General Discussion > Siam Subaru Society Forum

จิงมั้ยที่เขาบอกกันว่าซุปบารุเปราะ

(1/4) > >>

SnoozEviL:
โดยเฉพาะเกียร์ ที่พังง่าย และเครื่องที่เปราะบางมาก

มีคนเขาบอกมาว่าแบบนั้น ผมก็เลยไม่รู้ว่าจิงอ่ะป่าว เพราะเสียวๆเหมือนกัน

เลยอยากรู้ว่าข้อมูลจริงเท็จแค่ไหนบ้างครับ อยากทราบว่าถ้าเดิมๆแล้วไป reflash กล่อง เปลี่ยนท่อ กะกรองใช้งานกันนานมั้ย

กี่โลถึงจะต้องเปิดเครื่อง overhaul กันบ้างครับ แล้วต้องดูแลอะไรเป็นหลักๆ

เพราะเกียร์แมวผมไม่มีที่ต่อ oil gear cooler ซึ่งก็เสียวมันเดือดเหมือนกันเวลาวิ่งทางไกลอ่ะครับ

SilverGC:
ไม่มีที่ต่อ oil ก็ต่อเองได้ครับ ไม่ยากอะไร หาที่เหมาะๆที่ลมเข้าถึงหลังกันชน ค่า oil ก็ไม่ได้แพงอะไรครับ มือสองตัวละไม่ถึงพัน ถ้าเอามือหนึ่งก็ตัวไม่กีบาท เพราะมันตัวเล็กครับ

The Blitz:
ถามว่าเปราะมั๊ย ผมก็ว่าไม่ถึกเท่าพวกเครื่องตัวอื่นๆ เช่นพวกเครื่องเจหรือแม้กระทั่งเครื่อง 4G63 ถ้าเป็นพวก EJ เดิมๆรุ่นเก่าๆหน่อย ก็น่าจะสู้เค้าไม่ค่อยได้ เพราะจุดเด่นของเครื่อง EJ ไม่ได้อยู่ที่ความถึกและรับแรงม้าได้เยอะๆ (แต่ถ้าจะให้รับได้เยอะๆ ถามทำได้มั๊ย คำตอบคือ ได้ แต่ต้องทำและทำให้ครบๆด้วย) ข้อดีของเครื่อง EJ ก็อย่างที่รู้กันก็คือมันเป็นเครื่องสูบนอน เวลาวางลงไปทำให้จุด CG อยู่ต่ำ บาลานซ์ดี แต่คอแดงรุ่นใหม่ๆก็พัฒนาความแข็งแรงเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างถ้าพวกเครื่องตั้งแต่ GD ขึ้นไปนี่รับม้าได้ 400 ตัว สบายๆ แต่อย่าเกินน๊า ส่วนเกียร์เนี่ยถ้าเป็น 5 สปีด โดยเฉพาะรุ่นเก่าๆก็เปราะจริงอีกนั่นแหล่ะ โดยเฉพาะยิ่งพวก 3.9 กับ 4.1 close อะไรทั้งหลาย แต่พอเป็น 6 สปีดแล้วนี่เห็นพังกันน้อยมาก พูดง่ายๆว่าแทบไม่เห็นเลย ใครขับ 6 สปีดแล้วพังนี่ถือว่าไม่ธรรมดา มันถึกมากพอสมควรทีเดียว ผมว่าส่วนใหญ่ที่พังก็เพราะใช้อุปกรณ์อย่างไม่ถูกกับวัตถุประสงค์ของมัน อย่างถ้ารถแรงมากๆก็ควรใช้เป็นเกียร์ 6 สปีดที่มีความแข็งแรงทนทานกว่า ไม่ใช่ไปจับกับ 5 สปีด พอพังก็บอกว่าเปราะ ส่วนเรื่องโอเวอร์ฮอลถ้าไม่ได้ทำอะไรมากซัก 100,000 โลหรือกว่านั้นหน่อยค่อยโอเวอร์ฮอลก็ได้ครับ ขอให้ขับอย่างสบายใจได้เลยครับ รับรองถ้าไม่ซนไม่พังง่ายๆครับ      

Bossma:

--- อ้างจาก: The Blitz ที่ เมษายน 12, 2010, 02:04:26 pm ---ถามว่าเปราะมั๊ย ผมก็ว่าไม่ถึกเท่าพวกเครื่องตัวอื่นๆ เช่นพวกเครื่องเจหรือแม้กระทั่งเครื่อง 4G63 ถ้าเป็นพวก EJ เดิมๆรุ่นเก่าๆหน่อย ก็น่าจะสู้เค้าไม่ค่อยได้ เพราะจุดเด่นของเครื่อง EJ ไม่ได้อยู่ที่ความถึกและรับแรงม้าได้เยอะๆ (แต่ถ้าจะให้รับได้เยอะๆ ถามทำได้มั๊ย คำตอบคือ ได้ แต่ต้องทำและทำให้ครบๆด้วย) ข้อดีของเครื่อง EJ ก็อย่างที่รู้กันก็คือมันเป็นเครื่องสูบนอน เวลาวางลงไปทำให้จุด CG อยู่ต่ำ บาลานซ์ดี แต่คอแดงรุ่นใหม่ๆก็พัฒนาความแข็งแรงเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างถ้าพวกเครื่องตั้งแต่ GD ขึ้นไปนี่รับม้าได้ 400 ตัว สบายๆ แต่อย่าเกินน๊า ส่วนเกียร์เนี่ยถ้าเป็น 5 สปีด โดยเฉพาะรุ่นเก่าๆก็เปราะจริงอีกนั่นแหล่ะ โดยเฉพาะยิ่งพวก 3.9 กับ 4.1 close อะไรทั้งหลาย แต่พอเป็น 6 สปีดแล้วนี่เห็นพังกันน้อยมาก พูดง่ายๆว่าแทบไม่เห็นเลย ใครขับ 6 สปีดแล้วพังนี่ถือว่าไม่ธรรมดา มันถึกมากพอสมควรทีเดียว ผมว่าส่วนใหญ่ที่พังก็เพราะใช้อุปกรณ์อย่างไม่ถูกกับวัตถุประสงค์ของมัน อย่างถ้ารถแรงมากๆก็ควรใช้เป็นเกียร์ 6 สปีดที่มีความแข็งแรงทนทานกว่า ไม่ใช่ไปจับกับ 5 สปีด พอพังก็บอกว่าเปราะ ส่วนเรื่องโอเวอร์ฮอลถ้าไม่ได้ทำอะไรมากซัก 100,000 โลหรือกว่านั้นหน่อยค่อยโอเวอร์ฮอลก็ได้ครับ ขอให้ขับอย่างสบายใจได้เลยครับ รับรองถ้าไม่ซนไม่พังง่ายๆครับ      

