Siam Subaru Webboard
General Discussion => Siam Subaru Society Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bowdaos ที่ สิงหาคม 25, 2011, 09:06:04 am
-
เครื่องเริ่มสตาร์ทติดยากครับ ครั้งแรกไม่เคยติด ลากยาวก้อไม่ติด ต้องครั้งที่สองถึงติด เกิดจากอะไรได้บ้าง เป็นตลอดเลย
-
ลองดูแบตเตอรี่หรือไดสตาร์ดดูครับ
-
ลองดูหัวเทียนครับ
-
ไส้กรองอากาศ หัวเทียน ครับ
-
การทำงานของเครื่องยนต์ อาศัยปัจจัย 3 อย่าง
1. น้ำมัน
2. ไฟ
3. อากาศ
ถ้าขาดองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งไปเครื่องก็ไม่สามารถทำงานได้
ถ้าสตาร์ทติดยาก ลองสำรวจดูจากง่ายไปยากก่อนครับ เช่นไส้กรองอากาศ อุดตันหรือสกปรกไหม ถ้าไส้กรองสะอาดดีก็พิจารณาที่แบตเตอรี่ต่อ เวลาสตาร์ทเครื่องหมุนเร็วพอไหม ถ้าแบตเสื่อมหรือแบตอ่อนเวลสตาร์ทเครื่องหมุนช้าก็ทำให้เครื่องสตาร์ทติดยากได้ครับ แต่ถ้าแบตแรงเครื่องหมุนเร็วดีแต่ยังสตาร์ทยาก ปัญหาอาจอยู่ที่ระบบไฟจุดระเบิด หรือระบบจ่ายเชื้อเพลิง ถ้าแบตไฟเยอะแต่ไดสตาร์ทไม่ค่อยหนุนหรือหมุนช้า ไดสตาร์ทอาจจะเสื่อมสภาพ
ส่วนการตรวจเช็คระบบจุดระเบิดและระบบจ่ายเชื้อเพลิงแนะนำให้เข้าอู่ให้ช่างทำจะดีกว่า เนื่องจากหัวเทียนของซูบารุที่เป็นเครื่องสูบนอนถอดยากมาก คนที่ไม่เชี่ยวชาญจะใช้เวลานานไม่เหมาะกับมือสมัครเล่นครับ ถ้าปัญหามาจากระบบจุดระเบิด อาจเกิดจากหัวเทียนเสื่อมสภาพ ระยะห่างของเขี้ยวหัวเทียนไม่ถูกต้อง คอยล์จุดระเบิดเสื่อมสภาพ หรือสายหัวเทียนเสื่อมสภาพก็เป็นไปได้
ส่วนปัญหาที่ระบบจ่ายเชื้อเพลิงนั้น สาเหตุอาจเกิดจาก มีการอุดตันในระบบส่งเชื้อเพลิง เช่นไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน หรือเกิดจากแรงดันในระบบเชื้อเพลิงไม่สูงพอ ปั๊มเชื้อเพลิงอาจจะเสื่อมสภาพ หรือ fuel pressure regulator เสื่อมสภาพหรือชำรุด แต่ถ้าของที่ว่ามานี้ชำรุดมักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีอาการสะดุดเวลาเร่งเป็นต้น อีกปัญหาหนึ่งที่ผมเคยเจอคือ main relay เสื่อมสภาพ ทำให้บางครั้งไฟไม่จ่ายไปที่ปั๊มเชื้อเพลิงจึงสตาร์ทไม่ติด
แต่จากที่คุณบอกอาการมาคือเพิ่งเริ่มเป็น อยากให้ลองดังนี้คือ เวลาจะสตาร์ทให้บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON ทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยสตาร์ท ถ้าทำแบบนี้แล้วสตาร์ทง่ายขึ้น อาจมีสาเหตุจาการจอดทิ้งไว้เป็นเวลานานจนแรงดันน้ำมันในระบบเชื้อเพลิงไม่มี ถ้าเรารีบสตาร์ททันทีโดยไม่รอ ปั๊มอาจจะยังส่งน้ำมันมาไม่เต็มระบบเครื่องจึงสตาร์ทไม่ติด ถ้าเป็นอาการแบบนี้ลองเปลี่ยนพฤติกรรมในการสตาร์ทรถดูครับ
ขอให้โชคดี emo65o
-
มีอีกปัญหาที่อาจพบได้ แต่ไม่น่าจะเจอบ่อย คือถ้ารถมีระบบกันขโมยที่สามารถตัดการทำงานของปั๊มเชื้อเพลิงได้ ระบบกันขโมยอาจจะรวนปั๊มจึงไม่ทำงาน ไม่มีเชื้อเพลิงจึงสตาร์ทไม่ติดครับ emo74o
-
ปัญหาที่ผมเคยเจอคล้ายๆ แบบนี้เหมือนกัน แต่สาเหตุที่เจอคือมีปัญหาที่ check valve ของปั๊มติ๊กเจ็ง คือปกติเมื่อเราดับเครื่องจะต้องมีแรงดันและน้ำมันอยู่ในท่อของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ระดับหนึ่ง (แต่ถ้าดับเครื่องทิ้งไว้ซักพักใหญ่ๆหรือทิ้งข้ามคืนแล้วดูเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง อาจจะอ่านได้ศูนย์เพราะแรงดันไม่น่าจะเยอะมาก แต่น้ำมันยังอยู่เต็มท่อ อันนี้ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ checkvalve ที่ปั๊มติ๊กด้วยว่ายังอยู่ในสภาพสมบูรณ์กี่เปอร์เซนต์) เมื่อเปิดสวิทช์กุญแจสตาร์ทอีกครั้งปั๊มติ๊กทำงานก็จะเพิ่มแรงดันในระบบท่อเชื้อเพลิงทำให้รถสตาร์ทติดได้เร็ว ซึ่งปกติเมื่อดับเครื่องปุ๊บแรงดันน้ำมันต้องรักษาไว้ได้ระดับหนึ่ง ต้องไม่ตกลงอย่างรวดเร็ว แต่ของผมพอดับเครื่องปุ๊บแรงดันตกลงเป็นศูนย์เลย ลดลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าพอดับเครื่องน้ำมันก็ไหลกลับถังหมด ตัว check valve ของปั๊มติ๊กไม่ทำหน้าที่กั้นน้ำมันไม่ให้ไหลกลับถัง ทำให้เวลาจะสตาร์ทเครื่องอีกครั้งต้องรอให้น้ำมันเต็มท่อและต้องสร้างแรงดันให้ได้ก่อนจึงจะสตาร์ทติด หลังจากเปลี่ยนปั๊มติ๊กไป อาการสตาร์ทใช้เวลานานก็หายไปครับ
ลองตรวจสอบดู อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สตาร์ทยากก็ได้ครับ mush17
-
ก่อนสตาทบิดกุญแจให้ปั้มติ๊กทำงานจนตัดก่อนหรึป่าวครับลองให้น้ำมันเต็มระบบแล้วสตาท
-
ถ้าเป็นอย่างที่บอกเนี่ย ปัญหาที่เจอเนี่ยส่วนใหญ่จะเจอหลังจากดับเครื่องไปนานพอควร แล้วครั้งแรกที่สตาร์ทยาวเนี่ยสตาร์ทเตอร์ยังหมุนอย่างขยันขันแข็งอยู่ โอกาสเป็นไปได้สูงน่าจะเกิดที่fuel pressure regulator. ถ้าให้ดีลองเข้าอู่ให้เขาลองเช็คแบตเตอรี่ และต่อเกจวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงดูนะครับ ว่าก่อนดับเครื่อง หลังดับเครื่องไปแล้วเนี่ยแรงดันตกเยอะมั้ย ถ้าใช่ก็ชัวร์หละครับ
ขอให้โชคดีนะครับ
-
แบตยังดีไฟแรงดีอยู่ครับ มอเตอร์ก็ยังหมุนเร็วปกติ ผมลองบิดกุญแจแล้วรอสักพักให้ปั้มทำงาน แล้วบิดกลับ ทำซ้ำอยู่สองสามครั้งก่อนสตาทแต่ยังสตาทยากอยู่ ปัญหาก้อน่าจะอยู่ที่ระบบเชื้อเพลิง และระบบไฟ ตามที่พี่ๆว่า กรองอากาศก้อเปลี่ยนแล้ว
ขอบคุณทุกคำตอบที่ช่วยวิเคราะห์สาเหตุ mush19 mush19 mush19
-
ของผมก็เป็นเหมือนกัน เป็นมาตั้งแต่วางเครื่อง แต่เห็นช่างบอกว่าเครื่อง RA 5 หัวฉีดมันติดยากเช่นนี้แหละ เลยทนๆไปครับ
-
พี่ขอทราบหน่อยว่าเป็นเครืองตัวไหนครับเท่าที่เคยเจอลองดูนะครับถ้ามีเซ็นเชอร์2ตัวนี้ลองเปลียนดูนะครับของพี่เคยเป็นพอเปลียนแล้วดีเหมือนเดิมลองหาจากรถเพือนมาลองสลับดูก่อนหรือจากเครืองเก่าก็ได้เหมือนกันแต่อย่าเพิ่งชื้อของใหม่นะครับแพงมากประมาณ7000กว่าๆลองดูก่อนนะครับของเก่ามีเยอะคร้บเผื่อจะดีเหมือนรถพี่ครับ
-
พี่ลืมไปเป็นเชนเชอร์ ตัวแคร้ง กับตัว แคมครับ
-
เครื่องผมเป็นตัวคอขาว 5 หัวฉีดครับ
พี่ๆๆท่านใด พอจะมีเซนเซอร์ตามที่พี่คี้แนะนำ ให้ผมได้ยืมมาลองทดสอบดูบ้างมั้ยครับ
-
ถ้าเป็นตัวนี้ลองดูเลยครับน่าจะเปลียนครับคงดีขึ้นเชนเชอร์อาจจะเริ่มเสือมเครื่องปี95-96ใช้มานานแล้วลองดูนะครับถ้าดีแล้วจะได้เป็นไกด์ให้คนอื่นๆได้รู้ด้วย
-
เห็นด้วยครับ ถ้าแก้ไขหายแล้วอย่าลืมเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ทราบกันด้วยนะครับ
แต่ก่อนตอนมีปัญหาผมก็เข้ามาหาความรู้และความช่วยเหลือจากในเวปนี้เหมือนกัน
เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ให้หายเร็วๆ นะครับ mush17
-
ในกรณีระบบไฟรถปกติ
1.เปลี่ยน senser TSP แล้วตั้งค่าองศาใหม่ให้ได้ตามสเป็ค, แล้ว drive by TEST Connect plug
2.ใส่แวคคัมให้ถูก ระบบในท่อ intake ดูด อัดห้ามรั่ว
3.ถ้าไม่ขยาย cc อย่าใส่เรคกลูเรเตอร์
4.ตัดระบบกรองไอเบนซิลกับไอ นมค. ออกก่อนเพื่อ tset ระบบ
5.เซ็นเซอร์ต้องใช้งานได้ดีไม่สกปก หรือติดๆ ดับๆ
6.ปลั๊ก senser ต้องพร้อมใช้งาน
ึ7.ถ้ามีแคทอย่างเติมน้ำมันที่มีส่วนผสมแอลกอฮอร์
8.ท่อไอเสียห้ามรั่ว
หายไวๆคับ