Buy & Sell: Accessories > ETC.

CD SLOT PHONE MOUNT ที่วางโทรศัพท์มือถือในรถ แบบเสียบ ช่องซีดี

<< < (3/185) > >>

jigkooffroad:
เมื่อวันที่   23 ธ.ค. 56  กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกได้ในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นต่อไปจนถึงช่วงปีใหม่

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-26 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-6 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-25 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : มีเมฆบางส่วน ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่ง คลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

jigkooffroad:
ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา รายการ ไอที 24 ชั่วโมง ครอบครัวข่าว 3 และ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พาผู้โชคดีที่ร่วมกิจกรรมและสื่อมวลชนไปศึกษาเทคโนโลยีที่สาธารณรัฐเกาหลีใต้

เมื่อถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เกาหลีใต้ สิ่งที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคปัจจุบันคือ อินเทอร์เน็ต และบริการไวไฟฟรี ซึ่งในพื้นที่ของสนามบินอินชอนก็มีบริการไวไฟฟรีด้วยเช่นกัน

โดยการให้บริการไวไฟฟรีของเกาหลีใต้ ไม่ใช่เฉพาะสนามบินเท่านั้น แต่ในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็มีบริการไวไฟฟรีเช่นกัน โดยการให้บริการไวไฟฟรีถือเป็นเรื่องปกติเพราะหลาย ๆ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ให้บริการเช่นกัน แม้แต่ประเทศไทย

แต่ประเทศไทยจะติดตรงที่ขั้นตอนความยุ่งยากของการเชื่อมต่อและความเร็วที่ให้ใช้บริการ แต่เกาหลีสามารถล็อกอินได้โดยอัตโนมัติ เมื่อเจอสัญญาณและสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่เคยตกอยู่ในภาวะลำบากขัดสนและคุ้นเคยกับสงครามถือเป็นอดีตที่ขื่นขมมากกว่าประเทศไทย แต่วันนี้กลายเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าถือว่าล้ำหน้ากว่าประเทศไทย และปัจจุบัน           

นักโทรคมนาคมไทยต้องเดินทางมาศึกษาเทคโนโลยีถึงประเทศเกาหลีทั้งนี้ รายการ ไอที 24 ชั่วโมง ได้พาไปดูเทคโนโลยี 4 จี แอลทีอี แอดวานซ์ ของ บริษัท เอสเค เทเลคอม  ถือเป็นยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมเกาหลีใต้ สามารถรับส่งข้อมูลความเร็วสูงสุด 120-150 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps)เป็นความเร็วที่เหนือกว่า 4จี ปกติที่ให้บริการในหลายประเทศมากกว่า 2 เท่าตัว

โดยเอสเค เทเลคอมเปิดให้บริการผ่านย่านความถี่ 800 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ โดยปัจจุบันมี 3 ประเทศทั่วโลกที่ใช้งานแล้วคือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลี โดยเกาหลีเริ่มใช้ช่วงเดือน มิ.ย. 2554 ขณะที่ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ใช้งานย่าน 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์

เอสเค เทเลคอม ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมด 12 ล้านราย จากประชากรประมาณราว 50 ล้านคน ที่ใช้งานผ่านโมบาย บรอดแบนด์ สมาร์ทดีไวซ์ ในครัวเรือน เพื่อควบคุมการใช้งานเทคโนโลยีภายในบ้าน อาทิ ทีวี วิทยุ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น การควบคุมการเปิด ปิด ประตู

สำหรับเทคโน โลยีเด่น ๆ ที่ เอสเคเทเล คอม นำเสนอ คือ การจำลองบ้านแห่งอนาคต ที่ใช้ 4 จี แอลทีอี แอดวานซ์ สั่งงานผ่านอุปกรณ์พกพา สามารถสั่งให้รถวิ่งไปยังจุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องใช้มือควบคุมพวงมาลัย มีการสั่งซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านแอพพลิเคชั่นโมบายด้วยการวัดขนาดตัวของผู้ใช้งานออกมาเป็นแบบจำลองได้เท่าขนาดของจริง เป็นต้น สร้างความเพลิดเพลินให้กับสมาชิกในครอบครัวกับมุมต่าง ๆ ในบ้าน  1 หลัง

ดร.เจษฎา ศิวรักษ์ เลขานุการประจำรองประธาน กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการโทรทัศน์ (กทค.) เล่าว่า หากจะเปรียบ เอสเค เทเลคอม กับผู้ให้บริการโมบาย และบรอดแบนด์ในเมืองไทย จะเปรียบได้กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ให้บริการทั้งโมบาย และ บรอดแบนด์

สำหรับ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในเกาหลี ถ้ากลุ่มโมบายถือว่า เอสเค เทเลคอม เป็นเบอร์ 1 ในด้านโมบาย โดยให้บริการ 4 จี แอลทีอี แอดวานซ์

สำหรับแนวทางการจัดสรรคลื่นความถี่ 4จี แอลทีอี ของประเทศไทย คาดว่า สมาคมโทรคมนาคมนานาชาติหรือไอทียู จะสรุปแนวทางภายในปีนี้ว่าจะต้องประมูลได้เมื่อไหร่

ทั้งนี้ จากการศึกษา การเปิดให้บริการ 4จี แอลทีอี ในหลาย ๆ ประเทศ ทำให้ กทค.มีแนวคิดที่ไม่อยากประมูลแค่ 4จี แอลทีอี แต่จะประมูล 4 จี แอลทีอี แอดวานซ์ โดยนำคลื่น 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ มาเปิดประมูลพร้อมกัน เพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมประมูล

?ปัจจุบันคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่เอกชนถืออยู่ก็นำมาให้บริการ 4 จี ได้ ซึ่งหากเราประมูล 4 จี แอลทีอี แอดวานซ์ จะทำให้ความเร็วสูงกว่า 4จี แอลทีอี ถึง 2 เท่า และยังช่วยลดการลงทุนซ้ำซ้อนของผู้เข้าร่วมประมูลด้วย?

ถึงแม้ว่าเกาหลีใต้จะเป็นประเทศที่เคยยากจนถึงขีดสุด ๆ แต่สิ่งที่คนเกาหลีให้ความสนใจคือ การศึกษา และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ รัฐบาลให้การสนับสนุนในเรื่องของเทคโนโลยีอย่างจริงจัง.

กัญณัฏฐ์ บุตรดี

jigkooffroad:
?วิทยาศาสตร์การกีฬา? ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในวงการกีฬา เนื่องจากเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้นักกีฬาทั้งมือสมัครเล่น และมืออาชีพ  ได้ประสบความสำเร็จในการฝึกซ้อมและแข่งขัน

ทาง กรมพลศึกษา ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ ก็มีนโยบายที่จะใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าไปช่วยในทุกมิติ ในขณะเดียวกันยังส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ที่สนใจสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การกีฬาขึ้นมา เพื่อลดต้นทุนในการนำเข้านวัตกรรมและเครื่องมือต่าง ๆ จากต่างประเทศที่มีราคาค่อนข้างสูง จึงได้จัดการประกวดนวัตกรรมวิทยาศาสตร์การกีฬาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้พัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าประกวด

ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน รองอธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กรมพลศึกษายังเป็นหน่วยงานแรกที่คิดริเริ่มในการประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งกิจกรรมการประกวดนี้ได้มีการจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และมีการแบ่งประเภทการประกวดออกเป็นประเภทต่าง ๆ คือ ประเภทอาชีวศึกษา ประเภทอุดมศึกษา และประเภทต้นทุนต่ำ และในอนาคตอันใกล้นี้กรมพลศึกษามีความมั่นใจว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้จะสามารถนำไปต่อยอดและใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ รวมถึงสามารถนำไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ในอนาคต

ทั้งผลการประกวดในปีนี้ รางวัลชนะเลิศในประเภทอาชีวศึกษา ได้แก่ผลงาน  ?เครื่องพัฒนาประสิทธิภาพนักกีฬาพายเรือ? ของทีมพิกุลนรา จาก วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส  ส่วนรางวัลชนะเลิศประเภทอุดมศึกษา ได้แก่ผลงาน ?เครื่องวัดมุมข้อเข่าสำหรับวิทยาศาสตร์การกีฬา?  ของทีม  MU TEAM จาก มหาวิทยาลัยมหิดล และสุดท้าย รางวัลชนะเลิศประเภทต้นทุนต่ำ ได้แก่ ?เครื่องประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อให้ความมั่นคงของลำตัว?  ของ น.ส.วิภาดา ฉอ้อนครบุรี จากโรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา

นายจตุรพล นวภูษณะกนก ตัวแทนทีมพิกุลนรา วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส ผู้ชนะเลิศประเภทอาชีวศึกษา กล่าวว่า ผลงานที่พัฒนาขึ้นเกิดจากที่จังหวัดนราธิวาสมีการแข่งขันพายเรือประจำปี และทางวิทยาลัยได้ส่งทีมเข้าแข่งขันทุกปี ปกติการซ้อมพายเรือต้องซ้อมเป็นทีม แต่เครื่องพัฒนาประสิทธิภาพนักกีฬาพายเรือนี้สามารถฝึกซ้อมคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบทีม โดยผลงานชิ้นนี้ใช้ระยะเวลาในการผลิตและทดลองเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งเครื่องพัฒนาประสิทธิภาพนักกีฬาพายเรือนี้จะสามารถฝึกฝนให้นักกีฬามีประสิทธิ ภาพในการพายเรือ และในอนาคตจะมีการพัฒนากลไกการดึงสปริงให้สอดคล้องกับการพายและพัฒนาทิศทางการพายให้เหมือนจริงมากขึ้น?

ด้าน น.ส.อารยา อารีสกุลสุข ตัวแทนทีม MU TEAM มหาวิทยาลัยมหิดล เจ้าของรางวัลชนะเลิศประเภทอุดมศึกษา กล่าวว่า ทางมหา วิทยาลัยมหิดลมีการพัฒนางานวิจัยและต่อยอดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปทางด้านการแพทย์ และทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูสำหรับผู้ป่วยที่พิการและผู้ป่วยสูงอายุ ทางทีมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและพัฒนาเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริงในราคาที่ถูก วัสดุต้องหาได้ในประเทศไทย เป็นฝีมือของคนไทยที่พัฒนางานนวัตกรรมที่ดี เพื่อทดแทนเครื่องมือที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูง

?เครื่องวัดมุมข้อเข่าสำหรับวิทยาศาสตร์การกีฬาชิ้นนี้ได้ใช้ระยะเวลาในการทดลองและศึกษาเป็นเวลา 1 ปี ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน เป็นเพราะเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ จึงต้องมีการอบรมการวิจัยในมนุษย์ มีการทดสอบจริงกับผู้ป่วย และเมื่อสร้างเครื่องมือเสร็จจะต้องได้รับการรับรองจากแพทย์และสาธารณสุข เพราะเครื่องมือนี้เป็นเครื่องที่สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรงโอกาสน้อยมากที่โรงพยาบาลจะรับรอง เพราะฉะนั้นเครื่องมือต้องได้รับการการันตีและได้รับการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมในคน ซึ่งเป็นใบรับรองในงานวิจัยชิ้นนี้ว่าใช้งานได้จริงมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน? น.ส.อารยา กล่าว

ส่วน น.ส.วิภาดา ฉอ้อนครบุรี  ผู้คิดค้น เครื่องประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อให้ความมั่นคงของลำตัว อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทต้นทุนต่ำ กล่าวว่า จากการที่เป็นนักกายภาพบําบัด รู้ว่าเครื่องมือที่ใช้นั้นมีราคาที่แพงและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงได้เกิดความคิดที่จะผลิตนวัตกรรมจากวัสดุที่เหลือใช้ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานประสานกันของระบบประสาทสั่งการกล้ามเนื้อและการทรงตัวเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็ว ให้กล้ามเนื้อส่วนที่ได้รับการฝึกได้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่องนี้ใช้ระยะเวลาคิดค้นไม่นานนัก ในอนาคตจะมีการต่อยอดและพัฒนารูปแบบของตัวเครื่องให้มีความน่าใช้งานเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงจุดมุ่งหมายเดิม คืออุปกรณ์นี้ต้องใช้งานง่ายที่สุด เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยมีต้นทุนที่ต่ำที่สุดด้วย

การประกวดนวัตกรรมวิทยาศาสตร์การกีฬาในครั้งนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้คนไทยได้แสดงฝีมือในการคิดค้นและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมเทคโนโลยีทางการกีฬาแล้ว ยังเป็นการสร้างความพร้อมต่อความต้องการใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่สามารถผลักดันไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ช่วยลดปริมาณการใช้เครื่องมือที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศในอนาคตได้.

jigkooffroad:
เผยผลสำรวจตลาดสื่อสารและฮาร์ด แวร์ไทยปีนี้หดตัว จากกำลังซื้อที่ลดลง คาดปีหน้าดีขึ้นจากการใช้งานสมาร์ทโฟนและกระแสทีวีดิจิทัล ชี้การชุมนุมทางการเมืองทำให้ยอดผู้ใช้งานข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตพุ่งสูง แต่หากยืดเยื้ออาจกระทบตลาดไอทีในภาพรวม

นายจำรัส สว่างสมุทร ผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาโครงการสำรวจมูลค่าตลาดสื่อสารและคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ของประเทศไทยประจำปี 2556-2557 เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งชาติและเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  (กสทช.)  ได้ร่วมกันทำโครงการนี้ขึ้น โดยเริ่มจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมีนาคม-ตุลาคม 2556  เน้นสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรมกว่า 40 ราย

ทั้งนี้ภาพรวมของตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในปี 2556 หดตัวลงจากปี 2555 คือ เติบโตติดลบ 4% คิดเป็นมูลค่า 87,435 ล้านบาท  เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว และภาคครัวเรือนซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้หลักลดการใช้จ่ายลง คาดว่าในปี 2557 ตลาดจะสามารถเติบโตได้ 4.3% หรือมีมูลค่า 91,174 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตตามกระแสอุปกรณ์พกพา   ส่วนภาพรวมของตลาดสื่อสารปี 2556 มีมูลค่า 466,526 ล้านบาท และคาดว่าจะมีอัตราเติบโต 8.4% ในปี 2557 หรือคิดเป็นมูลค่า 505,831 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยขับเคลื่อนหลักยังคงมาจากตลาดบริการสื่อสาร โดยเฉพาะการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ต ที่ในปีนี้มีมูลค่า 11,571 ล้านบาท และคาดว่าปี 2557 จะเติบโตเพิ่มอีกกว่า 26.4% เนื่องจากคนนิยมรับข่าวสารทางโซเซียลมีเดียมากขึ้น

อย่างไรก็ดีปัจจัยบวกของตลาดสื่อสารและคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ปีหน้า มาจากกระแสทีวีดิจิทัล การเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนและโมบายอินเทอร์เน็ต การใช้งานโครงข่าย 3จี 4จี รวมถึงการเตรียมตัวรองรับการเปิดเออีซี ส่วนปัจจัยลบคือกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ปัญหาภาระหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความไม่มั่นคงทางการเมือง ซึ่งหากยืดเยื้อถึงปีหน้าอาจกระทบต่อตลาดไอทีในภาพรวมเพราะทำให้โครงการภาครัฐชะลอตัว แต่ตลาดสื่อสารและฮาร์ดแวร์ในกลุ่มแท็บเล็ตแล้วกลับมองเป็นการชุมนุมทางการเมืองเป็นปัจจัยบวกเพราะมีการใช้งานดาต้าอย่างถล่มทลายในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งการแชร์ข้อมูล อัพโหลดรูปภาพ ไปจนถึง

คลิปวิดีโอ ดังนั้น คาดว่าผู้ให้บริการรายใหญ่ จำเป็นต้องขยายโครงข่ายการให้บริการและมีโซลูชั่นรองรับการใช้งานที่มีผู้ใช้พร้อม ๆ กัน เป็นจำนวนมาก.

jigkooffroad:
ถึงการเมืองจะทำให้บ้านเมืองตึงเครียดจนสัปดาห์สุดท้ายของปี แต่อากาศทั่วไปก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้เยอะ

ฉลองปีใหม่ไม่กร่อยว่างั้นเหอะ

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายตั้งแต่กลาง ธ.ค.ว่า จะหนาวเย็นจนข้ามปี แม้ลมจะอ่อนแรงลงบ้าง แต่ไม่ทันอุ่น ความกดอากาศสูงระลอกใหม่ก็ตามสมทบจนดึงอุณหภูมิให้ต่ำสุด ให้สูงเฉลี่ยไม่เกิน 20?22 องศาเซลเซียส

อย่างช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงอ่อนกำลังลง จึงทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มีหมอกได้หลายพื้นที่

จากนั้น จะมีความกดอากาศสูงระลอกใหม่ แผ่ลงมาปกคลุมทำให้อุณหภูมิลดลงอีก

สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ต้องสนใจสภาพอากาศไว้บ้าง เพราะหน้าหนาวบางช่วงที่อุณหภูมิสูงสลับเล็กน้อย จะทำให้เกิดหมอกหนาคลุมทางหลวง

ใช้ความเร็วที่เหมาะสม ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง สปอต

ไลต์ตัดหมอกให้พร้อม

พอถึงวันที่ 26-28 ธ.ค. ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเจอกับลมหนาวระลอกใหม่ ทำให้มีอากาศหนาว ลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา

ประมาณว่า ต่ำสุดจะถึง 8-14 องศาเซลเซียส สูงสุด 24-27

กรุงเทพฯ ซึ่งนานปีจะมีโอกาสได้เห็นปรอทไหลรูดลงมาถึงเลข 18 ปีนี้ จะคงที่อยู่เป็นสัปดาห์ และช่วงวันที่ 26-28 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา

งวดนี้ ประมาณว่า จะได้อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส สูงสุด 26-29

เสื้อกันหนาวมีเท่าไหร่ ขนมาใส่ให้เต็มที่เลยพี่น้องงงง

ความหนาวเย็นสำหรับปีนี้ ไม่ได้มากมายผิดปกติ แต่ที่ต่างกว่าปีก่อน ๆ ก็ตรงคงตัวอยู่นาน

จังหวัดน่านซึ่งลืมอากาศหนาวจัดแบบต่อเนื่องมาหลายปี บอกหนนี้เหมือนความหลังกลับคืนมา ต้องหาซื้อเสื้อใหม่กันวุ่นวาย

อากาศแบบนี้ ช่วงปลายปี น่าห่วงว่าจะทำให้อุบัติเหตุทางถนนสูงขึ้น เพราะคนจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกันเป็นส่วนใหญ่

ส่วนหนึ่งคงขอผ่อนคลายให้หายเครียดจากปัญหาการเมืองที่ตึงตัวขึ้นทุกวัน

ปีนี้การรณรงค์ลดจำนวนอุบัติเหตุบางเบาลงไป คงจะทานกระแสการเมืองไม่ไหว

แต่การใช้ทางยังต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะปริมาณ

รถมาก

ควรศึกษาเส้นทาง ดาวน์โหลดแผนที่ทางหลวงที่แนะนำทางเลี่ยงการจราจรติดขัดติดรถไว้ เลือกเวลาให้เหลื่อมกับคนส่วนใหญ่

เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน เช่น ประกันภัย ควรเซฟไว้ในเครื่องเพื่อติดต่อได้ง่าย

เลขเด็ด 1669 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นอีกเบอร์ที่ต้องท่องให้ขึ้นใจ

ทั้งควรเรียนรู้ว่า วิธีติดต่อกับเบอร์ฉุกเฉินในสถานการณ์พิเศษ จะต้องให้ข้อมูลอะไรบ้าง

เพื่อความช่วยเหลือจะได้มาอย่างฉับไว

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางดีที่สุด.

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version