังของสมาชิกท่านอื่นอยู่นะครับ ผมว่าเป็นหนึ่งในกระทู้ที่เป็นที่สุดแล้ว เสร็จแล้วจะขออนุญาติตัดต่อทีละตอนไปทำเรื่องราวของแต่ละท่านไว้เป็นโปรไฟล์ของสมาชิกนะครับ ขออนุญาติแทนเจ้าของกระทู้นะครับ เรียนเชิญท่านอื่นตามมาได้เลยครับ

 :bbbear_34:  :bbbear_19:

ผมม่ายมีไรจะเล่าอะค๊าพ ผอ ขอผ่าน :bbbear_24:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 05:02:32 pm
สุดยอดทั้งหมอเสือดำ และทั้งต้น Bossma เลยครับ เป็นตัวอย่างของทั้ง "ความอดทน" และ "ความเพียร" จริงๆ ก็รอฟังของสมาชิกท่านอื่นอยู่นะครับ ผมว่าเป็นหนึ่งในกระทู้ที่เป็นที่สุดแล้ว เสร็จแล้วจะขออนุญาติตัดต่อทีละตอนไปทำเรื่องราวของแต่ละท่านไว้เป็นโปรไฟล์ของสมาชิกนะครับ ขออนุญาติแทนเจ้าของกระทู้นะครับ เรียนเชิญท่านอื่นตามมาได้เลยครับ

 :bbbear_34:  :bbbear_19:

เป็นความคิดที่ดีเลยหล่ะครับ
เพราะประวัติที่พี่ๆได้นำมาเล่าให้ฟัง ผมว่าสามารถเอามาเขียนเป็นหนังสือได้เลยนะครับ  :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 05:04:08 pm
ผมม่ายมีไรจะเล่าอะค๊าพ ผอ ขอผ่าน :bbbear_24:

แต่ผมรู้สึกลึกๆ ว่าเจมีเรื่องอยากจะเล่านะ เห็นวนออกตัวมาตั้งแต่หน้าแรกๆ แล้วอ่ะ แค่เรื่องที่เคยเกริ่นๆ ให้ผมฟังนั่นก็พอได้เลยนะ เพียงแต่จะออกแนว "เพื่อเธอ" หน่อยแค่นั้นเอง แต่ก็ดู "แมน" ดีนะคร้าบบ ... ทั่นประธานฯ

 :bbbear_30:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TURBO-Plus ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 05:15:48 pm
แต่ผมรู้สึกลึกๆ ว่าเจมีเรื่องอยากจะเล่านะ เห็นวนออกตัวมาตั้งแต่หน้าแรกๆ แล้วอ่ะ แค่เรื่องที่เคยเกริ่นๆ ให้ผมฟังนั่นก็พอได้เลยนะ เพียงแต่จะออกแนว "เพื่อเธอ" หน่อยแค่นั้นเอง แต่ก็ดู "แมน" ดีนะคร้าบบ ... ทั่นประธานฯ

 :bbbear_30:

ผมไม่มีจริงๆพี่ ผมแค่อิจฉาคนอื่น ได้ทำงานข้างนอก เจอคนเยอะๆ มีสังคมอีกแบบที่ผมไม่มี เรื่องก็มีอยู่แค่นี้เองครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 07:59:20 pm
ผมไม่มีจริงๆพี่ ผมแค่อิจฉาคนอื่น ได้ทำงานข้างนอก เจอคนเยอะๆ มีสังคมอีกแบบที่ผมไม่มี เรื่องก็มีอยู่แค่นี้เองครับ
โถ หัวอกอาชีพคนขับรถส่งคุณหนูไปเด่นหล้า....เป็นโชเฟอร์ก็แบบนี้แหละเหงา :bbbear_11:

สู้ๆครับพี่อิอิ

หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: TURBO-Plus ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 08:06:43 pm
โถ หัวอกอาชีพคนขับรถส่งคุณหนูไปเด่นหล้า....เป็นโชเฟอร์ก็แบบนี้แหละเหงา :bbbear_11:

สู้ๆครับพี่อิอิ

นั้นเด่ะ คุณหนูก็ไม่ธรรมดาด้วยนะ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 08:09:59 pm
นั้นเด่ะ คุณหนูก็ไม่ธรรมดาด้วยนะ
เห็นมะ ผมว่าแค่นี้ก็เก่งแล้ว555.
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 09:01:12 pm
มาต่อๆๆๆ

หลังจากที่คู่แข่งเราเล่นกำลังภายในกับนายใหญ่นายโตเค้า เรารู้ทางอยู่แล้ว ก็จะใช้กำลังภายในบ้าง แต่ๆๆ กรรมของตรู เจ้านายตรูไม่เอาด้วย  :bbbear_40:
 
เชี่ยแล้วไง งี้ก็จบข่าวล่ะสิ.....จบจริงคับ อดแดกงานนี้ไป แดกแห้วแทน พร้อมกับแปลงร่างจากคน เป็นแพะ ร้องแบ่ะๆๆๆ

ด้วยข้อหา "ก็ตู๋ให้ข้อมูลมาไม่ดี"(จำคำนี้ได้ขึ้นใจ)  อีเฮี้ยยยย กรูให้ไปหมดแล้ว กรูวางหมากไว้หมดแล้ว เหลือแต่เมิงนั่นและ ตัดสินใจมา

หลังจากเป็นแพะ ร้องแบ่ะๆๆ ต่อมา  คือการรับกรรม หางานมาชดเชยส่วนที่หลุดไป  ใครก็ได้มาช่วยซื้อของกรูที .... ไม่มีวันครับ ไม่มีวันที่จะเป้าแตกในปีนี้...สรุปคือเป้าไม่แตก

ระหว่างที่เป้าทำท่าจะไม่แตก แถมเป็นแพะอยู่ ยังถูกจับผิดสารพัด ให้คนมาเช็คว่าเราไปหาลูกค้าจิงรึป่าว เอ้ออออ ลึกล้ำ รู้อยู่แล้วว่าต้องทำ เพราะมาก่อนกะคนอื่นละ

จับได้จับไป ตรูไม่สน ไปบ้างไม่ไปบ้าง กรูหมดใจกะที่นี่ละ ค่าคอมมันก็เบี้ยว จ่ายแบบโกงๆ ตุกติก ขึ้นเงินเดือนปีก่อนกรูมา 7 ร้อย อีเวรรร ไปกดตู้ดู ไม่รู้ตัวว่าเงินเดือนขึ้นแล้ว

อีคนมาจับผิดก็น๊าาาา วันที่ผมไม่ไป มันไปรายงานเจ้านายว่าไปจริง อีวันที่ผมไปจริงอยู่เห็นๆ มันบอกไม่ไปได้ เอ่ออ เอากะมัน

ปลายปี รถเพิ่มซ่อมจากซากมาได้ไม่นาน บวกวางคอแดงมา ก็จัดหนักทุกเย็น เมาเรื่อยเปื่อย วันนึงกินกันอยู่กะในพี่ๆแก๊งซูเรานี่แหละ พอเมาได้ที่ (ตอนนั้นโกคาร์ทชูก้าบีทฮอตๆ)

ไปเว้ยพวกเรา ไปหวดคาร์ทกันต่อ อารมณ์นี้มันต้องซิ่งกันหน่อยเว้ยยย

เอาเลยครับ แซ่ดดดด กันออกจากวงเหล้า  มุดไปมุดมา เอี๊ยดดดด.....ตู๊มมมมมมมม!!!!!!!!

เดี๋ยวมาต่อ ...
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: A i f Z ` ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 09:22:52 pm
ชอบกระทู้นี้จิงๆ  :bbbear_34: :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: จิ๊กโก๋อกหัก ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 10:46:29 pm
ผมมีเหนื่อยมีท้อบ้างครับ แต่นึกถึงตอนไม่ทำงานแล้วไม่มีเงิน (เพราะครอบครัวไม่ได้ support ) ทุกๆอย่างมันจะคิดได้เองครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Lost Log in ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:16:52 pm
ก็ไม่มีอะไรมากครับ จบมา ทำงาน ตกงาน ตั้งบริษัท เป็นหนี้ ปิดบริษัท หาเงินใช้หนี้ ตอนนี้ทำงานอีกแล้ว

ชีวิตคนเรา เก่งอย่างเดียวไม่พอ เฮงอย่างเดียวไม่พอ ต้องอึด ทน และถึกด้วยถึงจะพอ ผมโชคดีที่ไม่มีเรื่องบ้าน

และค่าใช้จ่ายในบ้านให้ปวดหัว เพราะมีเงินกงสีออกให้ แต่ด้วยความเสี้ยน อยากทำส่วนตัว ก็ทำ หาเงินล้านบาท

แรกได้ตอนอายุ 25 ปี ตอนนั้น ห้าวมมาก ใครเตือนอะไรไม่ฟัง มีเงินผ่านมือเดือนนึงไม่ต่ำกว่าสองล้าน สุดท้าย เจ๊ง

เป็นหนี้เค้า 4 ล้าน ต้องหาเงินหัวปั่น เพิ่งใช้หนี้หมดปีที่แล้ว ตอนนี้หาเงินล้านได้อีกครั้ง และคงจะระวังกว่าเดิม

เคยเหลือเงินติดบัญชีแค่ 20 บาท แต่เป็นหนี้ 4 ล้านไม๊ครับ?

