General Discussion > Siam Subaru Society Forum
ใจไม่ใหญ่ครับ ขอยกเลิกการขาย ต้องการของคืนทุก**ชิ้นครับ (มีรูปสินค้าแล้วครับ)
The Blitz:
งานนี้อ้างไม่ขึ้นครับ คุณเอาของเค้าไป คุณต่างหากที่น่าจะเป็นคนต้องคอยติดต่อเค้า ไม่ใช่ต้องคอยให้เค้ามาทวง แล้วตอนเอาไปไม่คุยเรื่องราคากันให้รู้เรื่องแต่คุณก็ยังกล้าเอาของเค้าไปเนอะ แถมเอาไปใส่แล้วด้วย รีบเอาของมาคืนเค้าจะได้จบๆไป
suby_ja:
ใจเย็นๆ กันหน่อยครับ พี่น้อง ครับ
ผมขอออกความเห็น แบบเป็นกลางครับ
อย่าไปซ้ำกันมากครับ
เดี่ยว เรื่อง ของเรื่อง อาจจะไม่ใช่เรื่อง แล้ว มันจะเป็นเรื่องครับ
เท่าที่ อ่านๆ มา ผมเข้าใจคนขาย เลยนะครับ ว่าจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเกิดกับ ตัวเอง
แต่ ลองมอง อีกมุม คนซื้อ อาจจะมีความ จำเป็น จริงๆ ก้ได้ นะครับ อันนี้ ผมขอพูด แบบ ใน ขณะที่ ผมไม่ได้อยู่ด้วยกัน ขณะนั้นตอน ซื้อขาย กันนะครับ แล้ว ก็ไม่รู้จักกัน ทั้ง 2 ท่านเลยด้วยครับ
ถ้า คนผิดๆ จริง ผม เชื่อ ว่า ยังไงเรา ก็ยังมี กฏหมาย รองรับ ให้ ผู้ กระทำผิด ชดใช้ ค่า ความเสียหายครับ เมื่อถึงตอนนั้น ค่อย ว่ากันผมว่า ก็ ยังไม่สายครับ
ยังไง รบกวน ผู้ ซื้อ ติดต่อ ผู้ขาย เพื่อ ที่จะ clear ตัวเองด้วยนะครับ เพื่อ แสดงความ บริสุทธ์ครับ
เพราะ หาก ให้ มอง แบบ คร่าวๆ โดยที่ผม ไม่รู้ในรายละเอียด นั้น หาก ท่าน ได้ นำสิ่ง ของๆ ผู้อื่นไป โดย ไม่ได้ ชำระเงิน กัน เป็นที่ เรียบร้อย ผมว่ามัน ก็ไม่ค่อย งามสักเท่าไหร่ หากมองในสายตา บุคคลอื่น
ท่าน อาจจะ เป็น ฝ่ายถูก ก็ได้ ถ้า มีการนำสืบกันจน ถึงที่สุด แต่ขณะนี้ คุณยังเป็น แค่ผู้ถูกกล่าวหา อยู่ครับ หมายความว่า คุณ สามารถ พิสูจน์ ตัวเอง ได้อยู่ครับ
แต่เงื่อนไขที่ตกลงกัน อันนี้ ผมไม่ทราบ
เพราะ อย่างนี้ ทางที่ผมคิดว่าดีที่สุด ท่าน ควร ที่จะ แสดง เจตนา ต่อ ผู้ ขาย คือ คุณ บิว เป็นการด่วนจะดีที่สุดครับ
ไม่ต้อง สาธารณะ ก็ได้ เพราะ ประโยชน์ ไม่เกิด แก่ บุคคล อื่นครับ มีแต่ ตัวท่านเองเท่านั้น ที่จะ ดี หรือ ร้ายครับ ......... แต่ ตอนนี้ ผมว่า ร้ายนะ
เพราะฉนั้น รีบ แก้ไขครับ
ส่วน ผู้ขาย หาก ผู้ ซื้อ ผิดจริง ช้อโกง ผิดนัดชำระ ไม่รับผิดชอบ ก็ ดำเนินการ ตามเห็นควรเลยครับ ผมก็เห็นว่าเป็นการ เหมาะสมครับ
แต่ก้ ไตร่ตรองกันให้ดีๆ ทั้ง 2 ฝ่ายนะครับ
ผม ยัง ยืนยัน ว่า อย่างให้ เรื่อง ของทั้ง 2 ท่าน จบลงด้วยดีครับ
wildstocks:
