Siam Subaru Webboard
Article => Article => ข้อความที่เริ่มโดย: signifer ที่ พฤษภาคม 24, 2011, 02:55:46 PM
-
GH3 1.2.5 N/A 1,500 c.c. Renovation Engin
รีวิวนี้ สร้างจากชีวิตจริงของเจ้าแมวผอมโซ หัวโตตัวลีบตัวหนึ่ง....................อ่านเอาสนุกแล้วกันนะ
จดหมายถึงนาย
สวัสดีครับนาย ผมชื่อแมวผอมสีเทา เจ้านายผมชื่อนายอาร์ต เป็นคนขี้งก ผมเลยอดมื้ออิ่มสามมื้อ เรี่ยวแรงร่อยหรอ จะพานายไปไหนก็ต้องถูกทั้งบีบทั้งเค้น
ให้วิ่งเร็วๆ แต่เฮ่อ ทำไงได้ผมเองมันก็แค่แมวพันห้าร้อยซีซี ตัวหนึ่ง เกียร์ธรรมดาและน้ำหนักรถตันสาม มันช่างดูมีภาระมากเหลือเกิน โดยเฉพาะยามต้องแซง หรือเรียกกำลังมาใช้ ทำได้ไม่ดี ถ้ายิ่งนายพาเพื่อนตัวควายๆ นั่งครบสี่คนเมื่อไหร่ ยิ่งเร่งไม่ออก นิสสันมาร์ชยังแซง...บางครั้งก็อายแทนนาย แมวตัวนี้ โดยรังแกตลอดเวลา.....
จึงคิดว่าอยากอ้อนนายให้เลี้ยงดูให้อิ่มหมีพลีมันหน่อย ผมจะได้วิ่งดีขึ้น รับใช้นายได้สมภาคภูมิ
รักนาย แต่ร่างกายอ่อนแอ
แมวผอมสีเทา
มันคงเป็นความรู้สึกลึกๆ ของเจ้าแมวน้อยสีเทา ที่ส่งผ่านมาให้ผม และตัวผมเองแม้จะรักมันมากเท่าใด แต่เจ้าสิ่งที่แมวน้อยของผมขอ มันช่างดูเยอะเกิดกว่าที่ผมจะ
ตอบสนองมันได้ นั่นคือที่มาของโปรเจค เพิ่งพลังให้เจ้าแมวผอมตัวนี้นั่นเอง.........
ตัวผมเอง จริงๆไม่ใช่คนที่ชอบดัดแปลงอะไร ชอบอะไรที่มันเรียบร้อย เดิมๆเสียมากกว่า ดังนั้น จึงคุยคอนเซปกับอู่ว่า ต้องเดิมให้มากที่สุด เซ็นเซอร์ต้องเดิมทุกตัว ห้ามยก ย้าย แยกของเดิมทิ้งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคันเร่งไฟฟ้า แคมแปรผัน ชุดควบคุมอีโมบิไลเซอร์ทั้งสองชุด(คุมบอดี้ คุมเครื่อง) และทุกอย่างต้องไม่ดัดแปลงระบบไฟฟ้าเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาภายหลังซึ่งจะทะยอยกล่าวในลำดับถัดไป (เป็นซีรี่ส์มากอ่ะ)
คุยกันจนตกผลึกจึงถึงกำเนิดโปรเจคที่หลายคนเคยตอบผมว่า "ถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่ต้องทำแมวอะไร"
มันช่างเหมือนกับคำสบประมาท ที่ทำให้ผมต้องทำโปรเจคนี้ให้สำเร็จให้จงได้นั่นแหละ....
ผมรู้สึกว่า ถ้าเราไม่ทะเลาะกันก่อน แล้วมาทะเลาะกันทีหลัง หลังจากทำเครื่องไปแล้ว มันคงเสียความรู้สึกเปล่าๆ นอกจากนั้นยังมีการคุยเรื่องงบประมาณด้วย
เพราะถ้าง่ายที่สุดคือยกเครื่องสองพันมาวางก็มีราวๆ 60,000-70,000 บาท ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากจะให้สเตปนี้มันจี๊ดจ๊าด
มันต้องแรงกว่า 150 แรงม้าของเครื่องสองพัน ขับสนุกกว่า ไม่รอรอบ ขับขี่ง่ายในเมือง
ส่วนหลักที่ผมคุยกับอู่ก็คือ ผมอยากได้ 200 แรงม้า และแรงบิดมากกว่า 20 ที่เครื่อง ส่วนจะลงล้อเท่าไหร่ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วกัน
เพราะเครื่องเดิมพันห้า แรงบิดลงล้อ 10 นิด...แรงม้าน่าอายกว่ามีอยู่ 80 กว่าตัวเท่านั้น ดังกราฟแรงม้าที่ลงไว้ให้ครับ
ดังนั้นถ้าโปรเจคนี้สามารถอัพทุกอย่างเป็น 1 เท่าก็ถือว่าดีนักหนาแล้ว และต้องใช้งบประมาณแสนต้นเท่านั้นห้ามเกินไปกว่านี้
และจากข้อมูลของแมว ถ้าวางเครื่องข้ามรุ่นมีปัญหามากต้องดัดแปลงกันวุ่นวายไปหมด ครั้นจะเอาตรงรุ่นก็ต้องกำเงินกว่า 300,000 - 400,000 เพื่อยกทั้งหัวแลกกับตัว 2.0WRX ส่วนตัวคิดว่าใช้เงินเยอะไป ไอ้เราก็ไม่ได้ร่ำรวย อดมื้ออิ่มสามมื้อ พอๆกับแมวเทานั่นเลย เลยขออะไรที่มันย่อมเยาว์กว่า ได้แรงม้าน้อยกว่า แรงบิดน้อยกว่าก็ไม่เป็นไร ตามงบประมาณครับ คิดแบบนี้ก็สบายใจดี และต้องได้ตามข้อกำหนดเดิมที่วางไว้.....
-
ข้อจำกัดเยอะพอสมควร คือ ห้ามยก ย้าย แยกเซ็นเซอร์เดิมออก ห้ามเปลี่ยนนู่น นี่ นั่น แล้วมันจะรอดมั๊ย.....
สุดท้ายออกมาที่ทำ N/A ผมก็โอเคเพราะตรงตามคอนดิชั่นที่กำหนดไว้ เพราะถ้าทำเทอร์โบ ทำได้ครับแต่งบมากกว่านี้
และดัดแปลงเยอะกว่า(กรณีไม่ยกหัวตรงรุ่นนะครับ)
สำหรับสเตปภายในเครื่อง ผมขอยกเครดิตให้กับทางอู่นะครับ จริงๆ คอนเซปรถผม ผมกับอู่ก็จะแชร์กันตลอดครับ
ทุกอย่างทั้งความรู้เชิงระบบและเชิงช่าง ต้องแชร์กันครับ เท่าที่ผมถามอู่สิ่งที่ทำภายในเครื่องก็มีพวกขัดลื่นข้อเหวี่ยง
เปลี่ยนชาร์ฟอกชาร์ฟก้านแต่ง เปลี่ยนแหวนลูกสูบใหม่ทั้งชุด บดวาล์ว ตั้งวาล์ว เปลี่ยนยางตีนวาล์ว พูดง่ายๆ อะไหล่ภายในเครื่องเน้นเป็นของใหม่เพื่อให้ใช้งานได้ยาวๆ อย่างไม่ต้องกังวลมากนัก อีกทั้งยังทำให้ระบบเครื่องยนต์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างที่มันควรจะเป็น ย่อมมีผลดีระยะยาวแน่นอน
อีกอย่างผมไม่ชอบยกเครื่องขึ้นๆลงๆบ่อยๆครับ.....
