General Discussion > Siam Subaru Society Forum
มาแชร์ประสบการณ์ขับสี่ช่วยชีวิตกันหน่อยครับ
popdemonic:
อารัมภบทก่อน อ้ายตัวผมส่วนตัว เคยขับรถทั้งขับสองล้อหน้า สองล้อหลัง (ถ้ามีสองล้อกลางคงจะหามาขับด้วย :laugh:)
ประสบการณ์ที่ผ่านมาคือ ก็เคยหมุน ชนเละมาแล้วทั้ง สองชนิด แต่กับขับสี่เนี่ยยังไม่เคย(เคยแต่เกือบๆ)
โดยส่วนตัว ผมไม่ใช่คนที่ขับผาดโผนเหมือนขับรถไต่ถังนัก เลยอาจจะไม่เคยรู้สึกว่า อืมมมม อ้ายรถขับเคลื่อน
สี่ล้อทั้งหลายเนี่ย มันต่างจากรถขับเคลื่อนสองล้อยังไงบ้าง!!?? ผมเชื่อว่าหลายๆท่านก็คงต้องเคยคิดเหมือนผม
เหมือนกันเน้อ..
สิ่งที่พอจะมองออกของข้อดีของขับสี่คือออกตัวแล้วล้อมันไม่ฟรีเลย เออดีจัง ส่วนข้อเสียคือรถมันหนักขึ้นแล้วก็
กินน้ำมันค่อนข้างดุเดือดกว่ารถรุ่นเดียวกันในรุ่นที่เป็นขับสองล้อ จนเมื่อซักครู่ที่ผ่านมา..........
นาทีระทึกเพิ่งเกิด ท้าวความไปซัก 3 วันก่อน พอดีได้ของเล่นมาใหม่ คือปรับบูสต์ไฟฟ้า Greddy E-01
ที่ผมมาโพสต์ถามนู่นๆนี่ๆอยู่หลายกระทู้จนรกบอร์ดไปหมดแระ :laugh: หลังจากจัดการยัดเยียด
เจ้าตัวนี้ลงรถ พร้อมกับมือแหกระนาวไปหลายแผล แถมยังเซ็ตอัพค่าต่างๆไม่เป็นเท่าไหร่
แต่พอจะรับรู้ได้ว่า เจ้าตัวE-01 นี่มันไฮโซจริงๆ กดออกมาMenuมีอื้อเลย แต่เข้าเป็นอยู่ 2 อันเท่านั้นแหละ
อย่างว่าครับ ตอนซื้อก็เอาน่า แพงกว่า แต่มันได้จอใหญ่กว่าวู้ย เหมือนตอนสมัยซื้อทีวีจอแก้ว เมื่อซัก15 ปีก่อน
ตรูไม่รู้ว่าชัดไม่ชัด ตรูเน้นจอใหญ่ไว้ก่อน รีโมทเน้นปุ่มเยอะ มันดูขลังค์ดี :embarass:
จนเมื่อซักครู่ฝนก็ตกปรอยๆพื้นแฉะๆ โดยปกติผมจะไม่ขับรถเร็ว เพราะเมื่อเมษา ที่ผ่านมา
ผมเอารถเบนซ์บ้านไปหมุนแล้วไปผสมพันธุ์กับรถเบนซ์คนอื่นกลางทางด่วนเละมาแล้วเพราะ
ยางมันเก่าจนไม่เกาะแล้ว อันนี้ต้องพึงระวังครับ...
โอเค หลังจากไปทำธุระเสร็จก็ขับออกจากปั๊มมุ่งหน้ากลับบ้าน ด้วยความที่จิตหงุดเงี้ยวว่า
ตรูเซ็ตอะไรผิดป่าวหว่า ทำไมจังหวะที่เรากดคันเร่งเต็มที่ รอบจะกวาดขึ้นไปแต่ดันไปค้างๆ
แถวๆ6000 รอบ ซึ่งเป็นช่วงที่มันจะเปลี่ยนเกียร์(6250รอบ) โยปกติมันจะลื่นและก็เปลี่ยนเกียร์
เลย แต่ทำไม พอใส่E-01 แล้วมันดันไปแถว6000รอบ แล้วก็ค้างๆอยู่นานกว่าปกติรอบที่ค่อยหวด
ขึ้นไปถึงจุด...... ที่เกียร์จะเปลี่ยน(ไม่ใช่จุดอย่างอื่น จุดอย่างอื่นลื่นปรื้ด แล้วปรี้ดทันที) :supergrin:
ช่วงจังหวะที่เราลองก็ลองกดเต็มที่เพราะถนนว่าง เราก็กดมาเต็มดอกเลยบูสต์ก็ดีดขึ้นไปที่1.5บาร์
ช่วงนั้นมีคอสะพานข้ามลำรางเล็กๆ ซึ่งมันจะสามารถ ทำให้รถกระเดิดได้(กระเดิด= รถดีดแต่ไม่ถึงรถกระโดด :spiny:)
ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่รถมันหลับหูหลับตาพุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ความเร็วไม่สูงมาก ผมสังวรณ์อยู่เสมอว่า
รถความเร็วสูง จะหยุดง่ายกว่าช่วงที่รถมันทอล์คมันกำลังมาสูงๆ จังหวะนั้นเราก็กำลังดูว่า อืมม เกียร์มันจะเปลี่ยนมั้ย
ประมาณว่าขอจมเท้าอีกนิดนึงแล้วกัน ถนนหนะมันมี 3 เลน ปกติเราก็ว่าอืมม กว้างแล้วเนอะ(ภาวะคับขันผมเชื่อว่า
นาทีนั้นคงอยากขอให้ถนนมันมีซัก 6 เลนทีเถอะ สาธุ :laugh:) ช่วงจังหวะทีรถมันกระเดิดลงมา ป้าดตีโธ่ ดั๊นไปจะเอ๋
กับหนุ่มมอเตอร์ไซด์ฮ่าง กระทาชายไม่สามารถระบุนาม เฮียแกขี่ฟีโน่ฝ่าสายฝนปรอยๆ แบบว่าอย่างชิลเลยแก ดั๊น
ขี่คร่อมเลนส์ อยู่ตรงเส้นประถนนระหว่าง เลนส์ที่ 2 กับเลนส์ที่ 3 (อ้ายคนพวกนี้คบไม่ได้ เพราะท่าทางจะชอบเหยียบ
เรือสองแคม :disagree:) ส่วนอ้ายเราหนะหรอ กระทืบเบรคลงไปแระ....
!@#$หาย แหมม่ะตะกี้ตรูออกจากปั๊มครายมันมาปล้นเบรครถตรูไปว่ะเนี่ย ผมเหยียบเบรคแต่รถมันยังไถลแบบ
ว่า เข็มความเร็วไม่ลดเลยแฮะ นาทีนั้น ไม่ได้คิดถึงอะไรเลยครับ อยากรู้มั้ยผมคิดอะไร....
ผมคิดอยู่อย่างเดียว เฮ้ยรถตรูต่อประกันรึยังเนี่ย?? :supergrin: เพราะคิดในใจว่าสงสัยถ้าเรา
ไม่อัดถั่วดำ หนุ่มมอเตอร์ไซด์ฮ่าง เราก็คงหมุนอยู่แถวๆ ฟุตบาทตรงพระราม2 เนี่ยแหละว้า
วินาทีหลังจาก คิดได้แล้วว่า เออ รถตรูมีประกันชั้น1 ของกรุงเทพอยู่ โอเช ผมหักหลบหนุ่มแวนซ์
ที่ขี่แบบหวานเย็น ตากฝนปรอยๆ มาอยู่เลนส์กลาง แบบกระทันหัน ในใจก็คิดเอาแล้วตรู
ตรูดรถตรูจะเบ้ซ้าย หรือเบ้ขวาดีเนี่ย เพราะถนนมันเจิ่งๆนองๆเลย แถมเรามาแบบกำลัง
รถกำลังทะยานอยู่เลย.....
ช่วงจังหวะนั้นผมเหลือบเห็นมีมอเตอร์ไซด์ที่วิ่งอยู่ริมถนนฝั่งซ้าย แกเห็นเหตุการณ์แกอ้าปากค้างหวอเลย
ส่วนผมหนะเหรอ... หึหึ บอกตรงๆว่านึกไม่ออก เพราะ ไม่ทันได้นึกอะไรแล้ว ในขณะที่ผมหักออกมา
อ้ายสิ่งที่ผมลุ้นซะกรวยไตแทบอักเสบ กลับกลายเป็น เหตุการณ์ปกติเลย รถไม่มีอาการอะไรเลย
ไม่ต้องแก้อาการรถ ไม่ต้องแก้บน อะไรเลย :agree: รถมันเปลี่ยนเลนส์ออกไปนิ่มๆ ไม่มีอาการอะไรเลย
ผมไม่รู้ว่า อะไรช่วยผมไว้ จะเป็นเพราะพระช่วย ก็ไม่ได้แขวนพระซักองค์ แถมจังหวะนั้น ไม่รู้ว่าพระ
กระโดดออกตั้งแต่รถมันกระเดิดคอสะพานไปแล้วรึยัง แต่จากประสบการณ์ที่เคยลองขับรถแล้ว
ชอบมองถนนแบบ360 องศาView มาหลายรอบ แม้กระทั่ง อ้ายรถที่มีระบบ ASC ASC T DSC
ABS TDC TRC ABC DEF !@#$% อะไรก็ช่างมันเถอะ เยอะเหลือเกิน สมัยก่อนเพื่อนเป็นเซลล์
ขายBMW มันต้องท่องอ้ายระบบตัวย่อนี่ให้แม่นกว่าจำโพยเข้าห้องสอบสมัยเรียนอยู่มหาลัยซะอีก :laugh:
ผมว่ามันก็คงช่วยได้ แต่ภายใต้สภาวะ แบบนี้ ผมเชื่อว่า มันก็คงเอาไม่อยู่เหมือนกัน ส่วนตัวผมเชื่อว่า
ที่มันยังรักษาอาการรถได้ น่าจะมาจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่มันช่วยชีวิต.... ไม่ใช่ผม แต่เป็นเจ้า
แวนซ์บอย สกอยเกิร์ล คนนั้นมากกว่านะ ผมไม่เคยได้เห็นประโยชน์ของเจ้าระบบ 4WD มาก่อนเลย
จริงๆ จนเมื่อซักครู่นี่แหละที่ได้เห็น เพราะเดือนก่อน พี่ผมก็เพิ่งเอารถที่มีระบบ อ้ายตัวย่อเยอะๆนี่แหละหักหลบ
แวนซ์บอย ที่มันปาดหน้าออกมาเหมือนเหตุการณ์นี้นี่แหละ แถมยางรถ หน้ากว้างขนาด 275 เปลี่ยนมา 2 วัน
สุดท้ายหน้ารถไปจูบกำแพง ตูดสะบัด ตบแวนซ์บอยลงไปจมคูน้ำ แมกซ์เอาปีหน้า(Alpina )ม้วนออกมานึกว่าแยมโรล
เจอค่าซ่อมไป 7 แสนประกันคืนซาก............. ตามระเบียบ(อีกแระ) จากเหตุการณ์นี้ผมเลยกลับมานั่งคิดว่าสุดท้าย
แล้วระบบต่างๆ ยังไงต่อให้เค้าต่อพ่วงระบบไฟฟ้าควบคุมเยอะแยะแค่ไหน ยังไงมันก็ยังสู้ระบบที่มันมีพื้นฐาน
Mechanical based ที่ดีกว่าไม่ได้ ในกรณีนี้ ผมกล่าวรวมหมายถึง รถที่ขับสอง กับขับสี่ ตรงนี้ผิดถูก โดยข้อเท็จจริง
ผมไม่ทราบ ในความเป็นจริงรถขับสองอาจจะทำได้ดีกว่าขับสี่ก็ได้ แต่อันนี้ขออนุญาตอ้างอิงจากสิ่งที่ผมเจอมา
เลยขอแชร์ในส่วน ด้านมุม ประสบการณ์ กับสิ่งที่เจอมา อ้าวอย่ามัวแต่อ่านที่ผมนั่งโม้เพลิน มาแชร์กันหน่อยซิ
ว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบประมาณว่า Real TV แล้วรอดกันมาบ้าง ....
ส่วนตัวเท่าที่เจอส่วนใหญ่พวกรถขับสี่หากหลุดแล้ว :cranium: :cranium: :cranium: :cranium: ทั้งนั้นเลย
Momo Ko:
เคยแต่กับขับสองหน้า หรือสองหลัง นี่ประจำ โดยเฉพาะสองหลังเคยเจอตูดแหกโค้งมาประมาณ 4 เที่ยวได้
ส่วนขับสี่ตั้งแต่ได้มาปีกว่าๆ ยังไม่เคยมีเหตุการ์ณหวาดเสียวอันใดเลย
อาจเป็นเพราะนิสัยการขับที่เปลี่ยนไป
ผมชอบสำนวนการเขียนของคุณจริงๆเลยครับ....... :agree:
ST@BL3:
อยากจะบอกว่า ทุกคันที่ผมใช้เกิดอุบัติเหตุมาบ้างแล้วทั้งนั้น
แต่ตั้งแต่ใช้เจ้าsuลูกรัก เชื่อไหมว่า.. ผมไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ
แม้แต่ครั้งเดียว หรือเสี้ยวเดียว ปีนี้ปีที่7 สำหรับซูฯลูกรัก
อุบัติเหตุไม่เคยเจอะเจอสักที และไม่อยากจะเจอสักครั้ง 55
เรื่องแบบนี้ผมคิดว่าสมรรถนะของคนขับมีส่วนเกี่ยวข้องที่สุด
และสมรรถนะของรถที่เราขับเอง ก็ต้องเอื้ออำนวยด้วยครับ
คนขับ และ รถ ต้องอยู่ในสถานะที่พร้อมด้วยกันทั้งคู่ :clown:
Sinz:
--- อ้างจาก: ready..GO!!! ที่ กันยายน 05, 2009, 01:20:05 am ---อยากจะบอกว่า ทุกคันที่ผมใช้เกิดอุบัติเหตุมาบ้างแล้วทั้งนั้น
แต่ตั้งแต่ใช้เจ้าsuลูกรัก เชื่อไหมว่า.. ผมไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ
แม้แต่ครั้งเดียว หรือเสี้ยวเดียว
:smokin:
--- End quote ---
ประสบมากับลูกชายสุดที่รักมาเเล้ว หักหลบรถที่ขวางถนนอยุ่
ถ้าไม่ใช่น้องซูคงมีกลางลำ เจบหนักกันไปข้างนึง แต่เปนน้องซูผมเลยรอดมาแบบครบ 32 (ไม่อยากคิดภาพว่าซัดกลางลำไป คงไม่ได้มานั่งพิมอยุ่ละมั้ง เนี่ย)
แต่ลูกชายผม(น้องซู)บาดเจบสาหัส (หักสุดแล้วแต่ก้หลบไม่พ้นโดนเกี่ยวท้ายรถ) หมุดไปฟาดกำแพง นอนอู่ไปหลายเดือน
ตอนนี้หายป่วยดีเเล้ว ขับรถปลอดภัยครับพี่ๆทุกคน ช่วงนี้ฝนตกบ่อยคับ
CHUND:
เรื่องอย่างนอกจากรถดีแล้ว ต้องอาศัยดวงด้วยครับ
ถ้าจังหวะซวยๆ ก็ตัวใครตัวมันครับ
ขับรถอย่าประมาทนะครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version