ซื้อขายสินค้าทางเน็ต พ่อค้าเลวก็มี ลูกค้าเลวก็มี กะจะต้มตั้งแต่แรกก็มี พอมีโอกาสแล้วฉวยโอกาสเอาเปรียบเราก็มี
กรณข้างต้นนี้ผมไม่ได้กล่าวว่าใครผิดใครถูกครับ ส่วนข้อแนะข้างล่างเป็นเพียงข้อแนะนำที่หากผมเป็นฝ่ายผู้ขายเอง
จะทำอย่างไร
กรณีข้างต้น น่าจะเป็นแบบที่ไม่น่าจะต้องใจตั้งแต่ แรกแต่เห็นด้วยโอกาสจึงใช้เอาเปรียบผู้ขาย เหมือนยืมเงินเพื่อนแล้วไม่คืน
ซึ่งวิธีการดำเนินคดี ไม่เข้าองค์ประกอบลักทรัพย์แน่ๆ เพราะไม่ได้มีเจตนาทุจริตตั้งแต่แรก และเจ้าของให้ลองก่อนด้วย
เจตนาพิสูจน์ยาก แต่ตามอักษร กรณีเป็นยักยอก เพราะผู้ขายได้มอบการครอบครองในทรัพย์แล้วผู้ซื้อเบียดบังเอาไปเป็นของตน
พยานหลักฐานไม่ว่าเป็นวงจรปิด รูปถ่าย พยานบุคคล ใช้ได้แต่น้ำหนักน้อยมาก จะบอกว่าซื้อขายสังหาริมทรัพย์ ต้องทำสัญญา
ซื้อขาย หากมูลค่าสินค้าเกิน 20,000 บาท หากไม่มีสัญญาก็ต้องมี การวางมัดจำ หรือ การชำระบางส่วนแล้ว
จึงจะถือว่ามีหลักฐานในการซื้อขาย ซึ่งตรงนี้ใช้พยานบุคคลสืบได้ แต่ถ้ามีพยานเอกสารจะน้ำหนักมากกว่า ถ้ามีการคุยกันทาง
PM E-mail หรือ การสื่อสารทางเน็ตทุกอย่างใช้ได้นะครับ พ.ร.บ ความผิดทางคอมพิวเตอร์ห้ามมิให้ปฎิเสธพยานหลักฐานเพราะมาจาก
คอนพิวเตอร์ เพราะฉะนั้น PM E-mail อะไรที่มีเก็บไว้ให้หมดนะครับ
สรุปนะครับ ถ้าจะเอาเรื่องจริงๆ ไปแจ้งความกับเจ้าพนักงานตำรวจ ที่มีมูลคดีเกิด ถ้าเป็นกรณียักยอกก็น่าจะเป็นท้องที่โกดัง
ของคุณนั้นแหละ แจ้งความต้องบอกให้ชัดแจ้งว่า ต้องการร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยประสงค์จะให้ดำเนินคดีนะครับ
อย่าไปหลงกลลงแต่บันทึกประจำวัน แล้วส่วนเราก็หาทนายได้เลย เตรียมเอกสาร หลักฐาน พยานให้พร้อมสรรพ แล้วฟ้องเองด้วยครับ
เผื่อเรื่องอายุความด้วย 3 เดือนเองนะจะทำไรรีบๆหน่อย เมื่อพนักงานสอบสวนเสร็จจะส่งสำนวนไปให้อัยการเขต
ถ้าสั่งฟ้อง เราก็ของรวมคดีกับอัยการ เป็นโจทก์ร่วมได้ครับ แล้วอย่าลืมให้อัยการขอคืนทรัพย์ด้วยครับ ถ้าไม่ขออัยการก็ทำแต่ความผิดอาญาไป
หรือถ้าฟ้องเองทั้งหมด ก็ให้เราเรียกค่าเสียหาย พร้อมเรียกคืนทรัพย์ด้วย เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ก็สะดวกขึ้นฟ้องที่ศาลอาญาทีเดียวไปเลย
ทั้งส่วนแพ่งและส่วนอาญา
จะบอกว่าเห็นใจเจ้าของกระทู้มาก เคยโดนมาก่อนเพราะไว้ใจ คิดว่าคลับเดียวกัน จำนวนเงินไม่ใช่ประเด็นใจมากกว่า