อันนี้รูปแรงม้าของเครื่องเดิมก่อนทำการปรับแต่งครับ เสียตังค์พันห้าไปวัดเพื่อรู้ว่า มันแรงม้าจุ๋มจิ๋มจริงๆ....
-
.....ของแต่งแค่อย่างเดียวสำหรับไส้ใน คือชาร์ฟอกชารฟก้าน เพื่อให้หมุนรอบสูงได้มั่นใจนอกนั้นเดิมๆหมด
หัวเทียนก็เบอร์เจ็ดอีรีเดียมธรรมดาครับ กรองอากาศก็กรองแผ่นของ HKS แถมมากับหัว....จริงๆอยากใส่กรองเดิมแต่มันอั้นไปหน่อย
ส่วนระบบวาล์วแปรผันเดิมก็ยังใช้งานได้อยู่กับแคมชาร์ฟชุดใหม่
ส่วนภายนอกก็อย่างที่เห็นครับ เปลี่ยนชุดท่อร่วมไอดีทั้งชุด+หัวฉีด เป็นของเครื่องสองพัน ทั้งนี้ผมขอขอบคุณพี่พิชาติ สำหรับเครื่องสองพันชุดนี้
เพราะมาพร้อมเฮดเดอร์ซิ่ง (จริงๆผมไม่ชอบผมอยากได้ท่อเดิมๆของสองพัน แต่ไหนๆได้มาแล้วใส่ดีกว่าเดี๋ยวเสียของ)
ส่วนชุดครัชกับเกียร์ใช้ของเดิมเครื่องพันห้าครับ เพราะอัตราทดเกียร์ของพันห้าจะจัดกว่าสองพัน อัตราทดเฟืองท้ายก็จัดกว่า เลยใช้ของเดิม
ส่วนครัชเดิมเพราะยังดีอยู่และน่าจะรับม้าไหว ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากของสแตนดาร์ตที่กล่าวมาทั้งหมดก็คือกล่อง F-Con IS
ที่ได้รับอุปการคุณจากพี่พิชาติอีกเช่นกัน ผมเซ้งมาหมด ฮิฮิ
การทดลองครั้งแรก หลังจากประกอบไส้ในตับไตหมดแล้วนั้น ชุดหัวฉีดกับท่อไอดียังเป็นพันห้าอยู่ ลองวิ่งดูครับ...วิ่งได้แค่สามพันรอบแล้วฟอดเพราะจ่ายน้ำมันไม่พอ
แต่อัตราเร่งช่วงออกตัวดีกว่าเดิมเยอะเลย ออกตัวแตะคันเร่งประมาณ 30% รถก็พุ่งแล้ว เปลี่ยนเกียร์สองที่สองพันรอบ รถก็ยังมีแรงต่อเนื่องครับ
คือไปเรื่อยๆ เลย แต่เนื่องจากกล่องเดิมกับเครื่องที่ทำใหม่ยังไม่แมทกันเรื่องไฟจุดระเบิด อากาศ น้ำมัน จึงทำให้ไม่ได้รอบเท่าไหร่ครับ
หลังจากนั้นผมยังไม่ได้ลองตอนเปลี่ยนท่อไอดีพร้อมชุดหัวฉีดเป็นสองพัน ไม่ได้ลองครับ เพราะมีปัญหาควันขาวอันเกิดจากเฟืองแคมมีปัญหา
ก็เลยไม่ได้ลอง ให้อู่จัดการให้เรียบร้อย ในใจคือลองอีกทีตอนแปะกล่อง ก่อนจูนไดโนดีกว่า คิดว่างั้น
-
สำหรับบทสรุปคือ สเตปนี้สำหรับคนที่ไม่ได้เน้นว่าต้องเป็นเทอร์โบ ชอบรถที่ขับง่าย ขับสนุก
เป็นรถเน้นแรงบิดรอบต้น เพื่อให้ออกตัว ใช้งานในเมืองได้ดี ส่วนถ้าอยากจี๊ดจ๊าดก็สามารถลากรอบได้เช่นกัน
เพราะทุกอย่างเราใส่ของใหม่หมด มันสบายใจว่าระยะยาวมันไม่มีปัญหา
ในงบประมาณที่สบายใจไม่โหดจนเกินไป และระบบเซ็นเซอร์ทุกอย่างยังเป็นของเดิมติดรถ
มั่นใจกับความใหม่ของเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ว่ามันจะไม่ลาโลกก่อนเวลาอันสมควร
นอกจากนั้นปั๊มติ๊กและระบบน้ำมันก็ไม่ต้องไปยุ่งดัดแปลงอะไร ระบบรถเดิมๆทั้งหมดก็ยังใช้งานได้ดีและแม่นยำ
รถคันนี้ไม่ใช่รถที่แรงม้าเยอะ แรงบิดมาก ระดับหลายร้อยแรงม้า
แต่สเตปที่ได้คือรถบ้านที่ขับสนุก เป็นรถทอร์คครับ ไม่ต้องกลัวกระบะวีโก้บ้าพลังมาจี้แล้วหนีไม่ทัน....อีกต่อไป
เหมาะสำหรับคุณพ่อบ้านที่แอบแรงประมาณนั้นครับ emo76o
-
อันนี้กราฟหลังจากทำเครื่องเสร็จครับ แต่วันที่ไปวัดวันนี้ ร้อนมากครับ แอร์เทม สามสิบปลาย emo71o พอดีมีรถมาวัดก่อนหน้าสองคันแล้วครับ และอากาศวันนี้ก็ร้อนจริงๆเหมือนฝนจะตก อ่ะมาดูกัน
แรงม้าอยู่ที่ 161.18 ตัว ที่ 5,500 รอบ ส่วนแรงบิด 24 ที่ ประมาณ 3000 รอบครับ ในกราฟไม่ได้ย่อมาถึงครับ
ฟิลลิ่งการขับจะกดแล้วแรงบิดมารอเลย ไม่ต้องลากรอบมากนัก ขับสนุกครับ
ที่ ตลกคือมันกินน้ำมันน้อยกว่าเดิม นี่เติมเต็มถัง จูนถนนด้วย รถติดด้วย จูนไดโนอีกเกือบชั่วโมง 12 โลลิตร!!! เดี๋ยวจะจับจนหมดถัง ไว้จะมาอัพเดตจุดนี้
วันนี้วิ่งไปๆมาๆ ก็ยังอยู่ที่ 11 กิโลลิตรครับ รถติดๆด้วย
ข้อสรุปสำหรับสเตปนี้คือเป็นรถที่ไม่ได้เน้นแรงม้า แรงบิดแบบบ้าคลั่ง แต่เป็นรถที่เน้น พาวเวอร์แบรนด์ช่วงกว้าง และเน้นช่วงที่เหมาะกับการใช้งานจริง
แน่นอนงานนี้ไม่ถูกใจวัยรุ่นที่ชอบลากรอบแน่นอน แต่สำหรับผู้ใหญ่หน่อยอย่างกระผม ผมก็ว่าแมวน้อยของผมก็คงจะมีแรงกระโจนได้ดีขึ้นแ่น่นอนนนนน
-
ผมสรุปข้อดีข้อเสียให้นะครับ ตามนี้เลย
ข้อเสียก่อนนะครับ
ไม่ได้เครื่องเทอร์โบ....การต่อยอดเป็นเทอร์โบไม่ยุครับ เพราะต้องดัดแปลงระบบน้ำมันเยอะเลย
แรงม้าไม่มากนัก (ไม่เกิน 200) แรงบิดน้อยกว่าเครื่องเทอร์โบ
ต้องผ่าเครื่องเดิมและมีการโมดิฟายภายในใหม่ ถ้าช่างไม่เก่ง มีโอกาสไม่จบ....เพราะช่างต้องเข้าใจระบบภายในเครื่องทุกชิ้นส่วน ย้ำนะครับ ทุกชิ้น...