--- End quote ---
emo65o emo65o  

กูรูด้านฝูงม้ามาตอบเอง อ่านแล้วฉบายจัยไปเยอะ emo64o emo64o emo64o

thor111:
ผมว่ารถซูบารุเป็นรถที่ทนทานอย่างมากยี่ห้อนึงนะครับ เพียงแต่ผู้ใช้ต้องเข้าใจ Character ของรถและใช้รถให้เป็นครับ

ซูบารุไม่ใช่รถที่ต้องใช้รอบสูงมากนัก Powerband ของรถไม่ได้สูงแบบเครื่อง N/A วาล์วแปรผันที่ต้องลากกัน 9,000 รอบเพื่อให้รถวิ่ง

Power Band ของซูบารุส่วนใหญ่ไม่น่าจะเกิน 7000 รอบในคอขาว และ 7500 รอบในคอแดง ดังนั้นไม่ควรจะลากรอบเกินไปกว่านั้นเพราะเมื่อมันหลุด Power Band รถไปแล้วอย่างเดียวที่จะรู้สึกได้คือความสะใจครับ ที่ได้มองเข็มวัดรอบบนหน้าปัดว่า เราลากได้ 8,000 เราลากได้ 9,000......แต่สิ่งที่จะพังตามมาคือ ชาร์ฟครับที่อาจจะละลายคาเท้าเราให้ดูเลย

ซึ่งวิธีการสังเกตุ Power Band ของรถคือลองจับอาการดูว่ารถเราเครื่องเริ่มตื้อๆ ที่กี่พันรอบ นั่นแหล่ะคือถึงเวลาเปลี่ยนเกียร์แล้วครับซึ่งวิธีนี้ก็เป็นเพียงการกะคร่าวๆ ประมาณๆ เอาครับ แต่ถ้าจะเอาแน่ เอาชัวร์ แนะนำว่าให้เอาไปขึ้น Dyno ดูครับ แล้วจะรู้ว่ารถเรา Power Band อยู่ที่รอบประมาณเท่าไหร่ ถึงเท่าไหร่ครับ........ซึ่งจากประสบการณ์ของผม ผมจะทอนการเปลี่ยนเกียร์ลงมาอีกนิดหน่อยเพื่อเป็นการรักษาเครื่องยนต์ โดยคอขาวก็จะเปลี่ยนเกียร์ที่ประมาณ 6500 รอบ ส่วนคอแดงก็เปลี่ยนประมาณ 7000 รอบครับ

ส่วนเรื่องที่เค้าบอกกันว่าเกียร์ของซูบารุนั้นเปราะ ผมว่ามันก็ไม่ได้เปราะอะไรขนาดนั้นนะครับ เพราะอย่างผมที่ใช้ GC กับเกียร์ 4.1 ซึ่งคนทุกคนบอกว่า เฮ้ยยยย เกียร์มันเปราะนะ เปราะที่สุดของเกียร์ GC........ผมก็ใช้มาไม่เคยมีปัญหาอะไรนะครับ เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานมาแล้ว มันก็ทนเอาเรื่องเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นเกียร์ 6 สปีด ซึ่งชิ้นส่วนมีความแข็งแรงมากกว่าเยอะ ก็ยิ่งน่าจะทนขึ้นไปอีก (อยากใส่เหมือนกัน แต่เหมือนแบกสาวอวบๆ ขึ้นรถมาด้วยอีก 1 คนนี่สิ)




ผมว่าทั้งหมดทั้งนี้อยู่ที่การใช้รถของเรา อยู่ที่การดูแลรถของเรามากกว่าครับ เช่น เครื่องหรือระบบขับเคลื่อนผมว่าก็เปลี่ยนถ่ายของเหลวให้ตามระยะ อุปกรณ์สิ้นเปลืองเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยน รถเค้าก็จะอยู่กับเราโดยไม่งอแงแล้วครับ


ส่วนเรื่อง Reflash กล่อง....มันก็แค่เป็นการ Re Program กล่อง ECU ให้มันมี Efficiency ที่ดีกว่าเดิมครับ...ซึ่งไม่แตกต่างจากการใส่กล่อง Stand Alone ซักเท่าไหร่เพียงแต่ Function บางตัวที่ Stand Alone ทำได้ กล่อง Reflash ยังทำไม่ได้แค่นั้นเอง

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป