Siam Subaru Webboard
General Discussion => Siam Subaru Society Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: zordor_im ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 02:38:39 pm
-
ที่ถามเพราะของผมเอง ใส่มาแล้ว แต่ของเดิมก็ยังอยู่แต่ไม่ได้ต่อสายใดๆเลย มันจะมีผลต่อแรงดันเบนซินอย่างไงบ้างครับ เพราะผมกำลังสงสัยอยู่ว่าเกจที่วัดแรงดันเพี้ยน หรือว่า เกี่ยวกับreculatorเดิม เพราะว่าตอนมาใส่เกจ HKSมือสอง พอใส่เสร็จแล้วแรงดันอยู่ที่ 1.6(รอบเดินเบา) ผมก็คิดว่ามันต่ำเกินพอไปไขเป็น 2.5 บาร์ ปรากฎว่ารถวิ่งไม่ออก ก็เลยคิดว่าแรงดันมันน่าจะเยอะเกิน ใครรู้ช่วยบอกที่ครับผมสงสัยมากเลย แต่ว่ารถผมใส่ F - conเงิน แล้วนะครับ หรือว่าก็เกจเพี้ยน ยังไงใครรู้ช่วยเข้ามาบอกผมที่นะครับ ทิ้งเบอร์โทรไว้ก็ได้แล้วเด๋ว ผมจะโทรไปปรึกษา ขอบคุนครับ
-
ไม่ต้องถอดออกก็ได้ครับ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องแรงดัน ลองเช็คเกจ์ดูก่อนแล้วกันนะครับ
จริงๆแล้วโปรแกรมในกล่องน่าจะคำณวนตามแรงดันเดิมที่ 1.6 ครับ พอปรับเพิ่มมันเลยตื้อ
น้ำมันคงมากไป จริงๆแล้วเรื่องแรงดันเชื้อเพลิง ลองดูตอนบูสท์ด้วยก็ดีครับว่ามันขึ้นไปเท่าไหร่
เดินเบาไม่น่ากังวลเท่าตอนลากรอบแล้วบูสท์มาครับตรงนั้นสำคัญกว่า เพราะแรงดันเชื้อเพลิงต้องมากกว่าบูสท์พอสมควรครับ
ส่วนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่จูนเนอร์ด้วยครับ ว่าเค้าจะจูนแบบไหน
ปล.ผมพอมีความรู้บ้างแต่ไม่มากมาย เลยไม่กล้าบอกเบอร์โทร.เดี๋ยวแนะนำผิดๆถูกๆ ยังงัยรอผู้รู้ท่านอื่นๆอีกแล้วกันนะครับ
ไม่งั้นก็ลองถามช่างน่าจะดีกว่าครับ
-
ไม่ต้องถอดออกก็ได้ครับ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องแรงดัน ลองเช็คเกจ์ดูก่อนแล้วกันนะครับ
จริงๆแล้วโปรแกรมในกล่องน่าจะคำณวนตามแรงดันเดิมที่ 1.6 ครับ พอปรับเพิ่มมันเลยตื้อ
น้ำมันคงมากไป จริงๆแล้วเรื่องแรงดันเชื้อเพลิง ลองดูตอนบูสท์ด้วยก็ดีครับว่ามันขึ้นไปเท่าไหร่
เดินเบาไม่น่ากังวลเท่าตอนลากรอบแล้วบูสท์มาครับตรงนั้นสำคัญกว่า เพราะแรงดันเชื้อเพลิงต้องมากกว่าบูสท์พอสมควรครับ
ส่วนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่จูนเนอร์ด้วยครับ ว่าเค้าจะจูนแบบไหน
ปล.ผมพอมีความรู้บ้างแต่ไม่มากมาย เลยไม่กล้าบอกเบอร์โทร.เดี๋ยวแนะนำผิดๆถูกๆ ยังงัยรอผู้รู้ท่านอื่นๆอีกแล้วกันนะครับ
ไม่งั้นก็ลองถามช่างน่าจะดีกว่าครับ
แหมๆๆๆ ปอม รถทำเต็มซะขนาดนั้น ความรู้ต้องมีมากมายอยู่แล้ว ถ่อมตัวซะ........
-
ขอรบกวนจขกท.ถามซ้อนเลยนะครับ ถ้าใส่ปั๊มแรงดันสูง (walbro) แล้ว จำเป็นต้องใส่ regulator ไหมครับ ?????
-
ขอรบกวนจขกท.ถามซ้อนเลยนะครับ ถ้าใส่ปั๊มแรงดันสูง (walbro) แล้ว จำเป็นต้องใส่ regulator ไหมครับ *
ไม่จำเป็นครับ
-
ขอบคุณครับพี่ต่อ emo9o
-
ไม่ต้องถอดออกก็ได้ครับ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องแรงดัน ลองเช็คเกจ์ดูก่อนแล้วกันนะครับ
จริงๆแล้วโปรแกรมในกล่องน่าจะคำณวนตามแรงดันเดิมที่ 1.6 ครับ พอปรับเพิ่มมันเลยตื้อ
น้ำมันคงมากไป จริงๆแล้วเรื่องแรงดันเชื้อเพลิง ลองดูตอนบูสท์ด้วยก็ดีครับว่ามันขึ้นไปเท่าไหร่
เดินเบาไม่น่ากังวลเท่าตอนลากรอบแล้วบูสท์มาครับตรงนั้นสำคัญกว่า เพราะแรงดันเชื้อเพลิงต้องมากกว่าบูสท์พอสมควรครับ
ส่วนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่จูนเนอร์ด้วยครับ ว่าเค้าจะจูนแบบไหน
ปล.ผมพอมีความรู้บ้างแต่ไม่มากมาย เลยไม่กล้าบอกเบอร์โทร.เดี๋ยวแนะนำผิดๆถูกๆ ยังงัยรอผู้รู้ท่านอื่นๆอีกแล้วกันนะครับ
ไม่งั้นก็ลองถามช่างน่าจะดีกว่าครับ
พอผมบูสท์ที่ประมาณ 1.2บาร์ แรงดันอยู่ที่ประมาณ3.1ครับ แต่แรงดันไม่มีถอยไปตามเท้าเลยครับ ยังงี้ควรจะกังวลไหมครับ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยต้องหาคนที่เคยเล่นมาก่อนก็น่าจะดีกว่า ยังไงขอบคุนมากมากนะครับ
-
คุณโจ... ลองกดหัวข้อ SEARCH แล้วเลือกคำ "แรงดันน้ำมันเบนซิน"
หรือคำต่างๆที่อยากทราบ
ความรู้เพียบ อ่านกันทั้งคืนครับ งานนี้
-
แหมๆๆๆ ปอม รถทำเต็มซะขนาดนั้น ความรู้ต้องมีมากมายอยู่แล้ว ถ่อมตัวซะ........
ยอกันไปป่าวพี่โจคร้าบ emo73o สบายดีนะพี่ไม่เจอกันเลย emo72o
ขอรบกวนจขกท.ถามซ้อนเลยนะครับ ถ้าใส่ปั๊มแรงดันสูง (walbro) แล้ว จำเป็นต้องใส่ regulator ไหมครับ
ตามที่ท่านประธานบอกเลยครับ จริงๆแล้วในรถยนต์หัวฉีดทุกคัน ต้องมีตัวคุมแรงดันเชื้อเพลิง(regulator)อยู่แล้วครับเพียงแต่มันปรับไม่ได้เท่านั้นเอง
ถ้าผมเข้าใจคำถามไม่ผิดคุณ name_joker คงหมายถึง regulator แบบปรับได้แน่ๆเลย เอาเป็นคร่าวๆว่าไม่ต้องติดก็ได้ครับแต่ถ้ามีไว้ก็น่าจะดีกว่า
เรื่องรายละเอียดถ้ายังสงสัยเรื่องความจำเป็นแล้วไม่รู้จะคุยกับใคร PM มาหาผมก็ได้ครับ ตอบในนี้กลัวจะยาว
พอผมบูสท์ที่ประมาณ 1.2บาร์ แรงดันอยู่ที่ประมาณ3.1ครับ แต่แรงดันไม่มีถอยไปตามเท้าเลยครับ ยังงี้ควรจะกังวลไหมครับ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยต้องหาคนที่เคยเล่นมาก่อน ก็น่าจะดีกว่า ยังไงขอบคุนมากมากนะครับ
ถ้าจำไม่ผิดแรงดันเชื้อเพลิงต้องสูงกว่าแรงดันอากาศ(บูสท์)ประมาณไม่ต่ำกว่า 2 บาร์น่าจะใช่ครับจะมากหรือน้อยกว่าก็อยู่ที่จูนเนอร์แล้วหละครับ ยังงัยรอผู้รู้อีกทีนะครับ
แต่ถ้าไม่ลดลงรอบปลายๆก็ไม่น่าจะผิดปกติอะไรครับ แต่เดินเบาที่ 1.6 ผมก็ว่ามันแปลกๆนะ จำไม่ได้ว่าแรงดันเชื้อเพลิงเดินเบาปกติมันอยู่ที่เท่าไหร่ซะด้วยสิ
ขอบคุณครับ emo57o
-
พอผมบูสท์ที่ประมาณ 1.2บาร์ แรงดันอยู่ที่ประมาณ3.1ครับ แต่แรงดันไม่มีถอยไปตามเท้าเลยครับ ยังงี้ควรจะกังวลไหมครับ เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยต้องหาคนที่เคยเล่นมาก่อนก็น่าจะดีกว่า ยังไงขอบคุนมากมากนะครับ
ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่ emo8o
เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์
ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์
เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์
เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)
แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ
ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย
ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
emo36o
-
ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่ emo8o
เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์
ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์
เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์
เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)
แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ
ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย
ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
emo36o
ขอบคุนครับ ว่าจะไปลองหากระปุกแรงดันเล็ก ใส่ตรงreculatorตัวใหม่ดูว่าเปนไง แล้วถ้าเกิดว่าเปนไง จะบอกทุกๆๆคนนะครับ ขอบคุนสำหรับข้อมูลของทุกๆๆท่านมากครับ
-
ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่ emo8o
เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์
ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์
เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์
เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)
แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ
ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย
ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
emo36o
จขกท คืออะไรครับ
-
จขกท = เจ้าของกระทู้ครับผม emo72o
-
ดูจากอาการ จขกท ว่ามาท่าจะแย่ อยู่ emo8o
เท่าที่ผมทราบ WRX ค่า มาตรฐานแรงดันน้ำมันเบ็นซีนถูกเซทไว้2.7 -2.8 บาร์ ขณะที่ถอดสายเวคคั่มออก (เดินเบา)
เมื่อต่อสายเวคคั่มแรงดันน้ำมันเบ็นซีนจะลดลง ตามค่าเวคคัมของเครื่องตัวนั้นๆ ปกติ 0.4 บาร์ แล้วแต่ความฟิตของเครื่อง
ดังนั้นแรงดันปกติเดินเบาจะเหลือ 2.8 - 0.4 = 2.4 บาร์
ขณะเดินคันเร่งไม่ติดบูส (บูสเท่ากับ 0) ค่าแรงดันที่ควรจะเป็นก็คือ เท่ากับค่าเร็กกูเลตอร์ที่ถูกเซทตอนถอดสายเวคคั่มออกคื 2.8 บาร์
เพราะฉะนั้นตอนติดบูส 1.2 บาร์ ค่าแรงดันน้ำมันเบนซีน ก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามบูสคือ 2.8 + 1.2 = 4 บาร์
เร็กกูเลเตอร์ปกติเอามาปรับให้ค่าแรงดันสูงขึ้นดังนั้นการต่ออนุกรมกับ เร็กกูเลเตอร์ตัวเดิม สามารถใช้ได้ เนื่องจากน้ำมันจะไหลผ่านตัวเดิม(วาวเปิดมาก) และถูกควบคุมด้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวใหม่แทน(วาวเปิดน้อย กว่าตัวเดิม)
แต่ถ้าเอามาปรับแรงดันให้ลดลง จะต้องเอาเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมออก หรือ ไม่เอาออก แต่ต่อขนานกัน ซึ่งปกติไม่คงไม่มีใครเอามาปรับลดน้ำมันให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานติดรถ
ลองเช็คเก็จว่าเที่ยงตรงหรือไม่ สายเวคคั่มแตก หลวม เร็กกูเลตอร์เสีย
ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
emo36o
ตอนนี้รถผมไม่ได้ต่อ (เน้น)lสายเวคคั่มreculator เดิม แต่reculatorก็ไม่ได้เอาออกนะครับ มันจะเกี่ยวกับเรื่องแรงดันไหมครับ และถ้าไม่อย่างนั้นมันจะเกี่ยวกับอะไรได้บ้างครับ
-
ตอนนี้รถผมไม่ได้ต่อ (เน้น)lสายเวคคั่มreculator เดิม แต่reculatorก็ไม่ได้เอาออกนะครับ มันจะเกี่ยวกับเรื่องแรงดันไหมครับ และถ้าไม่อย่างนั้นมันจะเกี่ยวกับอะไรได้บ้างครับ
ปั๊ม-------หัวฉีด--------เร็กกูเลเตอร์เดิม------------เร็กกูเลเตอร์ HKS-----------ไหลกลับถัง
หากไม่ได้ต่อสายแวคคั่มก็จะเท่ากับระบบน้ำมันรถคุณถุกคุมค้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมที่ 2.8 บาร์ที่ค่าต่ำสุด แต่สามารถเพิ่มแรงดันขึ้นจากค่า 2.8
ด้วยเร็กกูเลเตอร์แต่งแทน
แรงดันน้ำมัน ตอนเดินเบาจะได้ค่านี้ และจะไม่สามารถลงต่ำกว่านี้อีก เพราะเรกกูเลเตอร์ 2 ตัวต่ออนุกรมกัน และ เรกกูเลเตอร์ตัวเดิมอยู่ก่อนหน้า ตัวแต่ง
วาวล์หรือรูน้ำมันที่ไหลผ่านเร็กกูเลเตอร์ตัวแรกกลายเป็นรูที่มีขนาดคงที่ ค่าสปริงก็คงที่เนื่องจากไม่มีแรงใดๆมากระทำอีกต่อไป (แวคคั่ม/บูส)
ดังนั้นถึงแม้ว่าน้ำมันจะไหลผานต่อมายังเร็กกูเลเตอร์ตัวที่ 2 ของแต่งHKS ที่ต่อ แวคคั่มอยู่ขณะเดินเบา (วาวล์เปิดมากกว่าตัวเดิมเพราะแวคคั่ม)
ก็ไม่ได้ทำให้แรงดันที่หัวฉีดลดลงได้แต่อย่างใดเลย เพราะวาวล์ ของเร็กกูเลเตอร์ตัวแรกมันตีบซะแล้ว จึงได้ค่าแรงดันเท่ากับค่าของเร็กกูเลเตอร์มาตรฐาน
ตัวเดิม ตอนไม่ต่อแวคคั่มนั่นเอง
เป็นค่าต่ำสุดที่ระบบจะยอมได้
หากต่อแวคคั่มให้กับเรกกูเลตอร์เดิมด้วยแรงดันน้ำมันเริ่มต้นก็จะสามารถเริ่มได้ที่ค่าเริ่มตั้นมาตรฐานคือประมาณ 2.4 บาร์ ( 2.8-0.4) เป็นต้นไป โดยเราจะให้เริ่มที่ 2.5, 2.6 หรือ 2.7
ก็ได้ โดยการปรับค่าทีเร็กกูเลเตอร์แต่ง จะเห็นว่าทำงานของแรกกูเลเตอร์ทั้ง 2 ตัวจะ over lap กันนั่นเอง
หากต้องการค่าเริ่มต้นมากกว่า 2.8 ไปแล้วการต่อสายแวคคั่มให้เร็กกูเตอร์เดิมก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
)
-
ปั๊ม-------หัวฉีด--------เร็กกูเลเตอร์เดิม------------เร็กกูเลเตอร์ HKS-----------ไหลกลับถัง
หากไม่ได้ต่อสายแวคคั่มก็จะเท่ากับระบบน้ำมันรถคุณถุกคุมค้วยเร็กกูเลเตอร์ตัวเดิมที่ 2.8 บาร์ที่ค่าต่ำสุด แต่สามารถเพิ่มแรงดันขึ้นจากค่า 2.8
ด้วยเร็กกูเลเตอร์แต่งแทน
แรงดันน้ำมัน ตอนเดินเบาจะได้ค่านี้ และจะไม่สามารถลงต่ำกว่านี้อีก เพราะเรกกูเลเตอร์ 2 ตัวต่ออนุกรมกัน และ เรกกูเลเตอร์ตัวเดิมอยู่ก่อนหน้า ตัวแต่ง
วาวล์หรือรูน้ำมันที่ไหลผ่านเร็กกูเลเตอร์ตัวแรกกลายเป็นรูที่มีขนาดคงที่ ค่าสปริงก็คงที่เนื่องจากไม่มีแรงใดๆมากระทำอีกต่อไป (แวคคั่ม/บูส)
ดังนั้นถึงแม้ว่าน้ำมันจะไหลผานต่อมายังเร็กกูเลเตอร์ตัวที่ 2 ของแต่งHKS ที่ต่อ แวคคั่มอยู่ขณะเดินเบา (วาวล์เปิดมากกว่าตัวเดิมเพราะแวคคั่ม)
ก็ไม่ได้ทำให้แรงดันที่หัวฉีดลดลงได้แต่อย่างใดเลย เพราะวาวล์ ของเร็กกูเลเตอร์ตัวแรกมันตีบซะแล้ว จึงได้ค่าแรงดันเท่ากับค่าของเร็กกูเลเตอร์มาตรฐาน
ตัวเดิม ตอนไม่ต่อแวคคั่มนั่นเอง
เป็นค่าต่ำสุดที่ระบบจะยอมได้
หากต่อแวคคั่มให้กับเรกกูเลตอร์เดิมด้วยแรงดันน้ำมันเริ่มต้นก็จะสามารถเริ่มได้ที่ค่าเริ่มตั้นมาตรฐานคือประมาณ 2.4 บาร์ ( 2.8-0.4) เป็นต้นไป โดยเราจะให้เริ่มที่ 2.5, 2.6 หรือ 2.7
ก็ได้ โดยการปรับค่าทีเร็กกูเลเตอร์แต่ง จะเห็นว่าทำงานของแรกกูเลเตอร์ทั้ง 2 ตัวจะ over lap กันนั่นเอง
หากต้องการค่าเริ่มต้นมากกว่า 2.8 ไปแล้วการต่อสายแวคคั่มให้เร็กกูเตอร์เดิมก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
)
แล้วควรเอาอะไรไปปิดรูreculatorเดิม ไว้ไหมครับ กันเศษอะไรมันเข้าไปอะครับ ยัไงขอบคุนมากๆๆนะครับกระจ่างเลย แต่ว่าเด๋วไว้จะลองไปซื้อเกจวัดหน้าreculatorแต่งดูเพื่อจะดูว่าเกจhksเพี้ยนเปล่า ยังไงขอบคุนอีกครั้งนะครับเด๋วได้เรื่องยังไงจะเอามาบอกนะครับ
-
แล้วควรเอาอะไรไปปิดรูreculatorเดิม ไว้ไหมครับ กันเศษอะไรมันเข้าไปอะครับ ยัไงขอบคุนมากๆๆนะครับกระจ่างเลย แต่ว่าเด๋วไว้จะลองไปซื้อเกจวัดหน้าreculatorแต่งดูเพื่อจะดูว่าเกจhksเพี้ยนเปล่า ยังไงขอบคุนอีกครั้งนะครับเด๋วได้เรื่องยังไงจะเอามาบอกนะครับ
เสียบท่อยางซิลิโคนแล้วใช้ เคเบิลทายรัดหัวท้ายก็พอ ครับ