รถผมเปลี่ยนแคร้งน้ำมันเครื่องใหม่ของเดิมมันสี่ลิตร เปลี่ยนเป็นแคร้งใหญ่ห้าลิตร ครับ
สำหรับแมวนะครับ แมวเป็นระบบชุดสายไฟแบบแคนบัส(รถรุ่นใหม่ๆเป็นแบบนี้หมด) คือสายไฟจะน้อยและมาแยกความถี่ของชุดสัญญาณแต่ละส่วนของระบบอีกที ถ้ามีการยุ่งกับระบบสายไฟมากๆ มันจะไม่จบเอาครับ สุดท้ายกล่องเดิมก็ง่อย ต้องเอา F-Con V-Pro มาคุมทั้งหมด อันนี้สำหรับคนที่อยากเยอะ......ผมว่าโปรเจคนี้ไม่เหมาะ
สำหรับแมวนะครับ เนื่องจากชุดลิ้นปีกเป็นไฟฟ้า ถ้าเปลี่ยนลิ้นใหญ่มากๆ ไม่เหมาะ เพราะอาจจะต้องดัดแปลงระบบคันเร่งสาย ทำให้ระบบประมวลผลเดิมของกล่องเดิมเพี้ยนเพราะการจุดระเบิด การจ่ายน้ำมัน คุมด้วยเซ็นเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าประกอบกันด้วยครับ ไม่ได้วัดจากค่าแม็ปเซ็นเซอร์อย่างเดียว ของเดิมแมวคว้านลำบากครับ ไม่ยุ....เล็งมาแล้ว
สุดท้าย โปรเจคนี้เสียเงินแสน 1x0,000 ครับ x จะไปจบเท่าไหร่มันอยู่ที่ว่าของแต่ละอย่างที่ใส่ ใส่อะไรบ้าง ต้องการอะไรบ้างมากกว่า
.....ถ้าเป็นรุ่นก่อนแมวที่เป็นคันเร่งสาย ที่ระบบไม่ยุ่งยาก คุณเอาเงินก้อนนี้หาเครื่องเทอร์โบวางได้เลย มันจบได้ง่ายกว่าแมว ได้แรงม้ามากกว่าโมดิฟายได้ง่ายกว่าครับ ผมคิดแบบนั้นเพื่อนผมหลายคนก็คิดแบบนั้น แต่ถ้าคุณเล่นแมวแล้วศึกษาอย่างลึกๆ คุณจะรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะเอาเครื่องรุ่นเก่ากว่ามาดัดแปลงใส่แล้วไม่เกิดปัญหาตามมา (ส่วนมากเกิด.....แล้วก็แก้ไขดัดแปลงกันไปให้จบ ช่างไทยเก่ง)
ข้อเสียอีกข้อที่เจอคือไฟเครื่องโชว์ครับ แต่มันเกิดจากผมใส่เฮดเดอร์แต่งครับ ถ้าเฮดเดิมมีแคตนี่ไม่น่าเกิดครับ กะว่าจะหาแคตซิ่งใส่เพิ่มแล้วไปลบไฟอีกครั้งค่อยว่ากัน
แต่ตอนนี้ขับขี่เป็นปกติ การกินน้ำมันก็ปกติ(วัดจาก AF วายแบรนด์ครับ)
-
ข้อดี....อันนี้ค่อยน่าฟังหน่อยเนอะ
ไม่ต้องทิ้งของเดิมที่มี ผมเน้นคือพวกอุปกรณ์ติดรถแทบทุกอย่างเหตุผลคือ แมวส่วนมากออกป้ายแดง วิ่งน้อย เครื่องและชุดอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆ มันใหม่มาก
ใช้ไปอีกนานก็ไม่เสีย ดังนั้นเราสามารถเก็บพวกนี้ไว้ใช้ได้ การประมวลผลร่วมกับกล่องเดิมติดรถ (กล่องแมวมีสองตัวคือ อีโมบอดี้ กับอีโมเครื่อง ถ้าตัวใดตัวหนึ่งไม่เหมือนกันเหมือนผัวเมียแหละ มันจะสตาร์ทไม่ติด กล่องล๊อคได้ครับ) สเตปนี้ตัดพวกนี้ไปได้คือไม่ต้องกังวลเรื่องระบบเดิมที่เป็นแคนบัส ทั้งเข็มหน้าปัด ระบบคันเร่ง ระบบควบคุมอุณหภูมิต่างๆ มันเหมือนเดิม
ได้รถขับสนุกขึ้นกว่าเดิมระดับหนึ่ง
ไม่ต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊ก และเดินระบบน้ำมันใหม่ (เครื่องรุ่นเก่าจะมีระบบน้ำมันไหลกลับถังนะครับ มาแล้วเกินกลับ) แต่ของแมว มาแล้วมาเลย ปั๊มติ๊กจ่ายมาเข้าเรกกูเรเตอร์คุมแล้วสั่งจ่ายตามกล่องสั่งเลย มันจะไม่เหมือนรุ่นเก่าครับ ข้อดีคือถ้าหัวฉีดพอ ระบบน้ำมันจ่ายพอแน่นอนไม่ต้องยุ่งกับระบบนี้เลย แต่ถ้าไม่พอเมื่อไหร่ ยุ่งโคตรๆเพราะต้องรื้อระบบเดิมทิ้ง นั่นแปลว่าถ้าเอาพื้นฐานเดิมมาทำเทอร์โบที่บูสต์สูงมากๆ กะ 300-400 แรงม้า ระบบเดิมไม่เอื้ออำนวยครับ
แต่ถ้าสัก 200 ต้นๆ หัวฉีดสองพัน เอาอยู่นะ
สามารถใช้ชุดเกียร์เดิมได้โดยไม่มีปัญหา แม้กระทั่งครัชเดิมก็เอาอยู่แต่ทั้งนี้อยู่ที่วัตถุประสงค์การใช้งานด้วย ถ้าเอาไปซัดในสนามบ่อยๆ
ครัชเดิมก็อาจจะลาโลกได้ แนะนำครัชซิ่งสักชุดจะดีกว่า แต่เนื่องจากผู้เขียนต้องการอะไรที่มันใช้งานได้สบายในเมือง ขับง่ายๆ ไม่ชอบครัชหนักๆ
ดังนั้นทางอู่จึงให้ใช้ครัชเดิมจนกว่าจะพังก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนซึ่งอีกนานเพราะครัชเดิมวิ่งมาสองหมื่นโลเท่านั้น ดังนั้นทำเครื่องแล้วขับไมไหว
จึงตัดทิ้งเพราะระบบครัชเดิมขับสบายมาก ผมเคยไปขับเครื่องสองพันที่โมมา ใส่ครัชแต่ง หนักมาก ขับยาก ถ้าเป็นผู้ใหญ่หน่อยเจอรถติดในเมืองมีบ่น
ดังนั้นสเตปนี้แม้จำเป็นต้องทำครัชแต่ก็แค่ผ้าดีๆสักชุด(ไม่จำเป็นต้องทองแดง) พวกผสมก็เพียงพอต่อการใช้งาน
ขับง่ายไม่กระชาก ไม่มีปัญหาเสียงดังเวลาต้องเลียครัชครับ
ระบบขับเคลื่อนไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกครับ ทุกอย่างเดิมหมด เพลาเดิมเกียร์เดิมเพราะไม่มีการตัดต่ออะไร ทุกอย่างรับไหวหมด
ระบบเบรกผมก็เดิมๆ แต่อู่แนะนำว่าถ้าได้เบรกหน้าดีๆสักชุดจะมั่นใจกว่า แต่เนื่องระบบเบรคของแมวพันห้ากับสองพันเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าอาจจะเปลี่ยนเฉพาะผ้าเบรกเกรดดีๆกับจาน เบรคดีๆสักชุด น่าจะเพียงพอ สำหรับการใช้งาน