 
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:39:00 pm
หลังจากกรึ่มได้ที่ แซ่ดดดด ออกจากวงเหล้า เพื่อมุ่งหน้าไปหวดโกคาร์ท ยังไม่ทันไปถึง เอี๊ยดดดด ตู้มมมมม

ต่อม่อ ครับ ต่อม่อ (ช่วงนั้นเลยได้ฉายาว่า ตู๋ตอม่อ) เบรคสะบัด คลัชเสียเกียหลุด เอ้ยยย ไม่ใช่  เบรคแล้วแถเข้าไปหาต่อม่อ แลัว หมุนกลัยมาฟาดขอบสะพานอีกที

(เอ้อออ นึกออกละ ก่อนหน้าตอนรถมิดครั้งแรก ได้ฉายาว่า ตู๋พานแขวน) พอรถจอดนิ่งสนิท คราวนี้ไม่เจ็บครับ ไม่เจ็บ แต่ที่หนักที่สุดคือ จิตใจ ครับ

เดินลงจากรถพร้อมกับน้ำตา ตอนนั้นพี่ต่อขับตามหลังมา และอีกหลายคน พี่ต่อเดินมากอด บอกไม่เป็นไรไอ้น้อง ใจเย็นๆ

สมองในตอนนั้น ก้องดังไปหมด (((กูเอาอีกแล้วหรอเนี่ยย กูเพิ่งซ่อมรถเสร็จไม่นาน กูโน่น กูนี่ คิดไปมั่วไปหมด จนสุดท้าย คือ กูไม่มีตังแล้ว))) บอบช้ำในจิตใจมาก

ทำไงล่ะ รีบเล่าข้ามไปละกัน ไม่เกียวกะงาน    :bbbear_27:  สรุปคือซ่อม คราวนี้กูเปลี่ยนสี จากเทาเป็นขาว ตังที่ซ่อม ก็เหมือนเดิม บัตรเครดิต หายนะจะเข้ามาเยือนละคับ

ติดบูโรซะ สบายแฮ กว่าจะใช้หนี้หมด หักดิบกันไปหลายเจ้า ขอข้ามเรื่องนี้ไปละกัน ฮิ ฮิ

เหตุการครั้งนี้เป็นเหตุให้ผมเริ่มต้นจิงจังกับการเรียนเพิ่ม skill การขับ ไปทุกคอร์ส ทุกที่ ฝึกฝนจนได้เป็นดินเหนียว (จานอั๋นตั้งให้)

กลับมาเรื่องทำงานต่อ ไปซะไกลเลย ...  พอเริ่มหมดใจ บวกรถมิดครั้งที่สอง ในรอบไม่กี่เดือน เลย หมดแรง อ่อนล้า กรูหางานใหม่ดีกว่า ก็เลย...ไปยื่นใบลาออก

"เธอยังออกไม่ได้นะ" อ้าววว จะออกไม่ให้ออก กักขังหน่วงเหนี่ยวผมไว้อีก หมดใจหนักกว่าเดิม ทำไปซักพัก แบบไม่สนใจงาน วันนึงโดนเรียกไปคุย

"อ่ะ วันนี้เป็นทำงานวันสุดท้าย" อ๊ากกกกก อะไรเนี่ยยย นึกจะไม่ให้ออก ท่านก็ไม่ให้ออก พอนึกจะไม่เอา ท่านไม่บอกไม่กล่าว

ไม่รู้ไม่สน ไม่โต้เถียง เพราะอยากไปมานานละ .... ผู้ที่มาช้อนผมไปรับเลี้ยง ชุบตัว ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ พี่เบนซ์นั่นเอง...

ก่อนออกมา..ถึงแม้จะจากกันไม่สวยกับที่เก่า แต่ผมก็เดินไปบอกกับเจ้านายแบบลูกผู้ชาย ว่า ผมขอบคุณมากๆที่ให้โอกาสผมได้ทำงาน ได้ฝึกฝน ที่นี่สอนให้ผมทำงานเป็น ได้เรียนรู้

ในโลกของการแข่งขัน ที่นี่ถือเป็น สนามรบชั้นดี ถ้าไม่ได้ที่นี่ ผมคงไม่เป็นแบบทุกวันนี้ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

มาอยู่กับพี่เบนซ์ อู้ยยย ตื่นเต้น ขายรถถัง รถหุ้มเกราะ ปืนใหญ่ โอ๊ยยอีกเยอะสารพัดจะอาวุธ และพี่เบนซ์ได้สอนอะไรผมอีกหลายอย่าง ยอมรับเลยว่า พี่เบนซ์แกเก่งจริงๆ

รวบรัดๆหน่อยนะ เริ่มจะยาว พอทำงานกะพี่เบนซได้ปีนึง แฟนที่คบกันมา บอกแต่งเถอะ กลับมาอยู่บ้านนอกด้วยกันนะ ไปเพาะเห็ดขาย

เอ้า เพื่ออนาคตครอบครัว เลยเตรียมออกไปอยู่บ้านนอก ปลูกเห็ด เตรียมทิ้งทุกอย่าง เตรียมลากับสีสันยามค่ำคืนที่ กทม. ก็เริ่มจะเตรียมงาน ติดต่อไปที่ Bossma อยากจัดงานแต่ง

แต่ๆๆ Bossma ตอนนั้นก็วิกฤต หายตัวไป (ขอโทษที่อ้างถึงน๊าาาา)  ชะตาชีวิตพลิกผัน เลิกกันไปซะก่อนแต่งได้ไม่นาน ต้องมาตั้งหลักใหม่

ด้วยความที่ไม่เอาแล้วกับการเป็นลูกน้อง การรับเงินเดือน อยากเป็นเจ้าของ อยากรวย อยากสร้างอนาคตให้ตัวเอง

ชวนพี่อีกคนที่ทำงานเก่า เปิดบริษัท ขายของเหมือนกับที่บริษัทเก่าเลยละกัน ถนัดมาทางนี้แล้ว โดยขอมีหุ้นส่วนเพียงแค่นิดเดียวพอ ไม่เอามาก เพราะวันนึงเราก็ต้องแยกไปทำของเราเองอยู่ดี วันนี้ช่วยกันสร้างไปก่อน แต่การเปิดของตัวเอง ก็ต้องแลกกับการรับเงินเดือนน้อยนิด ไม่งั้นเจ๊งงง ก่อนแน่นอน

เปิดมาได้ปีนึง Supplier เก่าๆ ตามมาเป็นพรวน เอ่อออ  เริ่มไปได้ดีแฮะ แต่ๆๆ บริษัทเก่าฟ้องสิครับ ทุกวันนี้ยังขึ้นศาลกันอยู่ ยังไม่จบ เวรจิงๆๆ

โดนฟ้องแปดล้าน ข้อหา ทำให้บริษัทเค้าเสียรายได้จากการที่เรามาเปิดแข่ง และ ออกมาทำงาน field เดิม (รายละเอียดมีอีกเยอะ แต่ตอข้าม เพราะยังขึ้นศาลกันอยู่)

บริษัทที่เปิดมาก็เริ่มโอเค เข้าที่ เริ่มจ้างพนักงานได้มากขึ้น แต่ตังเรายังเท่าเดิม แงๆๆๆ อันนี้เข้าใจๆ มะเปงไร

ระหว่างช่วงหนึ่ง ได้มีโอกาส รู้จักกับยุ่นท่านนึง เห็นเราขับรถซิ่ง แนะนำให้เรารู้จักกับยุ่นท่านอื่น ที่ญี่ปุ่น จับพลัดจับผลู ได้มาช่วยดูโรงงานของแฟนคนปัจจุบันด้วย

