General Discussion > Siam Subaru Society Forum
เรื่องของ Battery
ScooBy crew:
อืมคารวะ อ.โจ้ full throttle 1 จอก
อธิบายได้เยี่ยม
Impreza lover:
ผมคิดว่า Amp ไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้นครับ
ส่วนมาก ก็ 40-60 ampสุดแล้วครับ จะมี สูงกว่าก็ พวก แบตแต่งหรือ เครืองเสียงคับ
ที่เห็น เป็นหลับ สี่ร้อย ถึง หกรอ้ย น่า จะเป็น CCA ครับ (cold cranking amp)
คือแค่ตอน สต๊าท ไม่กี่ วินาที ในอากาศเย็น (วัดตอนที่ชาร์ตเต็มที่แล้ว)
ระวังแบตหนักๆ อาจมีผลกับ การ balance น้ำหนักรถนะครับ
และที่รู้สึกว่า วิ่งดีนั้น แน่นอนว่า การที่หัวเทียน มีคอร์ย เร่ง ไฟจาก 12 v ไป เป็น ไฟแรงสูง ก็ ใช้การ คูณครับ 11v, 12v, 13v
อาจดูต่างกันน้อย แต่ พอคูณด้วย พัน มันก็เยอะอยุ่นะครับ
อีกอย่างผมเคยเห็นใน รุ่นใหม่ๆ ระบบยกหัวฉีดน้ำมันจะมีการยกชดเชยเวลาไฟแบตต่ำ
(battery latency (dead-time))
แต่หากรุ่นเก่าๆอาจไม่มี ทำให้รู้สึกว่า เปลี่ยนมาแล้ว วิ่งดี ก็เพราะ หัวฉีด ยกมากขึ้นครับ
อันนี้ เดาเพราะ ยังไม่เคย ปรับเล่นจริงๆ
POP_EMS:
แสดงว่าช่วงนี้ไฟกำลังแรง emo6o
suby_ja:
--- อ้างจาก: S-GT lover ที่ สิงหาคม 03, 2010, 05:40:01 pm ---ผมคิดว่า Amp ไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้นครับ
ส่วนมาก ก็ 40-60 ampสุดแล้วครับ จะมี สูงกว่าก็ พวก แบตแต่งหรือ เครืองเสียงคับ
ที่เห็น เป็นหลับ สี่ร้อย ถึง หกรอ้ย น่า จะเป็น CCA ครับ (cold cranking amp)
คือแค่ตอน สต๊าท ไม่กี่ วินาที ในอากาศเย็น (วัดตอนที่ชาร์ตเต็มที่แล้ว)
ระวังแบตหนักๆ อาจมีผลกับ การ balance น้ำหนักรถนะครับ
และที่รู้สึกว่า วิ่งดีนั้น แน่นอนว่า การที่หัวเทียน มีคอร์ย เร่ง ไฟจาก 12 v ไป เป็น ไฟแรงสูง ก็ ใช้การ คูณครับ 11v, 12v, 13v
อาจดูต่างกันน้อย แต่ พอคูณด้วย พัน มันก็เยอะอยุ่นะครับ
อีกอย่างผมเคยเห็นใน รุ่นใหม่ๆ ระบบยกหัวฉีดน้ำมันจะมีการยกชดเชยเวลาไฟแบตต่ำ
(battery latency (dead-time))
แต่หากรุ่นเก่าๆอาจไม่มี ทำให้รู้สึกว่า เปลี่ยนมาแล้ว วิ่งดี ก็เพราะ หัวฉีด ยกมากขึ้นครับ
อันนี้ เดาเพราะ ยังไม่เคย ปรับเล่นจริงๆ
--- End quote ---
ผมเปลี่ยน เป็นของ BOSCH มาครับขนาดลูกเท่าเดิม
แต่ AMp เพิ่มเค้าบอกว่า แบบนี่เค้านิยมใส่กับพวกรถที่เล่นเครื่องเสียงหน่ะครับ Auto Bac
pomaru:
ผมเคยใช้ครับ พวกแบตแห้ง รู้สึกว่าระบบไฟต่างๆในรถดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
ทั้งเวลาสตาร์ทเครื่อง ใช้เครื่องเสียงหนักๆ และเสียงเครื่องกับรอบเครื่อง( อันหลังนี่ไม่รู้อุปทานไปเองป่าว )
แบตแห้งมันแรงดีจริงๆ ขนาดตอนมันเสื่อมโวลท์ตกๆมันยังแรงเลยครับแต่มาแบบวูบๆ ประมาณว่าไฟมาเป็นลูกๆแต่แรง
ถ้ามันสมบูรณ์เหมือนตอนใหม่ๆนี่ แรงแบบราบเรียบคิดดูครับว่าจะมีผลขนาดไหน ถ้าแบตธรรมดาเสื่อมมันจะเบาลงๆเรื่อยๆจนหมด
แต่แบตแห้งแรงจนวาระสุดท้ายครับ มันจะไม่รู้สึกว่าค่อยๆหมด แต่จะรู้สึกว่าแรงตลอดแต่พอไปแล้วไปเลย
( จับอาการจากมอร์เตอร์สตาร์ทเป็นหลักครับ คือ โวลท์ตกก็สตาร์ทได้ปกติเหมือนแบตไม่อ่อนเลยและมันจะใช้ได้ไปจนกว่ามันจะพัง
พอมันพังก็จะไม่ติดเลย ถ้าไม่มีวัดโวลท์ก็ไม่รู้ตัวหละครับว่ามันเสื่อม นี่คือข้อเสีย 1 ข้อครับ )
และปัญหาที่พบคือ มันทนความร้อนได้ไม่ดีครับยิ่งถ้าอยู่ในห้องเครื่อง แล้วเจอรถติดนี่
เคยคุยกับพวกร้านเครื่องเสียง เค้าบอกว่าจะให้ดีถ้าย้ายมาไว้ในรถครับ แต่เมืองไทยอากาศร้อน
ยังงัยก็อายุสั้นกว่าปกติแน่นอนครับ เมื่อก่อนน่ะจะซัก 8-10 ปีที่แล้วตอนแบตแห้งมาเปิดตลาด
ในเมืองไทยใหม่ๆ ร้านเครื่องเสียงใช้ทั้งนั้นครับ ไฟมันแรงจริงๆ แต่พอใช้ไปสักพักลูกค้าเริ่ม
บ่นครับเพราะมันเสียเร็ว แถมเคลมไม่ค่อยได้ครับ ถึงจะอยู่ในประกัน มีรอยนิดเดียวก็จบแล้วหละครับ
แถมตอนสมัยนั้นลูกละ 10000 ขึ้น ตอนหลังเลยไปให้ความสำคัญกับอุปกรณ์อื่นๆแทน เช่น คาปา จะคุ้มค่ากว่า
ของผมใช้ได้แค่ 8 เดือนเอง ไปซะแล้ว ตอนนี้ส่งเคลมอยู่ 2 เดือนแล้วยังไม่ได้คำตอบเลยครับ
emo57o
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version