Gallery > Car Member Gallery

The Blue Hattori 2003 WRX Sti V-Limited no.419/555(Updated,P.18)

<< < (15/58) > >>

Hattori:
พักเบรคเรื่องรถกันหน่อย แล้วกลับไปดูเรื่องกินกันต่อดีมั้ยครับ ดูรถกันบ่อยๆ ผมว่ามันจะเลี่ยนนะ มีอะไรเบรคสักหน่อยก็น่าจะดี ก็คงเหมือนกับที่ผมตั้งใจจะเล่าเรื่อง “14 ปีแห่งความหลัง ...” ให้ฟังนั่นแหละครับ ด้วยเห็นว่า สมาชิก SSS ส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องออกแนว “โมดิฟาย” กันอยู่แล้ว (ซึ่งผมเองชอบอ่านมากๆ) ก็เลยอยากจะเพิ่มแนว “ประสบการณ์” ให้เพื่อนๆ ฟังกันบ้าง รสชาดมันจะได้กลมกล่อมไงครับ มีเพื่อนผมคนนึงอ่านแล้วก็ถามว่า “เฮ้ย ... ทำไมเรื่องของเอ็งมันดราม่าจังวะ ... ยังกะคู่ชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนก่อนแน่ะ โห ... ชีวิตจริงมันจะเศร้าปานนั้นเลยเหรอวะ?” ผมก็เลยตอบกลับไปว่า “เออ ... มันเศร้ากว่านี้อีก (พร้อมทำหน้าซึมๆ)” แหะๆ ... ล้อเล่นน่ะครับ เดี๋ยวคนที่บ้านเปิดอ่านเป็นเมื่อไหร่ เป็นด่าเปิง เพราะอันที่จริงแล้วชีวิตคนเรามันก็มีหลายมุม ทั้งสุขและเศร้าปนกันละครับ

 :bbbear_43:

โม้ซะยาวเลย  .... ทีนี้ลองข้ามมาดูเรื่องของอร่อยกันบ้าง เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ผมติดภารกิจที่สิงคโปร์ 3 วัน แต่เนื่องจากมาบ่อย ก็ชักจะเบื่อ ก็เลยตั้งใจว่าทริปนี้นอกจากจะต้องมาปิดงานให้ได้แล้ว ก็จะตั้งใจเดินหน้าชิมของดีเป็นพิเศษ เผื่อมีสมาชิก SSS ท่านใดได้มีโอกาสมาเที่ยว หรือมาทำงานที่นี่ อาจจะได้มาลองของอร่อยแถวนี้กันบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาลองดูเมนูแรกกันเลยดีกว่าครับ

 :bbbear_23:

ขอแนะนำมื้อเที่ยงกันก่อน เป็นอาหารชุดที่เหมาะกับเวลาน้อยๆ ครับ ในเซ็ทจะมีหมูสามชั้นต้มพะโล้ เสิร์ฟพร้อมข้าวกับผักแห้ง ผมก็เลยลองสั่งไซด์ออเดอร์เป็นปีกไก่ทอดกรอบที่เคล้ากุ้งบดกับแป้งแล้วนำไปทอดกรอบแบบดีพฟรายด์ รสชาดแปลกสุดๆ เลยครับ ข้างนอกกรอบแป้งกับหนังไก่ แต่รสชาดกลายเป็นกุ้งเท็มปุระ และพอเคี้ยวรวมกับเนื้อไก่ก็กลายเป็นไก่ทอดสุดอร่อย .... แปลกจริงๆ เกิดมาเพิ่งเคยกิน ร้านชื่อ Paradise Inn อยู่ที่ห้าง 313 Somerset บน Orchard road ครับ อร่อยมากกก .... ขอบอก....

Hattori:
พอตกบ่าย เราก็มาเดินทอดน่องรอประชุมที่  Marina Bay Sands Resort & Casino ก็เลยต้องลองขนมกันบ้างครับ มาสิงคโปร์ทีไร ผมจะต้องทานชีสเค้กทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะที่นี่เขาทำอร่อยเหลือเกิน โดยมีเมนูประจำคือ New York Cheesecake ที่ Starbucks แต่ครั้งนี้มีได้มีโอกาสลองเจ้า Chicago Cheesecake ที่ร้าน BeanStro ใน MBS นี่ ของเค้าอร่อยยิ่งกว่าครับ รสออกหวานเล็กน้อยแต่ชีสที่นี่เค้าหอมและนุ่มเหลือเกิน ยิ่งทานคู่กับ Frozen Sunrise (น้ำส้มปั่นกับวานิลาสูตรพิเศษของทางร้าน) รสชาดออกเปรี้ยวนิดหน่อยมันยิ่งตัดกันดีเหลือเกิน สรุปคือ"อร่อย" ครับ ระหว่างทานก็นั่งดูน้ำรั่วจากหลังคาห้าง ... เอ๊ย .. ไม่ใช่ครับ มันเป็น “กิมมิค” ของห้างฯ เค้า คือ เค้าจะปล่อยน้ำจำนวนหลายตันลงมาในโดมหงายคล้ายอ่างขนาดใหญ่จากข้างบน แล้วปล่อยให้เป็นน้ำตกลงมาข้างล่างตรงที่นักท่องเที่ยวนั่งทานข้าวกันอยู่ ก็ความรู้สึกประมาณเดียวกับนั่งดูน้ำไหลลงสะดืออ่าง เพียงแต่เราอยู่ข้างล่างเท่านั้น (เท่าที่ผมสังเกตจากหลายๆ กระทู้ น่าจะมีสมาชิก SSS หลายท่าน เป็นเกจิทางด้านนี้เลย ... 5555)

Hattori:
ไหนๆ ก็จวนจะเป็นทริปกินกันอยู่แล้ว ถ้างั้นจัดไปอีกสักมื้อละกันครับ เป็นมื้อดึก พอดีกว่าจะคุยงานเสร็จก็ค่ำมืดดึกดื่น เลยชักจะหิว ก็หันไปถามเพื่อนชาวสิงคโปร์ว่า ที่นี่มีอะไรที่มันน่ากินแล้วก็อร่อยจริงๆ และเป็น street food ที่ชาวสิงคโปร์นิยมกินกัน แต่ขอแปลกๆ นะ เขาก็เลยบอกว่าคราวก่อนได้พาผมไปลอง clay pot crab (ปูอบหม้อดิน) ที่เลื่องชื่อไปแล้ว (ปูมาจากศรีลังกา ตัวเท่าไก่กระทง) คราวนี้หากอยากจะลองของแปลกก็ต้องนี่เลย “โจ๊กกบ”

 :bbbear_27:

Hattori:
ผมได้ยินตอนแรกนึกว่านึกว่าหูฝาด ต้องหันไปถามซ้ำอีกที เพราะว่าไอ้กบเนี่ย ผมไม่แปลกใจหรอก แต่ไอ้การเอากบมาทำเป็นโจ๊กนี่สิ มันทำได้ด้วยเหรอ (วะ) น่าจะคาวแย่ ว่าแล้วก็ไปลองกันเลยดีกว่า เค้าพาผมไปแถวๆ “เกลัง” สมาชิกบางท่านอาจหูผึ่ง เพราะย่านนี้เปรียบแล้วก็เหมือนซอยคาวบอยบ้านเรา น้องๆ เพียบ แต่โซนที่ไปมันเป็นโซนของ street food ครับ อยู่ตรง เกลังซอย 9 (Geylang Lor 9) ระหว่างที่รอเฮียเจ้าของร้านเอาโจ๊กมาเสิร์ฟ ก็ซัดหอยทอดฆ่าเวลากันก่อน รสชาดก็ใช้ได้เลยครับ ต่างจากบ้านเราตรงที่หอยทอดนั้นค่อนข้างจะกรอบ และหอมกลิ่นกระทะ (เพราะบ้านเราจะแฉะถั่วงอกหน่อย) ซึ่งก็เป็นความแตกต่างระหว่างอาหารจีนของบ้านเรา กับฮ่องกงและสิงคโปร์ ก็อยู่ตรงเทคนิคของการควบคุมไฟในเตา เพราะพ่อครัวจีนจะเก่งมากๆ เรื่องนี้ ทำให้ทำอาหารผัดๆ ทอดๆ ได้อร่อยถึงใจ

 :bbbear_34:

Hattori:
พอโจ๊กกบมา ผมยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ เพราะไอ้เราก็นึกถึงการต้มโจ๊กแล้วใส่เครื่องลงไปเหมือนที่บ้านเรานิยมกินกันตอนเช้า แต่ไม่ใช่เลยครับ เพราะเขาแยกส่วนกันมาระหว่างโจ๊กกับเครื่อง เวลาทานก็เพียงแต่ตักโจ๊กใส่ถ้วยเล็กๆ ก่อน และนำเครื่องใส่ตาม ตัวเครื่องคือเนื้อกบนั้น เค้าผัดกับต้นหอมและพริกแห้ง ใส่ Chili paste น้ำมันหอย และโรยพริกไทยมาซะหอมฉุย ส่วนโจ๊กนั้นก็ไม่ใช่โจ๊กเปล่าๆ ครับ แต่ต้มใส่น้ำซุปกระดูกหมูมาเล็กน้อย ตักโจ๊กปล่าวๆ ชิมดู ก็หวานหอมน้ำต้มกระดูกแล้วครับ พอนำทั้งสองส่วนมาใส่ด้วยกัน แล้วทานตามแบบชาวสิงคโปร์ดู ผลคืออร่อยจริงๆ ครับ หอมทั้งโจ๊กและกบที่โรยหน้า รสชาดออกเค็มนิดหน่อยบวกเผ็ดร้อนเล็กน้อย เหมาะกับช่วงดึกๆ เพราะซดคล่องคอดีเหลือเกิน ทานกันไปคนละ 3-4 ชามกว่าจะหมดหม้อดินที่สั่งมา สนนราคาก็ไม่กี่ตังค์หรอกครับสัก 6-7 ร้อย กับ 2 เมนู พร้อมน้ำ ก็ระดับ 2 คนจุกละครับ

 :bbbear_3:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version