และยังได้โอกาส เป็นตัวแทนนำเข้า koyorad ก่อน แล้วตามมาด้วย dixcel

เป้าหมายในชีวิตไม่มีอะไรมาก ขอเพียง ได้สร้างตัว ได้มีโอกาสดีๆ ในชีวิตเหมือนๆคนอื่นเขาบ้าง อยากมีรถสวยๆ แรงๆขับ โดยไม่เดือนร้อน อยากไปเที่ยวแบบไม่ห่วงอะไร

แต่ชีวิตมันเพิ่งเริ่มต้น พ่อแม่ไม่ได้ให้ทรัพย์สมบัติใดๆมา ไม่มีมรดก ไม่มีกิจการ อยากได้ อยากมี ก็ต้องสร้างเอาเอง จะล้มลุกคลุกคลานบ้างคงไม่เป็นไร เอาว่าเราไม่ท้อถอยก็พอ

คำพูดที่พี่ต้น Bossma พูดไว้ว่า   "ทุกวันนี้ผมอยู๋ด้วยกำลังตัวเองที่ว่า กูเริ่มจาก0 และถีบตัวเองมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าบุญ จบแค่ ปวส ปัญหามีไว้ให้แก้พอมันผ่านช่วงนี้ไปได้ อนาคตลูกเมียครอบครัวกูต้งสบายอย่างแน่นอน *อย่างน้อยอนาคตลูกเราก็ไม่ต้องไม่เดินหางานทำแบบเรา *

ผมอ่านแล้วบอกได้เลย ว่ามันเป็นคำเดียวกับที่ผมท่องไว้ในใจอยู่เสมอครับ

หนทางทุกเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยอย่างยิ่งธุรกิจของตัวเอง

อยากให้เจ้าของกระทู้และเพื่อนๆ สู้ๆครับ ไม่มีหนทางไหนดีที่สุด สบายที่สุด อยู่ที่เรารับกับมัน และ ทำมันได้ดีแค่ไหนเท่านั้นล่ะครับ

หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ลังสาด ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 11:54:48 pm
สุดยอดทุกท่านครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: jeedz ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 12:30:12 am
.. .. ผมพึ่งบอกเพื่อนสาวคนนึงไป เค้าเบื่องาน อยากลาออก บลาๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ว่า . . . . . บุญแค่ใหนแล้ว ชั่วโมงนี้มีงานทำเงินเดือน หมื่นขึ้น

เบื่อเพราะเราไม่สนุกกับงานมากกว่า ถ้าเราสนุกกะมัน ก็ไม่น่าเบื่อแล้ว
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: KaewSaBa ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 01:10:52 am
บ้านมีธุรกิจส่วนตัว ก่อตั้งช่วงผมเกิดมาซักพักครับ แต่ไม่ได้ใส่ใจ
ชอบคอมครับเลยเรียนด้านคอม ไม่สนใจธุรกิจที่บ้านเลย รู้คร่าวๆว่าขายเครื่องมือสื่อสาร บริษัทเล็กๆ มีคน 6-7 คน
กะว่าจบออกมาจะเป็นโปรแกรมเมอร์ ทำอะไรก็ได้เกี่ยวกับคอม

ปรากฎว่าอยู่มาวันนึง ตอนนั้นผมอยู่มปลาย
หลานคนนึงซึ่งเป็นลูกของพี่สาวแม่ที่รับเข้ามาทำงานที่บริษัทได้โกงออกไปครับ เอาบริษัทและ products ที่แม่ติดต่อไว้ ออกไปเปิดบริษัทขายแข่งกับเรา จนตอนนี้ยังแข่งกันอยู่เลยครับ
เหตุมาจากเพราะว่าเป็นหลานแท้ๆ เลยไว้ใจให้ติดต่อกับฝรั่งเอง และช่วงนั้นกำลังติดต่อบริษัทที่ว่านี้ซึ่งเราสนใจจะเป็นตัวแทน พ่อ+แม่จะวิ่งในเรื่องของวางสเป็ค ส่วนหลานคนนี้จะติดต่อกับฝั่งบริษัทที่เราจะเป็นตัวแทนโดยมีฝรั่งอีกคนที่เคยเป็นลูกน้องพ่อมาก่อนคอยช่วย กลายเป็นว่าโกงออกไปทั้งคู่ซะงั้น และหลอกพ่อ+แม่ผมมาตลอดว่ากำลังดีลอยู่คุยอยู่ ได้เรื่องแล้วแบบนี้ แบบนั้น แต่สรุปไปเปิดบริษัทหักหลัง

หลานคนนี้จบมาช่วงแรกๆหางานไม่ได้ +กับที่แม่เอ็นดูอยู่และสนิทกับครอบครัวนี้ (พี่สาวแม่) อยู่มากเหมือนกัน เลยรับเข้ามาให้ช่วยงาน สอนทุกอย่างตั้งแต่ทำอะไรไม่เป็น ไม่รู้เรื่องธุรกิจ สอนทุกอย่างหมดเปลือก ไม่กั๊กเลยครับ ทั้งพ่อทั้งแม่ผม

ช่วงนั้นผมยังเด็ก แต่รู้อยู่อย่างเดียวครับ แค้นแทนอย่างมาก
เลยหันมาเริ่มช่วยงานและดูบริษัทที่บ้าน สรุปคือเลยรู้ว่าบ้านขายยุทธภัณฑ์ครับ

สั้นๆคือกลายมาเป็นสนใจธุรกิจที่บ้านไปเลยครับ เพราะพอมาคิดว่าใครซักกี่คนที่จะได้มารู้หลายๆเรื่องที่คนปกติทั่วไปเค้าไม่รู้กันแบบนี้ก็สนุกแล้วครับ +กับเด็กผู้ชายหลายๆคนนอกจากเรื่องรถ,กุ้งหอยปูปลา บางส่วนก็คงชอบเรื่องอาวุธอยู่บ้าง

แต่งานทุกงานเหนื่อยครับ แต่ผมพอจะพูดได้อยู่ระดับนึงว่างานด้านนี้เหนื่อยมากกก
ทำงานวันนี้ ได้เงินอย่างเร็วก็อีกสองปีครับ ได้ไม่เต็มด้วย ขึ้นอยู่กับงานว่ามีวิธีจ่ายยังไง บางงานกว่าจะเซ็น กว่าจะส่งของ กว่าจะติดตั้งสินค้าอีกหนึ่งปี ประกันอีก 3ปี ก็นั่นแหละครับถึงจะรับเงินครบ
ยังครับ อย่าลืมว่ากองทัพ ต้องมีการจัดสรรงบ วางงบ วางคน วางแผน เร็วสุด คิดวันนี้ ใช้งบปีหน้า เซ็นปีถัดไป ส่งงานโน่นครับ รับเงินก็ผ่านไป 5ปีพอดี
ยังไม่นับว่าวันดีคืนดีอยู่ๆจะมีคนมาวิ่งให้ล้ม ร้องเรียน หาเรื่อง ยัดเงิน เอาพวกของตัวเอง ล้มเลิกโครงการ บลาๆ หรือแม้แต่เปลี่ยนรัฐบาลก็ดี

หลายงานครับ ทำมาแทบตาย แต่รัฐล้มเลิกเอาวินาทีสุดท้าย หมดครับ, ฟ้อง? ได้ก็ดีสิครับ ลูกค้ามีอยู่คนเดียว ขายได้อยู่หน่วยเดียว ฟ้องไป ถึงชนะ connection เสียสิครับ ทำงานต่อลำบากแน่ ทำใจครับ ทำงานกับรัฐฯ นี่ยังไม่นับนะครับว่า ศุลกากรเมืองไทยนี่สุดยอด ใครเคยมีประสบการณ์จะรู้ดีครับ

มีอยู่โปรเจ็คนนึงที่พ่อแม่ผมวิ่งงานอยู่นาน ตอนแรกจะซื้อหลายตัว ผ่านมา 20ปีแล้วครับ กำลังจะเซ็นปีหน้า เหลือ 1/8 ของความตั้งใจแรกที่จะซื้อ แถมบางอย่างก็ถูกแบ่งไปอีก เป็นยังไงครับ ยังครับยัง 20ปีอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นยังไม่จบครับ มีต่ออีก 4ปี ปี2015 ได้ตังครับ ถ้าเรือไปชนแล้วล่มก็จบครับ ความจริงคือพึ่งชนมาด้วย.. แต่โชคยังดีที่ไม่เป็นไรมาก โปรเจ็คยังไปต่อได้
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 01:17:26 am
รอฟังต่อครับแก้ว