ถ้าจะเอาเรื่องทางกฎหมายได้แน่ แต่เพื่ออะไร ? เงินที่เสียไปเป็นเครื่องวัดคุณค่า วัดกันไปเลยอยู่ร่วมด้วยกันได้ไหม
คุ้มครับถ้ารู้จักตัวตนของคนคนหนึงจากเงินดังกล่าว การศึกษา หน้าที่การงาน ฐานะทางการเงิน ไม่ได้บอกหรอกครับว่าคนจะเลวจะดีแค่ไหน
ของอย่างนี้มันเป็นบุคลิกของปัจเจกแต่ละคนครับ ไม่สามารถเปลี่ยนได้หรอก
ส่วนผู้ถูกกล่าวหา อยากเคลียร์ออนแอร์ก็ได้ หลังไมค์ก็ได้ หรือ จะสะดวกฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาก็ได้ มีหลายวิธีแล้วแต่ระดับความ
พึงพอใจของแต่ละคน
" เรื่องการไว้ใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่ได้สร้างเพียงข้ามวัน อย่าทำให้ความไว้ใจมันหายไปเลยครับ "
kee129:
--- อ้างจาก: wildstocks ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 12:21:25 am --- ซื้อขายสินค้าทางเน็ต พ่อค้าเลวก็มี ลูกค้าเลวก็มี กะจะต้มตั้งแต่แรกก็มี พอมีโอกาสแล้วฉวยโอกาสเอาเปรียบเราก็มี
กรณข้างต้นนี้ผมไม่ได้กล่าวว่าใครผิดใครถูกครับ ส่วนข้อแนะข้างล่างเป็นเพียงข้อแนะนำที่หากผมเป็นฝ่ายผู้ขายเอง
จะทำอย่างไร
กรณีข้างต้น น่าจะเป็นแบบที่ไม่น่าจะต้องใจตั้งแต่ แรกแต่เห็นด้วยโอกาสจึงใช้เอาเปรียบผู้ขาย เหมือนยืมเงินเพื่อนแล้วไม่คืน
ซึ่งวิธีการดำเนินคดี ไม่เข้าองค์ประกอบลักทรัพย์แน่ๆ เพราะไม่ได้มีเจตนาทุจริตตั้งแต่แรก และเจ้าของให้ลองก่อนด้วย
เจตนาพิสูจน์ยาก แต่ตามอักษร กรณีเป็นยักยอก เพราะผู้ขายได้มอบการครอบครองในทรัพย์แล้วผู้ซื้อเบียดบังเอาไปเป็นของตน
พยานหลักฐานไม่ว่าเป็นวงจรปิด รูปถ่าย พยานบุคคล ใช้ได้แต่น้ำหนักน้อยมาก จะบอกว่าซื้อขายสังหาริมทรัพย์ ต้องทำสัญญา
ซื้อขาย หากมูลค่าสินค้าเกิน 20,000 บาท หากไม่มีสัญญาก็ต้องมี การวางมัดจำ หรือ การชำระบางส่วนแล้ว
จึงจะถือว่ามีหลักฐานในการซื้อขาย ซึ่งตรงนี้ใช้พยานบุคคลสืบได้ แต่ถ้ามีพยานเอกสารจะน้ำหนักมากกว่า ถ้ามีการคุยกันทาง
PM E-mail หรือ การสื่อสารทางเน็ตทุกอย่างใช้ได้นะครับ พ.ร.บ ความผิดทางคอมพิวเตอร์ห้ามมิให้ปฎิเสธพยานหลักฐานเพราะมาจาก
คอนพิวเตอร์ เพราะฉะนั้น PM E-mail อะไรที่มีเก็บไว้ให้หมดนะครับ
สรุปนะครับ ถ้าจะเอาเรื่องจริงๆ ไปแจ้งความกับเจ้าพนักงานตำรวจ ที่มีมูลคดีเกิด ถ้าเป็นกรณียักยอกก็น่าจะเป็นท้องที่โกดัง
ของคุณนั้นแหละ แจ้งความต้องบอกให้ชัดแจ้งว่า ต้องการร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยประสงค์จะให้ดำเนินคดีนะครับ