ระบบหน้าปัด ระบบไฟในรถ ไม่ต้องดัดแปลงอะไรเลย ทุกอย่างใช้ได้เหมือนเดิมครับ
หม้อน้ำเดิม.....ไม่ต้องเปลี่ยน เปลี่ยนไปความร้อนก็ไม่ได้ลดลง เหตุผลคือ วาล์วน้ำของแมวเปิดที่ 90 องศาครับ วอร์มนิ่ง(เตือน)ที่ 110 ครับ ทีนี้ผมคุยกับอู่ว่าใส่วาล์วน้ำซิ่งไปดีมั๊ยเปิดที่ 76 (ถ้าจำไม่ผิด) อู่บอกความร้อนก็ไม่ได้ลดเพราะว่าสเตปของพัดลมทำงานตามเซ็นเซอร์ครับ ที่คุมว่าให้ทำงานพัดลมสเตปหนึ่งเท่าไหร่ สองเท่าไหร่ และพัดลมแอร์ก็มีส่วนดังนั้นในความเห็นอู่คือ ใส่คูลแลน ดีๆ ก็พอ แต่ถ้าชอบซัดยาวๆ หรือซิ่งในสนามก็อาจจะต้องปรับปรุงในส่วนนี้ครับ
ซึ่งส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ซัดยาวแล้วไฟเตือนขึ้นโชว์มาแล้ว แต่พอเช็คระบบทั้งหมดจริงๆก็ไม่มีอะไรเสียครับ ถ้าจะให้มันเวิร์คคงต้องไปปรับการทำงานของเซ็นเซอร์หม้อน้ำให้ทำงานเร็วขึ้นครับ น่าจะเวิร์คสุด
ชุดท่อไอเสีย อันนี้จริงๆ ผมว่าใช้ชุดท่อเดิมของ 2.0NA น่าจะดีที่สุดเพราะแมวมีเซ็นเซอร์แคตตาไลติกสองตัว ครับ ถ้าเดิมก็แจ่มแต่ถ้าเดิมไม่ได้ อยากแนะนำว่าถ้าเดินเฮดใหม่ ให้ใส่แคตซิ่งครับ เพื่อการประมวลผลเดิมมันเที่ยงตรงที่สุด(แต่ถ้าไม่ใส่ก็ให้กล่องจูนหลอกเอาก็ได้แต่ไฟโชว์นะ) ความเห็นส่วนตัวคือใส่ไว้ดีกว่า เนียนกว่านะ
บาลานซ์รถ อันนี้สำคัญ เพราะการวางเครื่องใหม่หรือการทำเครื่องใหม่ใดๆ บางครั้งมีปัญหาเรื่องบาลานซ์รถเสีย สเตปผมเท่าที่ดูจากน้ำหนักเครื่องแล้วไม่น่าจะมีปัญหา น้ำหนักเดิมไม่เปลี่ยนครับ รู้สึกจะเบาขึ้นจากเฮดแต่งนี่แหละ เบากว่าท่อเดิมครับ แต่ถ้าเป็นการทำเทอร์โบ น้ำหนักจะตกหน้าเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยจากชุดท่อร่วมไอเสีย ชุดเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ แต่ก็ยังดูไม่น่าซีเรียสเท่าไหร่ พิกัดเครื่อง EJ N/A ทุกพิกัดใกลเคียงกันครับ
-
เรื่องเงินๆทองๆที่ต้องรู้
แรงม้าต่อบาท ถูกกว่าการทำเครื่องเทอร์โบตรงรุ่นแน่นอน คิดง่ายๆ กลมๆ 150,000 / 200 =750 บาทต่อม้า (ข้อดีคืออุปกรณ์ภายในเครื่องใหม่ทั้งหมด)
หมายเหตุ : แต่ตัวเลขการทำคุณต้องไปดูว่าได้อุปกรณ์พวกกล่องแต่งอะไรต่างๆมาถูกหรือแพงและอุปกรณ์ที่ใส่เครื่องจะใส่หรือไม่
บางคนอาจจะไม่เปลี่ยนเพราะของเดิมมันดีอยู่แล้ว พวกนี้ก็จะเป็นตัวคุมงบประมาณครับ
กับ 400,000/250 = 1,600 บาทต่อม้า (ข้อดีคือได้เครื่องเทอร์โบ โมต่อได้ง่าย)
แต่สเตปเทอร์โบ อาจจะเป็น 400,000-20,000 / 250 = 1,520 บาทต่อม้า
หมายเหตุ : กรณีขายเครื่องเดิมพันห้าทิ้งไปน่ะครับ ขอบอกว่าเครื่องพันห้านี่ไม่มีใครต้องการเลยจริงๆ....เห่อ
กรณีเครื่องสองพันจะเป็น 400,000-60,000 / 250 = 1,360 บาทต่อม้า
อันนี้ก็คงต้องไปบวกลบคูณหารกันเองครับสำหรับจุดนี้
ข้อดีที่กล่าวๆไปแล้วคือการขับขี่ที่ดีกว่าเครื่องเดิมอย่างเห็นได้ชัด ในแง่ของอัตราการเร่งแซง การออกตัว เพราะสเตปที่ทำเป็นการทำแบบเน้นทอร์คมารอบต่ำ
เน้นการขับขี่ง่าย เป็นหลัก และไม่ได้กินน้ำมันแตกต่างจากของเดิมจนมากเกินไป (พันห้าเดิมๆผมวิ่งในเมืองประมาณ 7-8 โลลิตร ) นอกเมืองได้ดีที่สุด 12 โลลิตร แต่วิ่งแค่ไม่เกิน 80 นะครับ สำหรับอัตราการกินน้ำมันน่าพอใจครับ ตอนนี้วิ่งรถติดๆ ตัววัดก็ยังตกอยู่ที่ 8.8L / 100 โล เมื่อคืนวิ่งชิวๆ ได้ 8.0L / 100 โลครับ
ถ้าวิ่งเอาประหยัดน่าจะอยู่ราวๆ 14 โลลิตร น่าจะได้ ไว้จะลองทำตอนเดินทางไกลครับ
สำหรับรายละเอียดในการทำโปรเจคนี้ผมคิดว่าผมอธิบายได้อย่างละเอียดในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นถ้าท่านใดมีข้อสงสัยประการใดก็ลองสอบถามเพิ่มเติมแลกเปลี่ยนกัน
ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับสำหรับความรู้ใหม่ๆ ที่พวกเราจะได้เพิ่มขึ้นครับ โดยเฉพาะเหล่าสาวกแมวทั้งหลาย
สำหรับบทความทั้งหมดนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ใครมาเอาอย่างผมหรือทำอู่ที่ผมทำแต่อย่างใด
เพียงแต่จะบอกว่า โปรเจคที่หลายคนมองว่าไม่น่าจะสามารถทำได้ มันสามารถทำได้จริง ถ้าเรามีความรู้ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และมีช่างที่ไว้ใจได้ยอมที่จะเหนื่อยกับเรามันก็สามารถเป็นจริงได้ อย่างไม่ยากจนเกินไปครับ และผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพึงพอใจครับ วิ่งดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ และดันประหยัดกว่าเดิมอีกตะหาก....
ระยะเวลาการทำโปรเจคนี้ ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 1 เดือนครับ
(ศึกษาระบบภายในเครื่องยนต์ งานดัดแปลงบางส่วน การประกอบแก้ไข การวาง การจูน เบ็ดเสร็จแล้วก็หนึ่งเดือนพอดี)
สำหรับสุดท้ายผมพอใจกับโปรเจคนี้ ได้หลายอย่างตามที่ต้องการในงบที่กำหนด และคิดในใจว่า "เรามาถูกทางแล้ว"
สุดท้ายผมจำเป็นต้องให้เครดิตกับคนเหล่านี้ครับ เพราะถ้าไม่ได้เขาผมก็คงทำโปรเจคนี้แต่เพียงลำพังไม่ได้
ครอบครัวตู้จินดา คุณปู่คุณย่า ที่เป็นสปอนเซอร์ในการทำโปรเจคนี้
คุณแพน V.Putin ที่เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการในการทำโปรเจคนี้
คุณหนู จูนเนอร์ที่มาช่วยจูนรถคันนี้จนวิ่งได้ดีในระดับที่มัน และเป็น ซูบารุคันแรกที่เป็น N/A ที่พี่เขาจูน
คุณเก่ง จากเก่งเซอร์วิส ที่เสียสติ(บ้า) ไม่ท้อและให้กำลังใจผม ในการทำโปรเจคนี้แม้ว่าจะต้องยกเครื่องขึ้นๆ ลงๆ หลายรอบก็ตามที
PS. รบกวนแอดมินต์ช่วยลบกระทู้เก่าด้วยนะครับ รวบเป็นอันนี้ดีกว่าครับ ขอบคุณครับ
-
เขียนดีมากๆเลยครับ... อ่านเพลินเลยย emo65o
-
เขียนดีมากๆเลยครับ... อ่านเพลินเลยย emo65o
ขอบคุณครับ
แต่........มีข่าวร้าย!!! เหตุคือเติมน้ำมันเต็มถังมาตั้งแต่เมื่อวาน แล้วมีจูนถนนตอนเย็น จูนไดโนตอนค่ำ วิ่งกลับบ้าน เกจท์วัดน้ำมันมันก็ยังดูโอเคครับ
ตกไม่น่าเกลียด เรียกว่า รีเนียลปกติเลย ขีดแรกได้ร้อยกว่ากิโลเมตร แต่มาวันนี้หลังจากที่เอารถไปลบโค้ดแล้ววิ่งมาซึ่งวันนี้อากาศร้อนมากๆ
และผมขับกลับมารถติดตลอดทาง ตอนเย็นออกไปก็รถติดตลอดทาง เข็มน้ำมันมันตกลงมาไม่รีเนียลเลย ซึ่งผมซีเรียส เพราะในตัวเลขที่โชว์อัตราสิ้นเปลือง
มันยังแปะอยู่ราวๆ 9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ดังนั้นผมก็เลยลองเติมน้ำมันเต็มถังอีกครั้งเพื่อเช็คว่ามันกินเท่าไหร่กันแน่
วิ่งไปราวๆ 170 กิโลเมตร เติมน้ำมันไป 23 ลิตรครับ เทียบแล้วตก 7.3 กิโลลิตร ซึ่งไม่ตรงกับตัววัดอัตราสิ้นเปลืองที่แสดง
เดี๋ยวจะลองไปหาสาเหตุว่าทำไมตัววัดอัตราสิ้นเปลืองจึงเพี้ยนไปอีกครั้งครับ และในใจคิดว่าในเมืองน่าจะได้สัก 8-9 โลลิตรน่าจะหล่อกว่า
เพราะเจ็ดกลางๆ ก็พอๆกับเครื่องพันห้าเดิมที่ใช้ กรณีเข้าเมืองรถติดๆคล้ายๆวันนี้
ส่วนเรื่องที่กินน้ำมันเพิ่มผมเดาว่าอาจจะเพราะอากาศที่ร้อนมากๆด้วยทำให้มันสั่งจ่ายน้ำมันค่อนข้างหนา ตรงนี้ต้องกลับไปถามจูนเนอร์อีกครั้ง
ไว้จะมาอัพเดตในกระทู้เป็นระยะ ตามอาการที่ยังต้องแก้ไขให้สมบูรณ์ที่สุด
-
emo72o
อ่านแล้วเพลินดีจัง ชอบตรงความกล้าที่จะทำครับ emo65o
-
emo65o
สุดยอดมากครับ แมว N/A ถ้ามีเพิ่มเติมก็เล่าให้ฟังอีกนะครับ
emo65o
-
emo72o
อ่านแล้วเพลินดีจัง ชอบตรงความกล้าที่จะทำครับ emo65o
ระดับประถมครับพี่อั๋น สู้ เลแวนพี่อั๋นไม่ได้หรอกครับ emo62o
ตอนนี้เหลือแค่ปัญหา O2Sersor อย่างเดียวครับ กำลังพยายามแก้ไขให้ลุล่วงครับ
-
วันนั้นพี่เก่งโชว์เครื่องให้ดูอยู่ ก็ยังสงสัยว่าใครกล้าจิงๆมาทำเครื่องตัวนี้ เยี่ยมครับ emo61o
-
ระดับประถมครับพี่อั๋น สู้ เลแวนพี่อั๋นไม่ได้หรอกครับ emo62o
ตอนนี้เหลือแค่ปัญหา O2Sersor อย่างเดียวครับ กำลังพยายามแก้ไขให้ลุล่วงครับ
ไอ๊ย๋า เลแวนผมนี่โค-ตะ-ระ เดิมนะ emo76o
แก้ไขได้ผลยังไงมาเล่าสู่กันฟังด้วยครับ emo64o
-
รายงานผลการแก้ไขปัญหาไฟเช็คเอ็นจินโชว์นะครับ
ความเดิมคือหลักจากใส่เฮดเดอร์แลัว ไม่มีแคตตาไลติก ทำให้เกิดไฟเครื่องโชว์ขึ้่นมา ผมได้ติดต่อเจ้าของเดิมเฮดเดอร์เพื่อสอบถามข้อมูล
พบว่า รถพี่เขาเครื่องสองพันใส่ไม่เกิดปัญหา(ตอนใส่ทีแรกก็ไม่มีกล่องจูนใดๆทั้งสิ้น) ส่วนรถผมดันมา ผมเข้าใจว่าเกิดจากแมปเครื่องพันห้าเดิม
เขียนมาไม่ได้เผื่อตรงนี้ไว้ ค่ากล่องเดิมมันเลยงงๆเอ๋อๆ อยู่ว่าทำไมค่าต่างๆที่เกิดขึ้นจริงเพี้ยนไปจากค่ากล่องมากเหลือเกินทำนองนี้ครับ
หลังจากนั้นผมได้ข้อมูลจากคุณมารูโกะ และพี่ป๊อก เรื่องการหลอกเซ็นเซอร์ ผมขอขอบคุณท่านทั้งสองมา ณ ทีนี้ด้วยครับ
ผมก็ไปร้านจักร เฮดเดอร์ อยู่ตรงข้ามศูนย์เสรีไทย จัดการแก้ไข โดยหลอกเซ็นเซอร์หลังแคตครับ (ก่อนจะทำไปลบไฟเช็คที่ศูนย์ ศูนย์จึงบอกมาว่าเกิดจากค่า
ตัวเซ็นเซอร์หลังแคตมันเพียนไปมาก จ่ายน้ำมันบาง เพราะอากาศผ่านเยอะทำนองนั้นนะ)
หลังจากแก้แล้วพบว่า ไม่มีไฟเคโชว์แต่รถติดน้ำมันมากแทบไม่ต่างจากตอนไฟเคโชว์เลย ผมก็งงสิ แต่เอาว่ะ ลองขับดูเลยมาลากรอบขับเร็วๆบ้าง สุดท้าย
ไฟเช็คขึ้นอีกรอบครับ งานเข้าเลยทีนี้ แต่ผมคิดว่าเกิดจากที่ จักร เฮดเดอร์ หลอกไว้ มันหลอกมากไปหน่อย ทำให้เซ็นเซอร์มันคิดว่าน้ำมันบางมากๆ เลยสั่งจ่ายหนา
ผลคือรถกินน้ำมันมากๆ จนสุดท้ายที่รอบสูงๆ มันคงเกินเรนท์ที่กล่องกำหนดเลยไฟเครื่องโชว์เลย
วันนี้ ผมเลยนำรถไปลบโค้ตที่ศูนย์เสรีไทย ที่ศูนย์ก็ดีใจหายครับ ช่วยทุกอย่างเลย ผมต้องขอบคุณฝ่ายช่าง มอเตอร์อิมเมจ มา ณ ที่นี้ด้วย
ปล. วันนี้ชุดเท่ห์มาก อิอิ
ทำการเช็คให้และแจ้งค่าทีผ่ิดเพี้ยนไป (ช่วยกันวิเคราะห์) หลังจากนั้นผมจึงให้จักร เฮดเดอร์ทำการแก้ไขตัวหลอกเซ็นเซอร์ใหม่นิดหน่อย
ให้มันวัดค่าอากาศได้เพิ่มขึ้น หลังจากนั้น ทดลองวิ่งดู วันนี้ผมวิ่งจากศูนย์เสรีไทย กลับบ้านที่ประชาชื่น รถติดโคตรพ่อโคตรแม่ แต่อาการของรถดีมากครับ
ไม่ได้กินน้ำมันเหมือนครั้งก่อน จนผมรู้สึก เออ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย หลังจากจะเข้าบ้าน เลยแวะเติมน้ำมันเต็มถังเพื่อจับระยะทาง
ตอนเย็นผมเดินทางจากบ้าน ขึ้นทางด่วน(กว่าจะขึ้นได้รถก็ติดโคตรพ่อโคตรแม่อีก....) ไปโรงแรงสุโขทัย เสร็จจากงานแต่งก็วิ่งกลับบ้าน(รถไม่ค่อยติดแล้ว)
ระยะทางรวม 52 กิโลเมตร เติมน้ำมันเต็มถึง แต่เข็มน้ำมันยังไม่หล่นจากเกจท์บนสุดครับ ปกติตอนเติมเต็มถึง มันจะทะลุขีดบนไปหน่อย ตอนนี้มันอยู่ตรงขีดบนพอดี
จากการที่ผมเคยจับระยะทางเป็นประจำ ผมจึงคิดว่า เป็นสัญญาณที่ดีว่า เซ็นเซอร์ที่แก้ไขมาน่าจะเข้าที่เข้าทางขึ้นจากเดิมมากพอสมควร
จอแสดงอัตราสิ้นเปลืองวัดได้ราวๆ 8.0 / 100 กิโลเมตร เฉลี่ยก็ราวๆ 12 กิโลลิตร วิ่งที่ความเร็ว 80-90 บนทางด่วนครับ
ส่วนความเร็วสูงๆยังไม่ได้ทดลองครับ รอเครื่อง สมาร์ทเกจ มาเสียบก่อนแล้วจะได้ดูส่วนผสมของ ค่า o2Sensor ของทั้งตัวแรก และตัวที่สองได้
และนอกจากนั้นเผื่อไม่รอด จะได้ลบโค้ตเองได้ ฮิฮิ
ขอรายงานไว้เท่านี้ก่อน แต่ในใจผมคิดว่า "เรามาถูกทางแล้วหล่ะ"
ขอบคุณที่ติดตาม
-
เยี่ยมครับอ่านสนุกมาก emo65o
-
สุดยอดเลยครับพี่ emo65o
-
ในที่สุดก็แก้ไขปัญหาสุดท้ายได้เสร็จสิ้นแล้วครับ ตามกระทู้นี้เลย
http://www.siamsubaru.com/subaruboard/index.php?topic=87045.0 (http://www.siamsubaru.com/subaruboard/index.php?topic=87045.0) mush37
หลังจากนี้จะลองทดสอบวิ่งทางไกลเพื่อจับอัตราการสิ้นเปลืองครับน่าจะสามารถทำได้แล้ว (หวังว่าคงไม่มีไฟเหลืองๆอะไรมาหลอนอีกนะ...อิอิ)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
อาร์ต
-
emo64o ดีใจด้วยคับคุณอาร์ท วันหลังเจอกันขอลองนั่งหน่อยนะครับ
-
วันนี้มีโอกาสไปอยุธยาพอดีครับ ต้องไปธุระของที่บ้าน เลยถือโอกาสจับอัตราการสิ้นเปลืองเลย
"ยังใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการไม่ได้นะครับ" เหตุผลคือผมเติมปั๊มเชลล์แถวบ้าน ผ่านรถติดๆแถวแจ้งวัฒนะ เดินทางไปอยุธยา
แล้วก็พอครบร้อยกิโลเมตร ก็แวะเติมน้ำมันแถวปทุม ซึ่งคนละปั๊ม คนละหัวจ่าย ทำให้ค่าอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้างครับ
และผมยังรู้สึกว่ารถน่าจะประหยัดกว่านี้ เพราะวิ่งที่ 80hm/hr รอบเครื่อง 2,200rpm เฉลี่ยได้ 10 กิโลลิตรครับ
สาเหตุที่ผมบอกว่าน่าจะประหยัดกว่านี้เพราะ ตอนนี้เซ็นเซอร์หลังแคตโดนหลอกไว้(เลยกลับมาหลอกเจ้าของรถอีกแล้ว...) มันครอบไว้เพื่อหลอก
ผมเลยคิดว่ากล่องมันก็คงจ่ายน้ำมันหนาหน่อยแหละ เพราะค่าความร้อนมันคงไม่ได้ตรงเป๊ะสักเท่าไหร่นัก ไว้เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไปเอาออกแล้วครับ
เพราะรู้แน่ชัดแล้วว่าการหลอกเซ็นเซอร์ท่อไอเสียไม่ได้ช่วยเรื่องไฟเครื่องโชว์ แต่น่าจะช่วยให้กินน้ำมันเพิ่มมากกว่าครับ mush35
ไว้จะเอามาเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติมครับ
-
เจ๋งมากอะพี่ อ่านละอยากไปทำบ้าง emo65o
พี่ผม มาร์กนะที่วันก่อนโทรไปคุยเรื่อง กรองอะคับ ผมยังไม่ได้ลองทำแบบที่พี่บอกเลยอะ ยังมะมีเวลาเลยคับ เดี่ยวถ้าทำแล้วยังไงผมจะโทรไปบอกพี่น้ะ มะไว้วันไหนผมว่างๆ ผมลองเอาเข้าไปให้พี่ดูละกัน ฮาๆๆ
-
บ้านอยู่แถวแจ้งวัฒนะป่ะครับ เคยเจอบนลานจอดรถเซนทรัลแจ้ง (แต่ไม่ได้ทักนะ พอดีขับเปอโยแฟนไป) บ้านแฟนผมอยู่แถวนั้น ไปประจำเสาร์อาทิตย์ เจอกันทักได้นะครับ GCสีขาว2242ครับ
กล้าคิดกล้าทำ นี่แหละครับการทำรถ อ่านแล้วสนุกดี ผลออกมาก็ดีมากเลยนะครับ แรงมากสำหรับเครื่อง1500NA ลงพื้น150+ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สู้ต่อไปครับ emo64o
-
เจ๋งมากอะพี่ อ่านละอยากไปทำบ้าง emo65o
พี่ผม มาร์กนะที่วันก่อนโทรไปคุยเรื่อง กรองอะคับ ผมยังไม่ได้ลองทำแบบที่พี่บอกเลยอะ ยังมะมีเวลาเลยคับ เดี่ยวถ้าทำแล้วยังไงผมจะโทรไปบอกพี่น้ะ มะไว้วันไหนผมว่างๆ ผมลองเอาเข้าไปให้พี่ดูละกัน ฮาๆๆ
ได้เลยครับ พี่ก็อยากรู้ว่าทำไมรถนายมันเป็นน่ะ เอาง่ายๆ ลองหาสก๊อตเทปนะ เอาแบบแผ่นโตๆอ่ะ (ที่ไว้ปิดลัง) ลองปิดช่องอินเทคสัก 1/2 ดู ปิดไว้ให้อากาศ
มันผ่านเข้าเครื่องน้อยลง ลองดูง่ายๆ ถ้ามันไม่ขึ้นก็แปลว่าอาจจะเกิดจากแรงดันท่อร่วมไอดีมันตกเยอะมากๆ ทำให้กล่องมันตัดเข้าเซฟโหมดครับ ก็เป็นไปได้ครับ
อย่าให้ไฟเช็คเอ็นจิ้นขึ้นบ่อยๆเลย เปลืองน้ำมันง่ะ
ลองดูง่ายๆก่อน เครื่อง N/A ไม่ค่อยชอบอะไรใหญ่มากๆ นะ อิอิอิ
บ้านอยู่แถวแจ้งวัฒนะป่ะครับ เคยเจอบนลานจอดรถเซนทรัลแจ้ง (แต่ไม่ได้ทักนะ พอดีขับเปอโยแฟนไป) บ้านแฟนผมอยู่แถวนั้น ไปประจำเสาร์อาทิตย์ เจอกันทักได้นะครับ GCสีขาว2242ครับ
กล้าคิดกล้าทำ นี่แหละครับการทำรถ อ่านแล้วสนุกดี ผลออกมาก็ดีมากเลยนะครับ แรงมากสำหรับเครื่อง1500NA ลงพื้น150+ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สู้ต่อไปครับ emo64o
ใช้เปอโยต์ด้วยหรอครับ แต่ก่อนผมก็เล่น 405 มาหล่ะ ส่วนตัวไปเซ็นทรัลแจ้ง บ่อยมากครับแทบทุกอาทิตย์ วิ่งเส้นแถวนี้ประจำเจอกันทักทายได้ครับ
พาลูกเมียไปช๊อปปิ้งครับ
เพิ่งกลับจากหัวหินเมื่อวาน ใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 110-120 อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 12 กิโลลิตรครับ ทั้งขาไปและกลับผมว่ายังมากไปหน่อย
ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากเกียร์และเฟืองท้ายเดิมของเครื่องพันห้าด้วยครับมันจัดไปหน่อย 110 นี่ 3000 รอบแล้ว สงสัยต้องหาเฟืองท้ายที่มันทดน้อยกว่านี้
พรุ่งนี้นัดจูนเนอร์จูนใหม่อีกรอบ วัดค่า A/F อีกรอบ เหมือนมันจะหนาเกิน และมีปัญหาคือหม้อน้ำเดิมเอาไม่ค่อยอยู่ ถ้าเจออากาศร้อนๆ ความร้อนหม้อน้ำสูงไป
และไม่ค่อยยอมลง อาจจะต้องเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ให้หนาและใหญ่กว่าเดิม
กำลังศึกษาเรื่องวาล์วน้ำด้วยครับ เคยคุยกับที่ศูนย์วาล์วน้ำของแมว จะเปิดที่ 90 องศา ถ้ามีตัวอื่นต่ำกว่านี้ก็น่าสนนะ เพื่อนๆท่านใดมีข้อมูลมาแชร์กันนะครับ
จะได้ไม่ต้องขยับไปถึงวาล์วน้ำแต่ง (เปิดที่ 76 องศา) แต่อู่บอกเปลี่ยนไปก็เท่านั้นเพราะหม้อน้ำก็อาจจะระบายไม่ทันอยู่ดี
มีพี่ใช้เหยี่ยวคอแดงแนะนำมาให้ใส่ออยเครื่อง แกบอกว่า เครื่องสูบนอน ร้อนไว...และมีพี่ที่ใช้แมวสองพัน ก็ไปใส่มา บอกว่าเวิร์คกว่าเดิม เครื่องวิ่งลื่นไหลกว่าเดิม
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์นะครับ ตอนนี้รายละเอียดหลักๆของรถเรียบร้อยเกือบหมดแล้ว เหลือแต่เก็บยิบๆย่อยๆ น่ะครับ
-
Update 18/06/54
เมื่อวานนี้ไปให้เก่งมันจูนรถใหม่ เนื่องจากคิดว่ารอบเดินเบาและรอบต้นๆ 0-3000 รอบ กินน้ำมันมาก และเหม็นน้ำมันมาก
อาการของรถคือตื้อๆ ครับ แต่พอเลยสามพันรอบไปแล้ว วิ่งดี
หลังจากปรับส่วนผสมช่วงโค้สลูปใหม่ รถวิ่งดีกว่าเดิม ไม่เหม็นน้ำมันเหมือนเดิม สาเหตุเกิดจากตอนจูนไดโนได้ประมาณ 30 นาที
รถขึ้นไฟเช็คเอ็นจิ้น ทางจูนเนอร์เลยปรับส่วนผสมไว้ไม่ให้รอบเดินเบามีปัญหา มันเลยกินมาก ถ้าไม่ขึ้นไฟเช็คคงเนียนกว่านี้ครับ
แต่เมื่อวานก็ปรับกันน่าจะลงตัวแล้ว (จูนถนน) ไม่ได้ปัก A/F นะครับ เก่งมันบอกว่า อัดน้ำมันมาช่วงรอบเดินเบาอัดน้ำมันเยอะไปหน่อย
วันนี้เติมน้ำมันเต็มถัง ไว้จะลองจับอัตราสิ้นเปลืองอีกรอบ คาดหวังในใจไว้ที่ 14 km/L นอกเมือง ในเมือง 8-9 km/L ครับ
ที่เกียร์เดิมเครื่องพันห้า เฟืองท้ายเดิม ส่วนอนาคตอาจจะปรับเฟืองท้ายของเครื่องพันห้าเดิม 4.4 เป็นเฟืองท้ายเครื่องสองพัน 4.1
ทอร์คอาจจะลงนิดหน่อยแต่วิ่งยาวๆ มันไม่ต้องเค้นรอบเหมือนเฟืองท้ายเดิมครับ
ส่วนอากาารอื่นๆไม่มีอะไรอีกแล้วเว้นหม้อน้ำ เหมือนเวลาแช่ยาวๆ ทางไกลๆ มันร้อนไปหน่อย อุณหภูมิไม่ยอมลง
ช่างเก่งแนะนำว่าลองถอดกระจังหน้า วิ่งเทียบดู เพราะแมวเหมือนช่องระบายต่างๆเล็ก เพราะลองกับแมวเทอร์โบที่อู่ มันเห็นผล นี่เลยกะจะลองดู
แต่อีกมุมก็จะสั่งกระจังแต่ง Sti ที่เป็นตาข่ายมาใส่แทนครับเพราะยอมให้อากาศผ่านได้มากขึ้น
อีกสาเหตุคือผมดันไปเปลี่ยนแตรใหม่มา อันเบอเริ่มเลย....
บังหมด ก็จะได้ย้ายพวกนี้หลบๆ จุดประทะของลมกับแผงหม้อน้ำซะเลย
แต่สุดท้ายแล้วคิดว่าอาจจะต้องหาหม้อน้ำที่ใหญ่กว่าเดิมมาใช้แทนครับ น่าจะเวิร์คที่สุด และเพิ่มออยเครื่องอีกสักอันกันเหนียว
เอ๊า!!! ได้เวลาออกทะเลกันแล้ว mush21
-
แมวน้อย พาเพลินจิงๆครับ emo65o
-
อยากนั่งอีก วันนั้นแป๊บเดียว emo73o 55555+
-
อยากนั่งอีก วันนั้นแป๊บเดียว emo73o 55555+
ตอนมาล้อเดิมนี่นา นี่รูปไอคอนล้อใหม่ซะแล้ว
-
ตอนมาล้อเดิมนี่นา นี่รูปไอคอนล้อใหม่ซะแล้ว
อิอิ กู้แม่มาซื้อคับ ตอนนี้ขาดสปริงโหลด
-
FINAL
หลังจากทำเครื่องเสร็จ มีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอยู่สองอย่างคือ อย่างแรก "ความร้อน"
ตอนนี้จบแล้วครับ ไม่ได้ใส่อะไรพิเศษเลย หม้อน้ำเดิม พัดลมเดิม ฝาหม้อน้ำเดิมๆ วาล์วน้ำก็เดิม
ที่เปลี่ยนคือ ความแรงของพัดลม ทำให้แผงหม้อน้ำระบายได้เร็วกว่าเดิมมากครับ จนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแล้ว
เสียเงินไปหลักร้อยเท่านั้นครับ
สองคือเรื่องควันขาวเวลาถอนคันเร่ง ผมวางยาตัวเอง....เพราะมันมีท่ออากาศจากเสื้อสูบขึ้นมาเก่งมันไม่ได้ต่อไว้ คือกะให้ระบายออกไปเลย
แต่ผมเห็นไม่ต่อ ก็เลยต่อเข้าท่ออากาศบนชุดท่อร่วมไอดี และใช้ท่อซิลิโคนอย่างสวยเลย.....
ผลคือมันพับครับ ไอ้ไอน้ำมันเครื่องมันระบายออกไม่ได้ ก็ดันออกที่อื่น ทำให้เกิดเป็นควันขาวครับ ตอนนี้ก็ต่อให้ไม่พับแล้วมันก็ดีขึ้น
แต่ว่าจะต่อใหม่ มันมีสองท่อคือเล็กๆ กับใหญ่ๆ ท่อรูใหญ่จะต่อเข้าถังดักไอน้ำมัน ส่วนท่อเล็กจะต่อกรองอันเล็กๆ ไว้ให้ปล่อยทิ้งไปเลย
ก็สามารถแก้ไขปัญหาควันขาวเวลาถอนคันเร่งได้แล้วครับ สรุปคือผมโง่เองที่ไม่ระวัง
สุดท้าย เดือนหน้ารองบประมาณก่อน จะใส่ออยคูลเลอร์เครื่องเพิ่มกันเหนียวครับ
หลังจากจูน A/F เข้าที่เรียบร้อย แก้ไขปัญหาความร้อนและแรงดันเรียบร้อย รถวิ่งดีกว่าเดิมอีกนิดครับ อาการตื้อๆที่เคยมีหายไปเลย
จบเรียบร้อยสำหรับโปรเจคแมวน้อยของผม
-
เยี่ยมมากเลยครับ
แหมทั้งแรงและเนียนกว่า แมว กังหันน้อยๆ ของผมอีกนะนี่
ดีใจด้วยที่ได้ทำสำเร็จตามที่คาดไว้ครับ
-
เยี่ยมมากเลยครับ
แหมทั้งแรงและเนียนกว่า แมว กังหันน้อยๆ ของผมอีกนะนี่
ดีใจด้วยที่ได้ทำสำเร็จตามที่คาดไว้ครับ
โห ถ้ารถพี่ป๊อกไม่แรง ก็คงไม่มีรถที่แรงแล้วพี่ ถล่มตัวอีกแระ
พี่ผมหาซื้อหลอดโอโซนไม่ได้เลย ไปอมรที่ เซียร์มาเขาไม่มีขาย
แต่เจอขายในเวปอยู่เหมือนกัน ว่าจะเอามาอบนู่นอบนี่สักหน่อยอ่ะครับ ในเวปแพงกว่าพี่ป๊อกบอกเยอะเลย
ปล.รอกระจังหน้าเคฟล่าอยู่ครับ อิอิ สั่งมาแล้ว จีนอีกตามเคย.... สั่งกระจังแม่งให้กระจังจริงๆ ตะแกรงเหล็กดันไม่มีซะงั้น
-
ยินดีด้วยนะครับ อ่านแล้วเพลินมากๆ ผมว่าเป็นอีกทางเลือกที่เยี่ยมมากๆ เลย เพราะตอบโจทย์เจ้าของรถได้เป็นอย่างดี emo65o