 :bbbear_17:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: KaewSaBa ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 01:36:58 am
รอฟังต่อครับแก้ว

 :bbbear_17:
555 ว่าจะลบแล้วครับ :bbbear_15: :bbbear_15:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 02:05:32 am
เรื่องผ่านไปแล้วก็ไม่ลับแล้วละครับแก้ว เมื่อ15 ปีก่อน เพื่อนผมเป็นนายทหารดูแลระบบอาวุธนำวิถีของทร. ตอนทดสอบอาวุธแบบพื้นสู่พื้น ชนิดยิงแล้วลึม คือทำลายเรือรบด้วยกัน สมัยนั้นทร.งบประมาณเค้าน้อย ก็เลยไปเลือกระบบ "ซิลค์เวิร์ม" ของจีน ก็เหมือนรุ่นก็อปปี้ของ "ฮาร์พูน" ของมะกันนั่นละครับ คือตามนิยามก็ล็อคเป้าเสร็จก็ยิงแล้วลืมได้เลย เรือที่ทำหน้าที่ยิงก็สามารถจะหลบหลีกจากพื้นที่การรบได้เลย แต่ด้วยความที่งบประมาณน้อย ต้องไปเลือกระบบของจึน เพื่อนผมก็เลยต้องนั่งแทร็คเป้าอยู่ในโดมของเรือรบจึน (ที่ซื้อเค้ามา) ซึ่งพลเรือนทั่วไปดูภายนอกนึกว่าเป็นโดมเรดาห์อลังการอัจฉริยะ แต่ข้างในมีคนนั่งบังคับแบบ manual ทั้งนี้ก็เพื่อจะให้เจ้า "ซิลค์เวิร์ม" นี่มันชนเป้าให้ได้ ผมถามว่า ถ้ามันไม่ชนแล้วจะเป็นไงวะ มันตอบว่า ก็จากต้นเรือกูก็อาจจะไปเป็นกลาสีต่อไง ผมก็ ... ประมาณว่า โห ... แล้วทำไม่ ทร.ไม่ซื้อฮาร์พูน หรือ เอ็กโซเซ่ห์ มายิงวะ จะได้โดนแบบไม่ต้องลุ้น มันบอกว่า ก็เรือรวมจรวดจีน เท่ากับมึงยิง ฮาร์พูนสัก 10 ลูก หากมีฮาร์พูนแต่เรือกระจอกๆ เพื่อนบ้านมึงจะกลัวมั้ย แต่ถ้าซื้ออาวุธจีน ถึงยิงไม่ถูก แต่อย่างน้อยมึงมีเรือฟริเกตขับแล่นไปมา เพื่อนบ้านมึงมันก็ยังเกรงใจไง ผมก็ยังนึกในใจว่า โห ... วิทยายุทธชั้นนี้ ลึกล้ำนัก หากหลอกได้แม้แต่ตัวเอง เพื่อนบ้านมันก็คงจะโดนหลอกเหมือนกัน .... 5555

 :bbbear_43:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 06:28:18 am
ดันต่อ รอท่านต่อไป หรือจะขึ้นภาคต่อก็ได้นะ 555 :bbbear_2:

หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: KaewSaBa ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 11:37:51 am
ตอนนี้เป็นนาวาเอกชื่อ สุ.... ภ.... หรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: ลังสาด ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 12:47:56 pm
พี่โชคเล่าเลยพี่
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 01:13:55 pm
ตอนนี้เป็นนาวาเอกชื่อ สุ.... ภ.... หรือเปล่าครับ

เป็นนาวาเอกครับ ย้ายหน่วยเข้ากทม. มาแล้ว สมัยเค้าดูจัดซื้อที่สัตหีบ ตอนงบยังไม่มาแต่ต้องซ่อมบำรุงเรือเช่น ทาสีรองพื้นกันเพรียง ยังต้องควักตังค์ออกเองก็มี ผมยังเคยแซวไปว่า หากเป็น ตร. หรือทหารบกก็คงสบายกว่านี้ เค้าก็ตอบกลับมาว่าเป็นทหารเรือมาตั้งแต่ปู่ ถึงจะค่าตอบแทนไม่มาก แต่ก็ภูมิใจครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 01:17:33 pm
พี่โชคเล่าเลยพี่
ผมเหรอ เรียนมาแล้วก็ขายเสื้อมาเรื่อยในจตุจักรกับแฟน ตัดเองจ้างเย็บแบบกิ๊กก๊อกๆ สุดท้ายมาประตูน้ำบินไปสั่งเสื้อแฟชั่นของสาวๆจากจีนมาขาย(ขายส่ง) จนบัดเดี๋ยวนี้

จบแล้วครับ แปดปีทั้งหมดมีแค่นี้55555 สั้นๆเดิมๆ มีปวดหัวบ้างนิดนุง(ดีแล้ว) :bbbear_23:

ออเดอร์ได้ ทางวอทแอพและไลน์หรือPM ไม่แพง เรารอคุณอยู่อิอิ :bbbear_28:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: KaewSaBa ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 10:07:58 pm
เป็นนาวาเอกครับ ย้ายหน่วยเข้ากทม. มาแล้ว สมัยเค้าดูจัดซื้อที่สัตหีบ ตอนงบยังไม่มาแต่ต้องซ่อมบำรุงเรือเช่น ทาสีรองพื้นกันเพรียง ยังต้องควักตังค์ออกเองก็มี ผมยังเคยแซวไปว่า หากเป็น ตร. หรือทหารบกก็คงสบายกว่านี้ เค้าก็ตอบกลับมาว่าเป็นทหารเรือมาตั้งแต่ปู่ ถึงจะค่าตอบแทนไม่มาก แต่ก็ภูมิใจครับ
โอ้ว สงสัยคนเดียวกันแน่นอน พี่แกฮาดีครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 01:05:26 am
ลองอ่านมาทั้งสายแพทย์ สายค้าขาย สายอาวุธ สายsale .... ของพี่ๆหลายๆท่าน
เลยอยากลองแชร์การทำงานสายวิศวกรการผลิต สายโรงงาน ในฐานะลูกจ้างบ้างนะคับ