อย่าไปหลงกลลงแต่บันทึกประจำวัน แล้วส่วนเราก็หาทนายได้เลย เตรียมเอกสาร หลักฐาน พยานให้พร้อมสรรพ แล้วฟ้องเองด้วยครับ
เผื่อเรื่องอายุความด้วย 3 เดือนเองนะจะทำไรรีบๆหน่อย เมื่อพนักงานสอบสวนเสร็จจะส่งสำนวนไปให้อัยการเขต
ถ้าสั่งฟ้อง เราก็ของรวมคดีกับอัยการ เป็นโจทก์ร่วมได้ครับ แล้วอย่าลืมให้อัยการขอคืนทรัพย์ด้วยครับ ถ้าไม่ขออัยการก็ทำแต่ความผิดอาญาไป
หรือถ้าฟ้องเองทั้งหมด ก็ให้เราเรียกค่าเสียหาย พร้อมเรียกคืนทรัพย์ด้วย เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ก็สะดวกขึ้นฟ้องที่ศาลอาญาทีเดียวไปเลย
ทั้งส่วนแพ่งและส่วนอาญา
จะบอกว่าเห็นใจเจ้าของกระทู้มาก เคยโดนมาก่อนเพราะไว้ใจ คิดว่าคลับเดียวกัน จำนวนเงินไม่ใช่ประเด็นใจมากกว่า
ถ้าจะเอาเรื่องทางกฎหมายได้แน่ แต่เพื่ออะไร ? เงินที่เสียไปเป็นเครื่องวัดคุณค่า วัดกันไปเลยอยู่ร่วมด้วยกันได้ไหม
คุ้มครับถ้ารู้จักตัวตนของคนคนหนึงจากเงินดังกล่าว การศึกษา หน้าที่การงาน ฐานะทางการเงิน ไม่ได้บอกหรอกครับว่าคนจะเลวจะดีแค่ไหน
ของอย่างนี้มันเป็นบุคลิกของปัจเจกแต่ละคนครับ ไม่สามารถเปลี่ยนได้หรอก
ส่วนผู้ถูกกล่าวหา อยากเคลียร์ออนแอร์ก็ได้ หลังไมค์ก็ได้ หรือ จะสะดวกฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาก็ได้ มีหลายวิธีแล้วแต่ระดับความ
พึงพอใจของแต่ละคน
" เรื่องการไว้ใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่ได้สร้างเพียงข้ามวัน อย่าทำให้ความไว้ใจมันหายไปเลยครับ "
--- End quote ---
emo65o emo65o emo65o
เยี่ยมมากครับ เป็นกลางดี ชอบๆๆ
JC:
ผมก็เป็นอีกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ และรู้สึกแย่กับการกระทำของผู้ซื้อมากครับ emo66o
ที่มาบอกว่า พี่บิวเค้าหน้าใหญ่ ที่ให้เอาของไปลอง....
อย่างที่หลายๆท่านบอกครับ มันไม่ใช่พี่เค้า หน้าใหญ่ หรือ โชว์พาว อะไรที่คุณพูดแต่มันคือ ความไว้ใจ และความรู้สึกดีๆ ที่ชาวซู เค้ามีให้กัน ในฐานะที่เรา รัก และ ชอบในสิ่งเดียวกัน
คือ " SUBARU "
ซึ่งตัวผมเองก็เคยได้รับ สิ่งเหล่านี้มาเหมือนกัน ทั้งๆที่เพิ่งใช้ซูมาได้ไม่กี่เดือน
แต่การกระทำของคุณ มันอาจทำให้สิ่งดีๆเหล่านี้หมดไป.....
อย่าทำให้สิ่งดีๆ ในสังคมดีๆ เค้าเสื่อมเสียเพราะคนๆเดียวเลยครับ
ทางที่ดี รีบมาเคลียร์ทุกอย่างให้มันจบๆดีกว่าครับ ...... emo58o
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version