เริ่มจากเรียนจบวิศวะมาใหม่ๆ ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เนื่องจากเกเรสมัยเรียน ( จนเกือบจะไม่จบ )
พอดีบ้านผมเป็นครอบครัวแบบว่า ไม่สนใจว่าที่บ้านจะมีฐานะยังไง แต่ถ้าเรียนจบป.ตรีปั๊ป ตัดหางปล่อยวัดทันที
ไม่หางานทำก็ อด!!!  :bbbear_1:
ใช้เวลาหางานอยู่ประมาณเดือนนึง ก็ได้มีโอกาสทำงานกับบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่แห่งนึง
เป็นบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนหลายชนิดให้ Toyota ....อันเนื่องมาจากมีรุ่นพี่ที่เคยเกเรมาด้วยกัน สมัยเรียนเป็น Manager อยู่
ผมเห็นแล้วแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยคับ ว่าการทำงานในโรงงานจะทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
จากรุ่นพี่ที่เคยเจอสมัยเรียน เตะบอล เล่นไพ่ กินเหล้า ดูดบุหรี่ รวมถึงเที่ยวเล่น เหลวไหลด้วยกัน
เจออีกที กลายเป็น Manager ที่สุขุม เยือกเย็น คิดเก่ง มีหลักการ และเป็นที่ยอมรับของทุกคน แม้กระทั่งเจ้าของโรงงาน
ชีวิต Engineer จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ แถมหลักการก็ไม่ค่อยจะมี กับชีวิตในสายการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ทุกอย่าง
เป็นระบบ มีหลักการ  รวดเร็ว และแม่นยำ เนื่องจากในสายการผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะของ Toyota เวลาทุกนาทีมีค่าคับ
ถ้าจำไม่ผิด(ตอนนั้น) รถกระบะ Vigo 1 คัน จะออกจากสายพานทุกๆ 1 นาที ซึ่งถ้าส่งชิ้นส่วนช้าจนทำให้ต้องหยุดสายการผลิต
เขาปรับนาทีละหลักแสนนะคับ และไม่ต้องถามเรื่องการ stock ชิ้นส่วนไว้มากๆ เพราะ Toyata ไม่ชอบ เพราะขัดกับระบบ TPS
TPS ( Toyata production system ) ทุกอย่างจะมีอยู่น้อยที่สุดและต้อง Just in time คับ
ผมก็อยู่อย่างทุลักทุเลกับ งานที่เร่งรีบ อากาศร้อนและเสียงดังในแผนก press ( ขึ้นรูปโลหะ ) ใส่ชุดอันแสนอึดอัดที่โดนบีบคั้นโดย
ระบบ safety ตามสไตล์ญี่ปุ่น ไหนจะต้องทำงานร่วมกับลูกน้องชายฉกรรจ์ ที่ทั้งเก่าและเก๋า ซึ่งอย่างเดียวที่ Engineer จะไปปราบ
คนพวกนี้ได้ก็คือ ตัวเลขและหลักการคับ เพราะเรื่องการทำงานเราไม่มีทางรู้เท่าพวกเขาแน่นอน
แต่ผมโชคดีตรงที่มีรุ่นพี่เป็นหัวหน้า  เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ให้งาน เป็นอาจารย์ให้ความรู้ และอนาคต จนทำให้ผมมีวันนี้ได้คับ
(ปัจจุบันนี้ ทุกๆปีผมก็เอากระเช้าของขวัญไปให้เขา และเอาของเล่นไปฝากลูกๆเขา เป็นประจำทุกปีคับ)
เขาสอนทุกอย่างให้ผม จนมีโอกาสได้ทำ Project ใหญ่ที่ทำเงินให้บริษัทได้หลายล้านบาท แต่ผลตอบแทนที่ผมได้รับคือ
การขึ้นเงิน จากฐานเงินเดือนที่แสนเตี้ยตามประสาบริษัทไทย-ญี่ปุ่น ในหลักร้อย !!!
ความอดทนจึงหมดลง ผมคุยกับรุ่นพี่ผมตรงๆว่าผมจะไป ซึ่งเขาก็ไม่ว่า เพราะเขาก็อยากไป แต่เนื่องจากอายุมากแล้วบวกกับมีภรรยาอยู่ที่เดียวกัน
การเปลี่ยนงาน จึงไม่ใช่ทางที่ดีสำหรับเขา ....
ผมลาออกจากที่นี่หลังจากทำงานได้ 11 เดือน และก้าวต่อไปกับการทำงานในบริษัทของเล่นอันดับ 1 ของโลกสัญชาติมะกัน ที่แค่เข้าออฟฟิต
ไปสัมภาษย์เอาใจผมไปแล้ว ด้วยผลิตภัณที่เขาทำเป็นของเล่นโปรดของผมและน้องสาวในวัยเด็ก นั่นคือ Hot Wheels และ Barbie นั่นเอง !!!
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: mystic ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 01:13:03 am
ลองอ่านมาทั้งสายแพทย์ สายค้าขาย สายอาวุธ สายsale .... ของพี่ๆหลายๆท่าน
เลยอยากลองแชร์การทำงานสายวิศวกรการผลิต สายโรงงาน ในฐานะลูกจ้างบ้างนะคับ

เริ่มจากเรียนจบวิศวะมาใหม่ๆ ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เนื่องจากเกเรสมัยเรียน ( จนเกือบจะไม่จบ )
พอดีบ้านผมเป็นครอบครัวแบบว่า ไม่สนใจว่าที่บ้านจะมีฐานะยังไง แต่ถ้าเรียนจบป.ตรีปั๊ป ตัดหางปล่อยวัดทันที
ไม่หางานทำก็ อด!!!  :bbbear_1:
ใช้เวลาหางานอยู่ประมาณเดือนนึง ก็ได้มีโอกาสทำงานกับบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่แห่งนึง
เป็นบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนหลายชนิดให้ Toyota ....อันเนื่องมาจากมีรุ่นพี่ที่เคยเกเรมาด้วยกัน สมัยเรียนเป็น Manager อยู่
ผมเห็นแล้วแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยคับ ว่าการทำงานในโรงงานจะทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
จากรุ่นพี่ที่เคยเจอสมัยเรียน เตะบอล เล่นไพ่ กินเหล้า ดูดบุหรี่ รวมถึงเที่ยวเล่น เหลวไหลด้วยกัน
เจออีกที กลายเป็น Manager ที่สุขุม เยือกเย็น คิดเก่ง มีหลักการ และเป็นที่ยอมรับของทุกคน แม้กระทั่งเจ้าของโรงงาน
ชีวิต Engineer จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ แถมหลักการก็ไม่ค่อยจะมี กับชีวิตในสายการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ทุกอย่าง
เป็นระบบ มีหลักการ  รวดเร็ว และแม่นยำ เนื่องจากในสายการผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะของ Toyota เวลาทุกนาทีมีค่าคับ
ถ้าจำไม่ผิด(ตอนนั้น) รถกระบะ Vigo 1 คัน จะออกจากสายพานทุกๆ 1 นาที ซึ่งถ้าส่งชิ้นส่วนช้าจนทำให้ต้องหยุดสายการผลิต
เขาปรับนาทีละหลักแสนนะคับ และไม่ต้องถามเรื่องการ stock ชิ้นส่วนไว้มากๆ เพราะ Toyata ไม่ชอบ เพราะขัดกับระบบ TPS
TPS ( Toyata production system ) ทุกอย่างจะมีอยู่น้อยที่สุดและต้อง Just in time คับ
ผมก็อยู่อย่างทุลักทุเลกับ งานที่เร่งรีบ อากาศร้อนและเสียงดังในแผนก press ( ขึ้นรูปโลหะ ) ใส่ชุดอันแสนอึดอัดที่โดนบีบคั้นโดย
ระบบ safety ตามสไตล์ญี่ปุ่น ไหนจะต้องทำงานร่วมกับลูกน้องชายฉกรรจ์ ที่ทั้งเก่าและเก๋า ซึ่งอย่างเดียวที่ Engineer จะไปปราบ
คนพวกนี้ได้ก็คือ ตัวเลขและหลักการคับ เพราะเรื่องการทำงานเราไม่มีทางรู้เท่าพวกเขาแน่นอน
แต่ผมโชคดีตรงที่มีรุ่นพี่เป็นหัวหน้า  เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ให้งาน เป็นอาจารย์ให้ความรู้ และอนาคต จนทำให้ผมมีวันนี้ได้คับ
(ปัจจุบันนี้ ทุกๆปีผมก็เอากระเช้าของขวัญไปให้เขา และเอาของเล่นไปฝากลูกๆเขา เป็นประจำทุกปีคับ)
เขาสอนทุกอย่างให้ผม จนมีโอกาสได้ทำ Project ใหญ่ที่ทำเงินให้บริษัทได้หลายล้านบาท แต่ผลตอบแทนที่ผมได้รับคือ
การขึ้นเงิน จากฐานเงินเดือนที่แสนเตี้ยตามประสาบริษัทไทย-ญี่ปุ่น ในหลักร้อย !!!
ความอดทนจึงหมดลง ผมคุยกับรุ่นพี่ผมตรงๆว่าผมจะไป ซึ่งเขาก็ไม่ว่า เพราะเขาก็อยากไป แต่เนื่องจากอายุมากแล้วบวกกับมีภรรยาอยู่ที่เดียวกัน
การเปลี่ยนงาน จึงไม่ใช่ทางที่ดีสำหรับเขา ....
ผมลาออกจากที่นี่หลังจากทำงานได้ 11 เดือน และก้าวต่อไปกับการทำงานในบริษัทของเล่นอันดับ 1 ของโลกสัญชาติมะกัน ที่แค่เข้าออฟฟิต
ไปสัมภาษย์เอาใจผมไปแล้ว ด้วยผลิตภัณที่เขาทำเป็นของเล่นโปรดของผมและน้องสาวในวัยเด็ก นั่นคือ Hot Wheels และ Barbie นั่นเอง !!!


ชาวนครเลี้ยงลูกเหมือนหกันหมดจริงๆพี่บ่าว 5555
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 01:17:25 am
รีบมาต่อ อย่าให้รอนานนะดินดาน
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 11:20:18 am
ต่อคับ
จากบริษัทไทย-ญี่ปุ่น สู่บริษัทสัญชาติมะกัน โดยไม่คิดว่าจะได้(จากเกรดสมัยเรียนที่ต่ำต้อย และประสบการณ์ก็น้อยนิด)
แต่ก็โชคดีที่บุคลิกผม ดันไปถูกใจ Director ท่านนึง ในการสัมภาษรอบสุดท้าย จึงได้มีโอกาสได้เข้าทำงานคับ
เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงทั้งการทำงานและชีวิตผม โดยเฉพาะชีวิตความเป็นอยู่ ที่เปลี่ยนจาก
การรับเงินเดือนอันแสนน้อยนิดตามสไตล์ญี่ปุ่น มาสู่สไตล์ฝรั่งที่ฐานเงินเดือนสูงจนน่าตกใจ
เรียกได้ว่า x2 กันเลยทีเดียว  :bbbear_2:
ลักษณะการทำงานก็ต่างกันคับ จากต้องใส่ชุดฟอร์ม ใส่หมวกsafety ,รองเท้าsafety ,พกถุงมืออยู่ตลอดเวลา
กฎระเบียบเรียบเป๊ะ พักทานข้าว หรือแม้แต่สูบบุหรี่ ยังต้องเป็นเวลา ของที่เก่า .....มาสู่บริษัทสไตล์ฝรั่ง
ใส่แค่ชุดสุภาพ(อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ)ไปทำงาน  แค่เสื้อยืด กางเกงยืน รองเท้าผ้าใบ
ก็ไปทำงานได้แล้วคับ ไม่มีเวลาพักตายตัว (ยกเว้นระดับ operator ) จะพักตอนไหน นั่งสูบบุหรี่ตอนใด ได้หมดคับ
ส่วนมากนั่งสูบบุหรี่ จิบกาแฟ คุยงานกันทุกวันคับ
และเนื่องจากเป็นบริษัท Worldwide จึงมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวต่างชาติอยู่มากมาย ทำให้เรามีโอกาสที่จะได้
พัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเอง และได้ศึกษารูปแบบการทำงานของชาวต่างชาติด้วยคับ ....และเห็นได้ชัดเจนว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
เขาทำงานกันยังไง การทำงานแบบฝรั่ง ไม่มีระเบียบอะไรมาบังคับในการทำงานมากมายเหมือนของญี่ปุ่น แต่คนที่เขารับเข้ามาทำงาน
ต้องมีวินัยและจรรยาบรรณในการทำงานเองคับ ประมาณว่า คุณจะเข้างานก็โมง พักกี่โมง กลับบ้านกี่โมง ไปนั่งจิบกาแฟ สูบบุหรี่ ที่ไหน เมื่อไหร่
ไม่มีใครว่าคับ แต่ถ้างานมีปัญหา ต้องเคลียร์ให้จบทันทีคับ คุณต้องจัดการงานในส่วนของคุณให้ดี ไม่มีปัญหา แล้วจะทำอะไรก็ ตามสบาย ....
แต่ที่ชอบสุดคือ งานที่ทำคับ โดยเฉพาะผลิตภัณ ...ที่นี่เป็น Plant ที่ผลิตในส่วนของ Hot Wheels คับ ส่วน Barbie จะผลิตที่ plant ที่จีนคับ
เริ่มต้นด้วยการเข้าไปเป็น Engineer ในแผนกสุดท้ายปลายทาง นั่นก็คือ Assembly & Pack-out คับ ...พูดง่ายๆแผนกที่ผมทำ
มันก็คือโรงงานประกอบรถยนต์ขนาดย่อยนี่เอง แค่เปลี่ยนจากรถจริง เป็นโมเดลรถของเล่น ที่มีทั้งขนาด 1:64 , 1:48 และ 1:24 จากของจริงคับ
เข้าไปช่วงเดือนแรกแทบจะไม่ได้ทำงานคับ มัวแต่ชื่นชมกับผลิตภัณในสายการผลิตคับ มีความสุขกับการทำงานอยู่ท่ามกลางโมเดลรถสวยๆ นับร้อยรุ่น
ที่เราชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยพาให้ชีวิตมีความสุขมากในช่วงนั้น งานก็ใช่ เงินก็ชอบ  :bbbear_17:
พอการทำงานมันมีความสุข มันเลยมีความตั้งใจ และทำให้ผลงานออกมาดี จนได้รับโอกาสจาก Director ผู้ใจดี ที่ถูกชะตาผมมาตั้งแต่ตอนสัมภาษย์
มอบหมายให้ทำงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับ Department ที่อายุน้อยที่สุดในโรงงาน ...ข้อดีอีกอย่างของบริษัทฝรั่งคือ เขาจะไม่ยึดติดกับคนเก่าๆ
ที่หมดไฟแล้วอยู่แบบเรื่อยๆไปวันๆ ถ้าหมดไฟ ไร้ประโยชนย์เมื่อไหร่เขาไม่เอาไว้คับ จ่ายชดเชยเท่าไหร่ก็ยอม เพื่อให้โอกาสกับเด็กรุ่นใหม่
ที่จะเป็นอนาคตของบริษัท ซึ่งต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ เมื่อโอกาสมาถึงตรงหน้า
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของผม กับตำแหน่งที่เรียกได้ว่า เหมือนเป็นเจ้าของโรงงานประกอบรถยนต์(ขนาดจิ๋ว) เลยก็ว่าได้ ......
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 11:30:58 am
อ่านแล้วตกใจนึกว่าทำของเล่นผู้ใหญ่5555

ต่อเลยครับแนน
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 11:31:48 am
รออ่านต่อนะครับ ...

 :bbbear_2:

หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tabuu ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 12:18:13 pm
แจ่มเลย
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 12:55:27 pm
ต่อเลยนะจ๊ะ
โรงงานประกอบรถยนต์(ขนาดจิ๋ว)ของผม เป็นโรงงานที่น่าตื่นตาตื่นใจ และถูกใจผมมากๆ โดยเฉพาะผลิตภัณ(เหมือนเดิม)
เนื่องจากมีรถหลากหลายรูปแบบ ซึ่งตอนแรกผมก็คิดเล่นๆว่า บริษัทนี้จะไหวเหรอ? ขายแค่ของเล่นเนี่ยนะ?  :bbbear_33:
แต่พอรู้อะไรหลายๆอย่างก็เลยเข้าใจว่า ทำไมบริษัทนี้ถึงอยู่ได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่แสนต่ำ การตลาดที่แข็งแกร่ง
และผลิตภัณที่แปลกๆใหม่ๆ มาล่อใจเด็กเสมอ ไหนจะ รถเรืองแสง รถเปลี่ยนสีได้ตามอุณหภูมิ รถที่สร้างตามหนัง project ใหญ่
เช่น CAR ,The fast , Toy story รวมถึงรุ่น limited อีกมากมายที่สามารถล่อใจได้แม้กระทั่งผู้ใหญ่นักสะสมทั้งหลาย ...
ผมมีโอกาสได้ทำรถอยู่รุ่นนึง เป็นรถ classic ที่สั่งทำแบบ custom โดยกลุ่มคนเล่นรถ classic จากแดนมะกัน
ซึ่งคนที่จะเข้ากลุ่มนี้ได้ต้องจ่ายค่าสมัครเป็นเงินหลายหมื่นบาท ถึงจะมีสิทธิสั่งซื้อรถรุ่นนี้ราคาประมาณคันละ 1หมื่นบาท!!!
รถของเล่น มันก็เหมือนรถอย่างซิ่งที่เราๆขับกันแหละคับ คือซื้อ-ขายกัน ตามความพอใจคับ และกลุ่มเป้าหมายหลักคือในอเมกา
เขามีค่านิยมในการซื้อของเล่นแจกเด็กๆในหลายๆโอกาส ซึ่งมีผลสำรวจว่า เด็กๆทุกคนในอเมกา มีรถของบริษัทผมเฉลี่ยคนละประมาณ 6 คัน
และรถรุ่น Limited ที่ผู้ใหญ่สะสมกัน มีค่าและราคาสูงยิ่งกว่าทอง เวลาขายในอีเบย์คับ .... :bbbear_28:

สายการผลิตของโรงงานจิ๋วของผม มันต่างจากสายการผลิตของจริงค่อนข้างมากเลยทีเดียวคับ
ไม่มีสายการผลิตใหญ่และยาวเป็นหางว่าว มียาวมี่สุดก็ประมาณ 20-30 เมตร ใช้คนประมาณ 10-20 คน
เพราะเป็นการประกอบรถขนาดจิ๋ว จึงใช้คนนั่งทำงานกับเครื่องประกอบรถ ที่เมื่อก่อนใช้ประมาณ 2-3 คน
นั่งเรียงกัน และประกอบเป็นรถ 1 คัน แต่ต่อมาถูกพัฒนาเป็นเครื่องจักรที่เรียกว่าเครื่อง OMC ( one man cell )
คือคน 1คน ทำงานกับเครื่อง 1 เครื่อง และได้รถ 1 คัน ใช้เวลาประกอบประมาณ 30 วินาที ต่อ 1 คัน
แต่ก็ยังมีหลาย product ที่ยังต้องใช้หลายๆคน และหลายๆ เครื่อง เนื่องจากเราไม่ได้ประกอบและขับออกไปเหมือนรถจริง
แต่นี่เป็นรถของเล่น จึงต้องมี Process ที่เรียกว่า Pack-out หรือบรรจุใส่กล่องด้วยนั่นเอง
แต่ความยุ่งยากและระบบก็คล้ายๆกันคับ นั่นก็คือ สายการผลิตห้ามหยุด ชิ้นส่วนทุกอย่างต้องมาตามเวลา โดยชิ้นส่วนทุกชิ้น
จะถูกผลิตขึ้นโดยแผนกอื่นๆในโรงงานนี่แหละคับ ไม่ว่าจะฉีดขึ้นรูป Body , Chassis , ล้อ , กระจก และ Interior
ไปถึงการพ่นสี และทำลวดลายตามแบบ ก่อนจะมาถึงโรงงานประกอบของผม
ซึ่งแต่ละส่วนก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหาทั้งนั้น แต่ของผมแย่กว่าตรงที่เป็นแผนกสุดท้ายปลายทาง ซึ่งถูกควบคุมด้วย Shipment
ในทุกๆสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2-3 ล้านคัน  ความยุ่งยากและลำบาก รวมถึงความกดดันจึงมาเยือน  :bbbear_38:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Choke gf ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 09:58:45 pm
ต่อๆเลย สนุกShipหาย 5555 :bbbear_43:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Subie+Panda ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 10:28:32 pm
พี่ JC ครับ โรงงานแมคแทค รึเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Hattori ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 05:24:44 am
รอตอนต่อไปนะครับ เดินไลน์ผลิตรถเกือบทุกยี่ห้อมากว่าสิบปี เพิ่งเข้าถึงอารมณ์ผู้ผลิตจริงๆ ก็เพราะมาอ่านประสบการณ์คุณ JC นี่หละครับ

 :bbbear_47:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 11:53:27 am
พี่ JC ครับ โรงงานแมคแทค รึเปล่าครับ
ไม่ใช่คับผม

รอตอนต่อไปนะครับ เดินไลน์ผลิตรถเกือบทุกยี่ห้อมากว่าสิบปี เพิ่งเข้าถึงอารมณ์ผู้ผลิตจริงๆ ก็เพราะมาอ่านประสบการณ์คุณ JC นี่หละครับ

 :bbbear_47:

ต่อๆเลย สนุกShipหาย 5555 :bbbear_43:
เด๋วมาต่อให้นะคับ วันนี้งานยุ่งมว๊ากกกกก  :bbbear_27:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 09:04:53 pm
มาต่อคับ
โรงงานจิ๋วของผมนั้นมีสายการผลิตหลายรูปแบบคับ ทั้งเครื่องแบบ 1 คน ,แบบ 2 คน, แบบ 3 คน ที่ประกอบเป็นรถ 1 คัน
แล้วจึงนำไปบรรจุในเครื่อง pack ที่ใช้คนแบบ 1 คน ,2คน,3คน ต่อ1pack
แล้วจึงนำไปเข้าสายการผลิตที่นำงานที่ packแล้ว มาบรรจุใส่กล่องกระดาษ ตามรุ่นต่างๆ ซึ่ง 1 กล่อง
อาจจะมีpack 4-5 แบบ   ก่อนจะส่งลงเรือให้ลูกค้า...
ซึ่งไม่ได้เป็นสายการผลิตแบบม้วนเดียวจบ (ประกอบยันลงกล่อง) เหมือนรถจริง เนื่องจากเวลาแต่ละ process ไม่เท่ากัน
จึงต้องมีสิ่งที่เรียกว่า WIP ( work in process ) คืองานค้างระหว่างผลิตนั่นเอง และต้องมีให้น้อยที่สุด เนื่องจาก
พื้นที่มีจำกัด ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องปฎิบัติตามก็คือ Production Plan หรือแผนการผลิตนั่นเอง ที่จะบอกผมว่า
Part ชิ้นไหนจะมาเวลาใด? รถรุ่นต่างๆจะประกอบเมื่อไหร่? และpackแบบต่างๆจะผลิตและลงกล่องส่งของเมื่อไหร่ ?
เนื่องจากเราไม่สามรถทำรวดเดียว วันเดียวจบได้ นั่นเองเหมือนจะง่ายใช่มั้ยคับ? แต่ความซวยมันจะมาเยือนเมื่อ production plan ถูกวางแผนล่วงหน้าอย่างแน่นเอียด เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว
แต่..... Part ไม่มาตามเวลา (ทั้งของรถและของPack)   ผมจะยกตัวอย่าง 1 pack (3 รุ่น จาก2-300รุ่น/สัปดาห์ )
สมมติว่า ผมจะผลิต pack Subaru มีรถ 3 คันใน 1 pack ( GC,GF,GD)ลูกค้าสั่ง 10,000 pack
เท่ากับผมต้องประกอยรถ 30,000คัน ...plan เขียนไว้ว่า ให้เริ่มผลิตsubaruรถทั้ง 3 รุ่นนี้ในวันจันทร์ แล้ว pack วันอังคาร
แล้วนำไปใส่กล่องรวมกับ pack ของ EVO , Lambo และ Fer ในวันพฤหัส 
( ซึ่งรถและpackแบบอื่นก็ผลิตไปพร้อมๆกัน )    แต่....
แผนกก่อนหน้าบอกว่า ล้อ GC จะได้อังคารนะ กระจก GF จะได้วันพุธนะ body ของ GD ยังทำสีไม่เสร็จเลย ได้พฤหัสอ่ะ  :bbbear_20:
คิดในใจได้คำเดียว Ship หาย !!!!  :bbbear_1:
เนื่องจากในแต่ละวันก็จะมี plan ในการผลิตของแต่ละรุ่น อีก 2ร้อยกว่ารุ่น อย่างเนืองแน่น ในทุกๆวันอยู่แล้ว  :bbbear_40:
นี่แค่เรื่องปัญหาในการผลิตนะคับ ไหนจะเรื่องเครื่อง เครื่องเสีย ไฟดับ ลมตก อันนี่เจ๊ง อันโน่นเสีย ...
ไหนจะเรื่องคน(ลูกน้อง) ลาป่วย ลากิจ ขาดงาน ...วันไหนฝนตก แดดร้อน จะขาดเยอะ  วันไหนหวยออก จะไม่มีสมาธิในการทำงาน
และความไม่พร้อม หรืออุบัติเหตุต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในสายการผลิต มีให้เราได้ลุ้นตลอดเวลา แต่.....
สิ่งที่เหมือนกับโรงงานรถจริงก็คือ ลูกค้าจองรถแล้ว!!  นี่ก็เหมือนกันคับ ลูกค้าสั่ง order มาแล้ว ยิ่งถ้าเป็น รุ่นใหญ่ๆดังๆอย่างเช่น
CAR หรือ toy story ถึงขนาดมีกำหนดวางขายแล้วด้วย !!!  :bbbear_1:

ซึ่งหน้าที่ง่ายๆของผมในทุกๆสัปดาห์ก็คือ เริ่มจัดการกับปัญหาเหล่านั้นในวันจันทร์ โดยการบริหารทรัพยากรทั้งคน 600คน,
เครื่อง 200กว่าเครื่อง และชิ้นส่วน 10-15 ล้านชิ้น  ให้ได้ Utilise มากที่สุด(เครื่องห้ามจอด คนห้ามว่าง) ในทุกๆวัน
จนกระทั่งส่งของได้ตาม shipment ในเช้าวันอาทิตย์ !!!  :bbbear_38:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: saran_1st ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 09:11:57 pm
คุณ JC จบ IE รึเปล่าครับเนี่ย เรื่องตื่นเต้นน่าสนุกดีจัง ต่อครับๆ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: gentlemanly ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 10:48:28 pm
ไม่ได้เข้ามาอ่าน 2 วัน มาอ่านอีกทีผมนึกว่าดูหนังอยู่เลยนะเนี่ยยย 5555+
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: airron ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 11:23:30 pm
 :bbbear_37:
มาต่อคับ
โรงงานจิ๋วของผมนั้นมีสายการผลิตหลายรูปแบบคับ ทั้งเครื่องแบบ 1 คน ,แบบ 2 คน, แบบ 3 คน ที่ประกอบเป็นรถ 1 คัน
แล้วจึงนำไปบรรจุในเครื่อง pack ที่ใช้คนแบบ 1 คน ,2คน,3คน ต่อ1pack
แล้วจึงนำไปเข้าสายการผลิตที่นำงานที่ packแล้ว มาบรรจุใส่กล่องกระดาษ ตามรุ่นต่างๆ ซึ่ง 1 กล่อง
อาจจะมีpack 4-5 แบบ   ก่อนจะส่งลงเรือให้ลูกค้า...
ซึ่งไม่ได้เป็นสายการผลิตแบบม้วนเดียวจบ (ประกอบยันลงกล่อง) เหมือนรถจริง เนื่องจากเวลาแต่ละ process ไม่เท่ากัน
จึงต้องมีสิ่งที่เรียกว่า WIP ( work in process ) คืองานค้างระหว่างผลิตนั่นเอง และต้องมีให้น้อยที่สุด เนื่องจาก
พื้นที่มีจำกัด ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องปฎิบัติตามก็คือ Production Plan หรือแผนการผลิตนั่นเอง ที่จะบอกผมว่า
Part ชิ้นไหนจะมาเวลาใด? รถรุ่นต่างๆจะประกอบเมื่อไหร่? และpackแบบต่างๆจะผลิตและลงกล่องส่งของเมื่อไหร่ ?
เนื่องจากเราไม่สามรถทำรวดเดียว วันเดียวจบได้ นั่นเองเหมือนจะง่ายใช่มั้ยคับ? แต่ความซวยมันจะมาเยือนเมื่อ production plan ถูกวางแผนล่วงหน้าอย่างแน่นเอียด เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว
แต่..... Part ไม่มาตามเวลา (ทั้งของรถและของPack)   ผมจะยกตัวอย่าง 1 pack (3 รุ่น จาก2-300รุ่น/สัปดาห์ )
สมมติว่า ผมจะผลิต pack Subaru มีรถ 3 คันใน 1 pack ( GC,GF,GD)ลูกค้าสั่ง 10,000 pack
เท่ากับผมต้องประกอยรถ 30,000คัน ...plan เขียนไว้ว่า ให้เริ่มผลิตsubaruรถทั้ง 3 รุ่นนี้ในวันจันทร์ แล้ว pack วันอังคาร
แล้วนำไปใส่กล่องรวมกับ pack ของ EVO , Lambo และ Fer ในวันพฤหัส 
( ซึ่งรถและpackแบบอื่นก็ผลิตไปพร้อมๆกัน )    แต่....
แผนกก่อนหน้าบอกว่า ล้อ GC จะได้อังคารนะ กระจก GF จะได้วันพุธนะ body ของ GD ยังทำสีไม่เสร็จเลย ได้พฤหัสอ่ะ  :bbbear_20:
คิดในใจได้คำเดียว Ship หาย !!!!  :bbbear_1:
เนื่องจากในแต่ละวันก็จะมี plan ในการผลิตของแต่ละรุ่น อีก 2ร้อยกว่ารุ่น อย่างเนืองแน่น ในทุกๆวันอยู่แล้ว  :bbbear_40:
นี่แค่เรื่องปัญหาในการผลิตนะคับ ไหนจะเรื่องเครื่อง เครื่องเสีย ไฟดับ ลมตก อันนี่เจ๊ง อันโน่นเสีย ...
ไหนจะเรื่องคน(ลูกน้อง) ลาป่วย ลากิจ ขาดงาน ...วันไหนฝนตก แดดร้อน จะขาดเยอะ  วันไหนหวยออก จะไม่มีสมาธิในการทำงาน
และความไม่พร้อม หรืออุบัติเหตุต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในสายการผลิต มีให้เราได้ลุ้นตลอดเวลา แต่.....
สิ่งที่เหมือนกับโรงงานรถจริงก็คือ ลูกค้าจองรถแล้ว!!  นี่ก็เหมือนกันคับ ลูกค้าสั่ง order มาแล้ว ยิ่งถ้าเป็น รุ่นใหญ่ๆดังๆอย่างเช่น
CAR หรือ toy story ถึงขนาดมีกำหนดวางขายแล้วด้วย !!!  :bbbear_1:

ซึ่งหน้าที่ง่ายๆของผมในทุกๆสัปดาห์ก็คือ เริ่มจัดการกับปัญหาเหล่านั้นในวันจันทร์ โดยการบริหารทรัพยากรทั้งคน 600คน,
เครื่อง 200กว่าเครื่อง และชิ้นส่วน 10-15 ล้านชิ้น  ให้ได้ Utilise มากที่สุด(เครื่องห้ามจอด คนห้ามว่าง) ในทุกๆวัน
จนกระทั่งส่งของได้ตาม shipment ในเช้าวันอาทิตย์ !!!  :bbbear_38:





เหมือนกันคับ แต่ของผม ทำได้ตามเป้า tack time แล้วกะตัวใครตัวมันละทีนี้
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 24, 2012, 02:06:14 pm
คุณ JC จบ IE รึเปล่าครับเนี่ย เรื่องตื่นเต้นน่าสนุกดีจัง ต่อครับๆ
ใช่แล้วค๊าบบบ  :bbbear_34:

:bbbear_37:




เหมือนกันคับ แต่ของผม ทำได้ตามเป้า tack time แล้วกะตัวใครตัวมันละทีนี้
ก็ประมาณนั้นคับ แต่ละแผนกก็มีเป้า แต่ปัญหาก็คือ ไม่ได้ตามเป้า  :bbbear_40:
ซึ่งถ้าเป็นของที่สั่งจาก supplier เรายังมีข้อตกลง มีการปรับ หรืออะไรตามที่ตกลงกัน
แต่... นี่ดันเป็นบริษัทเดียวกันไงคับ ถ้าส่งไม่ทัน ก็เสียทั้งบริษัท ทุกแผนก
ความยุ่งยาก และความมันส์ จึงบังเกิดคับ 555  :bbbear_27:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: PunTam ที่ กรกฎาคม 25, 2012, 02:19:38 pm
พี่ๆแต่ละคน สุดยอดจริงครับ  :bbbear_34: :bbbear_34: :bbbear_34:
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Norasaker ที่ กรกฎาคม 25, 2012, 03:18:07 pm
เจอ IE แต่ละท่านช่างเก่งกาจทางความคิดครับ
มาตรฐานอุตสากรรมพัฒนาได้เพราะ IE นี่แหละครับ
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: airron ที่ กรกฎาคม 25, 2012, 03:35:30 pm
 :bbbear_37: IE เหมือนกันคับ อยู่ อิสเทิร์นซีบอร์ด ยักใหญ่ในวงการรถยนต์คับ 
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Norasaker ที่ กรกฎาคม 25, 2012, 03:54:21 pm
:bbbear_37: IE เหมือนกันคับ อยู่ อิสเทิร์นซีบอร์ด ยักใหญ่ในวงการรถยนต์คับ

ในอีสเทอร์น มันมี 2 ค่าย นี้ครับ GM แน่ๆ ?
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: จิ๊กโก๋อกหัก ที่ กรกฎาคม 30, 2012, 12:15:28 am
ดินดานมันเขียนมันส์ดีหวะ  เมื่อคืนโทรนมาก็ปิดเสียงไว้วันนี้ก็ลืมโทรกลับ ขอโทษทีเพื่อน
หัวข้อ: Re: พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการทำงานหน่อยครับผม
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ กรกฎาคม 30, 2012, 10:08:09 am
ดินดานมันเขียนมันส์ดีหวะ  เมื่อคืนโทรนมาก็ปิดเสียงไว้วันนี้ก็ลืมโทรกลับ ขอโทษทีเพื่อน
ไม่เป็นไรสหาย จะถามทางไปกินเตี๋ยวโกบู๊ ดันไม่รับ เลยต้องเพิ่งน้าGoo   :bbbear_11:

งอล !!!!  :bbbear_36: