Siam Subaru Webboard
General Discussion => Siam Subaru Society Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: JaaYY ที่ พฤศจิกายน 10, 2011, 02:55:08 am
-
ผมเป็นสมาชิกใหม่นะครับ แต่ได้ขับSubaru มาประมานปีกว่าๆแล้ว คือรถผมพังไม่เป็นท่ามาหลายรอบแล้ว หมดเงินไปกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่คุ้มซักที
กับแค่จะทำไว้ใช้งานเครื่องเดิมๆ ซัดแบบไม่ต้องกลัว กลับต้องมาเสียกับเงินเท่ากับเครื่องที่เค้าทำกันแหล่มๆแรงๆทนๆ เลยถอดใจไปหลายครั้งประกาศขายด้วย ตอนนี้อารมมันฮึ๊ดขึ้นอีกครั้ง
ก็เลยอยากจะได้ความรู้อะคับ รถผมเครื่องคอแดงได้มาทั้งหัวRA V.4 แต่ขับอยู่สามวันชาร์ปก็ละลายอีกตามเคย ทีนี้ผมจะทำยังไงดีกับเปลี่ยนท่อนล่าง หรือ ประกอบเสื้อ
ขึ้นมาอีกตัว แล้วมาประกบฝาเดิม <ง่ายๆเลยนะคับคือผมไม่รู้งบอะคับ> ไม่สนเรื่องแรงมากเพราะส่วนใหญ่ขับใช้งาน ออกต่างจังหวัดบ้าง แต่ผมเป็นคนเท้าค่อนข้างหนักมั้ง
<รึป่าวไม่รู้> ยังไงรบกวนช่วยผมด้วยครับ เหนื่อยมาก!!!!!!!
mush30 mush30 mush30 mush30 mush30
-
เปลี่ยนชาร์ปเป้น ชาร์ปซิ่งครับ ทนกว่า ACL หรือ Cosworth ก็แล้วแต่ชอบครับ แล้วก็ น้ำมันเครื่องใช้ของดีดีหน่อยครับ เครื่องจะได้อยุ่กับเรานานๆ ที่สำคัญ อู่ที่เราประกอบครับ สำคัญมากครับเรื่องนี้ แล้วก็อีกเรื่องครับ เรื่องเกจ์วัดต่างๆ ควรจะมีครับ เพราะว่า มันจะคอยฟ้องว่ารถเราไม่สบายยังไงเวลาขับอยุ่ครับ ขอให้โชคดีครับ emo64o emo64o
-
เปลี่ยนชาร์ปเป้น ชาร์ปซิ่งครับ ทนกว่า ACL หรือ Cosworth ก็แล้วแต่ชอบครับ แล้วก็ น้ำมันเครื่องใช้ของดีดีหน่อยครับ เครื่องจะได้อยุ่กับเรานานๆ ที่สำคัญ อู่ที่เราประกอบครับ สำคัญมากครับเรื่องนี้ แล้วก็อีกเรื่องครับ เรื่องเกจ์วัดต่างๆ ควรจะมีครับ เพราะว่า มันจะคอยฟ้องว่ารถเราไม่สบายยังไงเวลาขับอยุ่ครับ ขอให้โชคดีครับ emo64o emo64o
ขอบคุณครับ
เรื่องงบพอจะมีคัยบอกผมได้มั้ยตรับ
-
"ขับได้สามวัน ชาร์ปละลายอีกตามเคย" อย่างนี้ผิดปกติแล้วครับ หาสาเหตุก่อนครับ ก่อนอื่นเลยเปลี่ยนอู่ก่อน เอาอู่ที่ชำนาญครับ หาต้นตอปัญหา เช่นล้างระบบไม่สะอาดมีเศษชาร์ปเก่าเหลืออยู่ หรือเปลี่ยนตัวกรองน้ำมันเครื่องหรือท่อต่อตรงนั้นไม่ครบ ชาร์ปเก่าจะยังอยู่ พอซ่อมเสร็จแป๊บเดียวพังอีก เกรดของน้ำมันเครื่องต้องตรงด้วย แต่ก่อนอื่นย้ายอู่ก่อนครับ ในกรุงเทพมีเยอะแยะ (หลังน้ำท่วม)
-
สามวันชาร์ปละลาย ลองเปลี่ยนอู่ก่อนมั้ย อู่สุกเอาเผากินก็มีให้เห็นทั่วไป ต่อให้ใส่ของเทพลงไปถ้าประกอบห่วยๆก็มีผล ลองเช้คของเหลวต่างๆ เกจวัดมีมั้ย การประกอบเครื่องนี่ก็สำคัญมาก นิสัยการขับของเราก็มีผลไม่น้อย. สู้ๆครับ mush1
-
ผมว่าอีกเรื่องคือนิสัยการขับด้วยนะครับ เห็นพี่บอกว่าขับมาปีกว่าแล้ว ผมว่าน่าจะเข้าใจรถดีในระดับนึงแล้วนะครับ แต่เห็นบอกว่าเป็นคนเท้าหนัก+ออกต่างจังหวัดด้วย....
ส่วนตัวผมเห็นพี่ๆหลายท่านเสนอเรื่องการเปลี่ยนชาร์ป เป็นชาร์ปซิ่งอันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ แต่ผมว่าต่อให้เป็นชาร์ปซิ่งแล้ว ก็ต้องระวังด้วยไม่ใช่ว่า กดคันเร่งมิดขับติดบูสตลอด
อันนั้นผมว่าต่อให้ชาร์ปโค-ตรซิ่งก็เอาไม่อยู่หรอกครับ ผมก็ว่าน่าจะเช็คเรื่องน้ำมันเครื่องด้วยไม่ทราบว่ารถมีเกจวัดแรงดันน้ำมันเครื่องรึปล่าว แรงดันน้ำมันเครื่องตกอะไรประมาณนี้ครับ
ส่วนที่พี่บอกว่าจะประกอบเครื่องขึ้นมาใหม่อีกตัว ผมว่าไม่น่าจะจำเป็นสำหรับการใช้รถประจำวันไม่ได้ทำแีรงมากมายครับ แค่โอเวอร์ฮอลล์เครื่องใหม่เช็คระบบใหม่ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ
ที่สำคัญก็เรื่องประกอบเครื่องแล้วครับว่าช่างที่พี่ทำมีความชำนาญแค่ไหน
ส่วนงบประมาณก็อยูที่การหาของด้วย ของใหม่ก็แน่นอนแพงหน่อยครับ ส่วนตัวผมเคยโอเวอร์ฮอลล์เครื่องใหม่มาแล้ว เปลี่ยนแค่ของที่เสื่อมสภาพ ชาร์ปก้านซิ่ง งบก็ประมาณ40000++ครับ
แต่ถ้างบของพี่ไม่ใช่ปัญหา พี่อาจจะเปลี่ยนสูบเป็นชุดซิ่ง ชาร์ปซิ่งไปเลยก็ได้ เผื่ออนาคตอยากจะซนทำแรงจะได้ทำได้เหนียวๆได้เลยครับ....
ที่สำคัญอีกอย่างคือปั๊มติ๊กแรงดันน้ำมันเบนซินด้วยนะครับ ผมเคยสูบละลายเพราะแรงดันเบนซินตก ปั๊มติ๊กล้ามาแล้วนะครับ เกจวัดสำคัญนะครับสำหรับรถเทอร์โบอย่างเราครับ
แรงดันเบนซิน แรงดันน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง วัดบูส...ประมาณนี้ครับ แต่ถ้างบเหลือจัดไปครบชุดเลยครับมันช่วยเตือนเราได้ครับ ทีี่เหลือก็นิสัยการขับของพี่แล้วครับ ...
ส่วนอื่นก็รอให้พี่ๆผู้รู้ท่านอื่นมาต่อแล้วกันนะครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมนะครัับ........โชคดี
-
ค่าชาร์ปซิ่งอยู่ประมาณ 10k + หรือ - นิดหน่อยแล้วแต่ที่และยี่ห้อครับ
ค่ายกเครื่องและประกอบแล้วแต่อู่ครับ ลองคุยตกลงกันดู จะมีรายละเอียดอีกนิดๆหน่อยๆ อาจโดนพวกค่าปะเก็น ยางซีลเครื่องนู่นนี่ และค่าน้ำมันเครื่องใหม่
ที่ว่าขับสามวันละลาย คือพึ่งได้รถมาขับสามวันละลายหรือว่าพึ่งเปลี่ยนมาสดๆขับสามวันก็ละลายครับ ถ้าแบบแรก ไม่แปลกครับ สู้ๆ ในนี้โดนหนักกว่านี้ก็มีครับ อย่าพึ่งท้อ แต่ถ้าแบบหลังเนี่ยถ้าไม่ใช่ปัญหาการประกอบเครื่องของทางอู่ก็น่าจะมีปัญหาแทรกซ้อนนะครับ เช่นปั๊มน้ำมันเครื่องตายรึเปล่า ข้อเหวี่ยงไม่ได้centerรึเปล่า มีน้ำมันเครื่องรั่วซึมมั้ย อะไรแบบนี้นะครับ ปกติเครื่องรถยนต์ใดๆมันก็อายุของมันครับ แต่ไม่ใช่สามวันหนึ่งสัปดาห์นึงแน่นอน เอาว่าเท้าหนักขนาดไหนก็ตามครับ ลองคิดหาปัญหาจริงๆกับมันดูก่อน แล้วค่อยลงเงินไปครับ ถ้าหาปัญหาจริงๆไม่เจอ แก้ไม่ตรงจุด เดี๋ยวจะเซ็งอีกครับ
ขอให้โชคดีนะครับ สู้ๆ emo65o
-
ลองเปลี่ยนอู่ก่อนไหมคับ และคนที่จะประกอบให้ด้วยคับต้องมีความชำนาญและความละเอียดคับ ตรงนี้สำคัญมากๆ ส่วนราคาโดยประมาณนะครับ อันนี้เป็นราคาโอเวอร์ฮอลเครื่องเพราะชาร์ปเริ่มจะดังนะคับ 1.ชาร์ป อก+ก้าน ACL 6,500
2. ค่าซีลทุกชิ้นในเครื่อง รวมปะเก็น แหวนใหม่ 14,000
3.balanceข้อเหวี่ยง 5,000
4. ตั้งาวล์วบดวาล์ว 3,650
5. ขัดลื่น เปิดพอร์ตไอดีไอเสียตกแต่งห้องเผาไหม้ 3,000
6. ค่าแรง 5,000
หลักๆก็มีเท่านี้คับที่ผมทำนะคับ แต่ต้องให้ความสำคัญกับคนที่จะประกอบเครื่องให้มากๆนะคับ
ขอให้โชคดีนะครับ
-
ขออนุญาตถามตรงๆ เพื่อที่จะได้มีข้อมูลมาช่วยวิเคราะห์ได้ตรงจุดนะครับ จะได้ไม่เสียเงินไปโดยใช่เหตุอีก
ผมกำลังสงสัยไปถึงวิธีการขับครับ ที่บอกว่าเท้าหนักนั้นหนักอย่างไร เช่น ขับแช่ความเร็วสูงๆ ตลอดทาง หรือกดคันเร่งมิดตลอดทาง หรือลากรอบสุดตลอด หรืออื่นๆ รบกวนช่วยอธิบายให้ทราบหน่อยได้มั้ยครับ
ส่วนในเรื่องของเครื่อง เห็นบอกว่าได้มาทั้งหัว ต้องบอกว่าหัวที่มาจากญี่ปุ่นก็เป็นเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว (ซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใช้งานมาขนาดไหน) ดังนั้นก็มีโอกาสที่อุปกรณ์ภายในทั้งหลายอาจจะใกล้ถึงอายุขัยแล้วก็เป็นได้ ถ้าให้ดีแนะนำว่าเมื่อได้หัวมาให้เปิดมาโอเวอร์ฮอลเลย ถ้ามีอะไรไม่ดีจะได้เปลี่ยนเลย ซึ่งการโอเวอร์ออลก็ควรที่จะหาอู่ที่ไว้ใจได้ ประกอบเครื่องอย่างมีระบบ ระเบียบ เพราะความสะอาดกับ Clearance เป็นเรื่องสำคัญมากในการประกอบเครื่อง ส่วนเรื่องงบประมาณกับอู่ที่จะทำ แนะนำว่าให้ลองเข้าไปคุยกับอู่หลายๆ ที่ครับ ถูกใจกับนิสัยใจคอช่างและงบประมาณที่ไหนก็ทำที่นั่นครับ
-
ขออนุญาตถามตรงๆ เพื่อที่จะได้มีข้อมูลมาช่วยวิเคราะห์ได้ตรงจุดนะครับ จะได้ไม่เสียเงินไปโดยใช่เหตุอีก
ผมกำลังสงสัยไปถึงวิธีการขับครับ ที่บอกว่าเท้าหนักนั้นหนักอย่างไร เช่น ขับแช่ความเร็วสูงๆ ตลอดทาง หรือกดคันเร่งมิดตลอดทาง หรือลากรอบสุดตลอด หรืออื่นๆ รบกวนช่วยอธิบายให้ทราบหน่อยได้มั้ยครับ
ส่วนในเรื่องของเครื่อง เห็นบอกว่าได้มาทั้งหัว ต้องบอกว่าหัวที่มาจากญี่ปุ่นก็เป็นเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว (ซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใช้งานมาขนาดไหน) ดังนั้นก็มีโอกาสที่อุปกรณ์ภายในทั้งหลายอาจจะใกล้ถึงอายุขัยแล้วก็เป็นได้ ถ้าให้ดีแนะนำว่าเมื่อได้หัวมาให้เปิดมาโอเวอร์ฮอลเลย ถ้ามีอะไรไม่ดีจะได้เปลี่ยนเลย ซึ่งการโอเวอร์ออลก็ควรที่จะหาอู่ที่ไว้ใจได้ ประกอบเครื่องอย่างมีระบบ ระเบียบ เพราะความสะอาดกับ Clearance เป็นเรื่องสำคัญมากในการประกอบเครื่อง ส่วนเรื่องงบประมาณกับอู่ที่จะทำ แนะนำว่าให้ลองเข้าไปคุยกับอู่หลายๆ ที่ครับ ถูกใจกับนิสัยใจคอช่างและงบประมาณที่ไหนก็ทำที่นั่นครับ
อย่างที่พี่ ต่อ พูดอะคับ เครื่องที่ได้มาเป็นเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาแล้วเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผ่านการใช้งานมาหนักหรือป่าวใกล้ถึงอายุหรือยัง และอีกอย่างที่สำคัญคือลักษณะของการขับขี่รถเข้าใจในเรื่องของการขับมากน้อยแค่ไหน เพราะเครื่่องในแต่ละตระกูลหรือตระกูลเดียวกันแต่คนละรุ่นก็ต่างกันนะครับ อย่างผมเมื่อก่อนใช้ 200 วางเจ ขับมันยังไงก็ไม่ค่อยพังแต่พอมาใช้ซูใหม่ๆได้รถมาคืนเดียวพังคับวางเครื่องใหม่ได้ 2 สัปดาพังอีกแล้วประกอบใหม่ของชาร์ฟซิ่งลูกซิ่งพอพ้นรันอินเอากลับใต้กลับมาพังอีกเช่นกัน แล้วมาได้ความรู้จากกระทู้เก่าของพี่ๆใน siamsubaru ในขับขี่แล้วปรับการขับใหม่ ตอนนี้ใช้มา ปี กว่าแล้วยังอยู่ดีเลยครับ แล้วเรื่องของพวกระบบน้ำมันเครื่องกับเกรดของมันก็สำคัญนะครับ ยังไงก็สู้ๆนะอย่าพึงท้อ
-
ผมว่าลองเปลี่ยนนิสัยการขับก็สำคัญนะครับ รถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ขุบไม่เหมือนกันเลยน่ะครับ อย่างผมขับฮอนด้ามาพอมาขับอิมก็ไม่สามารถลากรอบได้หรือกดรอบสูงๆได้ตั้งแต่เกียร์ 1 หรือ 2 ได้เหมือนเก่า ตอนแรกก็เบื่อครับ แต่พอได้เรียนรู้นิสัยของมันจิงๆก็ขับมันกว่าเดิมอีกครับ ลองดูครับ
ส่วนเรื่องเทคนิคผมเองก็เพิ่งมาเล่นเลยไม่เก่งมาก แต่ก็เท่าที่รู้ก็ตามที่เค้าบอกแหละครับถ้าได้เครื่องใหม่มาเราไม่รู้ว่ามาแบบไหน ดีแค่ไหน ผมว่าลองเสียเงินอีกหน่อยฮอลเครื่องไปเลยครับ เครื่องจะได้อยู่กับเรานานๆ แล้วเรื่องเกจ์วัดก็สำคัญ ไม่ต้องมีเยอะครับ เอาเท่าที่จำเป็นสามสี่ตัวก็พอครับ
-
"ขับได้สามวัน ชาร์ปละลายอีกตามเคย" อย่างนี้ผิดปกติแล้วครับ หาสาเหตุก่อนครับ ก่อนอื่นเลยเปลี่ยนอู่ก่อน เอาอู่ที่ชำนาญครับ หาต้นตอปัญหา เช่นล้างระบบไม่สะอาดมีเศษชาร์ปเก่าเหลืออยู่ หรือเปลี่ยนตัวกรองน้ำมันเครื่องหรือท่อต่อตรงนั้นไม่ครบ ชาร์ปเก่าจะยังอยู่ พอซ่อมเสร็จแป๊บเดียวพังอีก เกรดของน้ำมันเครื่องต้องตรงด้วย แต่ก่อนอื่นย้ายอู่ก่อนครับ ในกรุงเทพมีเยอะแยะ (หลังน้ำท่วม)
คือตอนนั้นผมวางเครื่องโดยย้ายมาจากหัวทั้งหมดแต่ทำที่อู่สนิทกันกลางซอย101<เพราะเห็นว่าแค่ย้ายของคงไม่เป็นไรมั้ง> แต่ยังไม่ได้โอเวอร์ฮอล เพราะจะให้อู่ซูบารุที่ซอยสคส. เกษตรนวมิน โอเวอร์ฮอลต่อ แต่พังซะก่อนครับ
ขอบคุณมากๆครับ
-
สามวันชาร์ปละลาย ลองเปลี่ยนอู่ก่อนมั้ย อู่สุกเอาเผากินก็มีให้เห็นทั่วไป ต่อให้ใส่ของเทพลงไปถ้าประกอบห่วยๆก็มีผล ลองเช้คของเหลวต่างๆ เกจวัดมีมั้ย การประกอบเครื่องนี่ก็สำคัญมาก นิสัยการขับของเราก็มีผลไม่น้อย. สู้ๆครับ mush1
ขอบคุณมากๆครับผมว่าอีกเรื่องคือนิสัยการขับด้วยนะครับ เห็นพี่บอกว่าขับมาปีกว่าแล้ว ผมว่าน่าจะเข้าใจรถดีในระดับนึงแล้วนะครับ แต่เห็นบอกว่าเป็นคนเท้าหนัก+ออกต่างจังหวัดด้วย....
ส่วนตัวผมเห็นพี่ๆหลายท่านเสนอเรื่องการเปลี่ยนชาร์ป เป็นชาร์ปซิ่งอันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ แต่ผมว่าต่อให้เป็นชาร์ปซิ่งแล้ว ก็ต้องระวังด้วยไม่ใช่ว่า กดคันเร่งมิดขับติดบูสตลอด
อันนั้นผมว่าต่อให้ชาร์ปโค-ตรซิ่งก็เอาไม่อยู่หรอกครับ ผมก็ว่าน่าจะเช็คเรื่องน้ำมันเครื่องด้วยไม่ทราบว่ารถมีเกจวัดแรงดันน้ำมันเครื่องรึปล่าว แรงดันน้ำมันเครื่องตกอะไรประมาณนี้ครับ
ส่วนที่พี่บอกว่าจะประกอบเครื่องขึ้นมาใหม่อีกตัว ผมว่าไม่น่าจะจำเป็นสำหรับการใช้รถประจำวันไม่ได้ทำแีรงมากมายครับ แค่โอเวอร์ฮอลล์เครื่องใหม่เช็คระบบใหม่ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ
ที่สำคัญก็เรื่องประกอบเครื่องแล้วครับว่าช่างที่พี่ทำมีความชำนาญแค่ไหน
ส่วนงบประมาณก็อยูที่การหาของด้วย ของใหม่ก็แน่นอนแพงหน่อยครับ ส่วนตัวผมเคยโอเวอร์ฮอลล์เครื่องใหม่มาแล้ว เปลี่ยนแค่ของที่เสื่อมสภาพ ชาร์ปก้านซิ่ง งบก็ประมาณ40000++ครับ
แต่ถ้างบของพี่ไม่ใช่ปัญหา พี่อาจจะเปลี่ยนสูบเป็นชุดซิ่ง ชาร์ปซิ่งไปเลยก็ได้ เผื่ออนาคตอยากจะซนทำแรงจะได้ทำได้เหนียวๆได้เลยครับ....
ที่สำคัญอีกอย่างคือปั๊มติ๊กแรงดันน้ำมันเบนซินด้วยนะครับ ผมเคยสูบละลายเพราะแรงดันเบนซินตก ปั๊มติ๊กล้ามาแล้วนะครับ เกจวัดสำคัญนะครับสำหรับรถเทอร์โบอย่างเราครับ
แรงดันเบนซิน แรงดันน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง วัดบูส...ประมาณนี้ครับ แต่ถ้างบเหลือจัดไปครบชุดเลยครับมันช่วยเตือนเราได้ครับ ทีี่เหลือก็นิสัยการขับของพี่แล้วครับ ...
ส่วนอื่นก็รอให้พี่ๆผู้รู้ท่านอื่นมาต่อแล้วกันนะครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมนะครัับ........โชคดี
[/quo
ผมคิดว่าจะประกอบท่อนล่างมาอีกอะครับ ที่คิดไว้คือเบิกชาร์ป กับของสำคัญ แต่บางส่วนน่าจะใช้มือสองอะครับ ส่วนเสื้อเนี่ยซิครับ เครื่ิองผมมันล็อคไปแล้ว ไม่รู้ว่าเสื้อจะยังใช้ได้อยู่รึป่าว
ขอบคุณมากๆครับผม
ค่าชาร์ปซิ่งอยู่ประมาณ 10k + หรือ - นิดหน่อยแล้วแต่ที่และยี่ห้อครับ
ค่ายกเครื่องและประกอบแล้วแต่อู่ครับ ลองคุยตกลงกันดู จะมีรายละเอียดอีกนิดๆหน่อยๆ อาจโดนพวกค่าปะเก็น ยางซีลเครื่องนู่นนี่ และค่าน้ำมันเครื่องใหม่
ที่ว่าขับสามวันละลาย คือพึ่งได้รถมาขับสามวันละลายหรือว่าพึ่งเปลี่ยนมาสดๆขับสามวันก็ละลายครับ ถ้าแบบแรก ไม่แปลกครับ สู้ๆ ในนี้โดนหนักกว่านี้ก็มีครับ อย่าพึ่งท้อ แต่ถ้าแบบหลังเนี่ยถ้าไม่ใช่ปัญหาการประกอบเครื่องของทางอู่ก็น่าจะมีปัญหาแทรกซ้อนนะครับ เช่นปั๊มน้ำมันเครื่องตายรึเปล่า ข้อเหวี่ยงไม่ได้centerรึเปล่า มีน้ำมันเครื่องรั่วซึมมั้ย อะไรแบบนี้นะครับ ปกติเครื่องรถยนต์ใดๆมันก็อายุของมันครับ แต่ไม่ใช่สามวันหนึ่งสัปดาห์นึงแน่นอน เอาว่าเท้าหนักขนาดไหนก็ตามครับ ลองคิดหาปัญหาจริงๆกับมันดูก่อน แล้วค่อยลงเงินไปครับ ถ้าหาปัญหาจริงๆไม่เจอ แก้ไม่ตรงจุด เดี๋ยวจะเซ็งอีกครับ
ขอให้โชคดีนะครับ สู้ๆ emo65o
-
ลองเปลี่ยนอู่ก่อนไหมคับ และคนที่จะประกอบให้ด้วยคับต้องมีความชำนาญและความละเอียดคับ ตรงนี้สำคัญมากๆ ส่วนราคาโดยประมาณนะครับ อันนี้เป็นราคาโอเวอร์ฮอลเครื่องเพราะชาร์ปเริ่มจะดังนะคับ 1.ชาร์ป อก+ก้าน ACL 6,500
2. ค่าซีลทุกชิ้นในเครื่อง รวมปะเก็น แหวนใหม่ 14,000
3.balanceข้อเหวี่ยง 5,000
4. ตั้งาวล์วบดวาล์ว 3,650
5. ขัดลื่น เปิดพอร์ตไอดีไอเสียตกแต่งห้องเผาไหม้ 3,000
6. ค่าแรง 5,000
หลักๆก็มีเท่านี้คับที่ผมทำนะคับ แต่ต้องให้ความสำคัญกับคนที่จะประกอบเครื่องให้มากๆนะคับ
ขอให้โชคดีนะครับ
ราคาก็อยู่ประมาณนี้แหละครับ ลองเช็คกับทางอู่ดูก่อน แต่ละอู่ราคาไม่เท่ากัน mush23
-
ขออนุญาตถามตรงๆ เพื่อที่จะได้มีข้อมูลมาช่วยวิเคราะห์ได้ตรงจุดนะครับ จะได้ไม่เสียเงินไปโดยใช่เหตุอีก
ผมกำลังสงสัยไปถึงวิธีการขับครับ ที่บอกว่าเท้าหนักนั้นหนักอย่างไร เช่น ขับแช่ความเร็วสูงๆ ตลอดทาง หรือกดคันเร่งมิดตลอดทาง หรือลากรอบสุดตลอด หรืออื่นๆ รบกวนช่วยอธิบายให้ทราบหน่อยได้มั้ยครับ
ส่วนในเรื่องของเครื่อง เห็นบอกว่าได้มาทั้งหัว ต้องบอกว่าหัวที่มาจากญี่ปุ่นก็เป็นเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว (ซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใช้งานมาขนาดไหน) ดังนั้นก็มีโอกาสที่อุปกรณ์ภายในทั้งหลายอาจจะใกล้ถึงอายุขัยแล้วก็เป็นได้ ถ้าให้ดีแนะนำว่าเมื่อได้หัวมาให้เปิดมาโอเวอร์ฮอลเลย ถ้ามีอะไรไม่ดีจะได้เปลี่ยนเลย ซึ่งการโอเวอร์ออลก็ควรที่จะหาอู่ที่ไว้ใจได้ ประกอบเครื่องอย่างมีระบบ ระเบียบ เพราะความสะอาดกับ Clearance เป็นเรื่องสำคัญมากในการประกอบเครื่อง ส่วนเรื่องงบประมาณกับอู่ที่จะทำ แนะนำว่าให้ลองเข้าไปคุยกับอู่หลายๆ ที่ครับ ถูกใจกับนิสัยใจคอช่างและงบประมาณที่ไหนก็ทำที่นั่นครับ
ชอบขับเร็วครับผม คือเวลาจะแซงติดบูสตลอด ถนนว่างๆก็กด ผมชอบครับ เพราะที่ผ่านมาผมขับพวก J กับ VTEC มันอึด ส่วนเครื่อง SR ก็เคยขับอยู่2ปี ก็คิดว่าเครื่องไปง่ายที่สุดแล้ว แต่มาเจอ EJเข้าไปอึ้งเลย ซือมาปีกว่าได้อยู่ในรถยังไม่ถึง15วันเลยครับ ช่างได้อยู่นานกว่าผมอีก
ขอบคุณมากๆครับคุณพี่
-
ลองเปลี่ยนอู่ก่อนไหมคับ และคนที่จะประกอบให้ด้วยคับต้องมีความชำนาญและความละเอียดคับ ตรงนี้สำคัญมากๆ ส่วนราคาโดยประมาณนะครับ อันนี้เป็นราคาโอเวอร์ฮอลเครื่องเพราะชาร์ปเริ่มจะดังนะคับ 1.ชาร์ป อก+ก้าน ACL 6,500
2. ค่าซีลทุกชิ้นในเครื่อง รวมปะเก็น แหวนใหม่ 14,000
3.balanceข้อเหวี่ยง 5,000
4. ตั้งาวล์วบดวาล์ว 3,650
5. ขัดลื่น เปิดพอร์ตไอดีไอเสียตกแต่งห้องเผาไหม้ 3,000
6. ค่าแรง 5,000
หลักๆก็มีเท่านี้คับที่ผมทำนะคับ แต่ต้องให้ความสำคัญกับคนที่จะประกอบเครื่องให้มากๆนะคับ
ขอให้โชคดีนะครับ
คือตอนนี้น้ำท่วมกรุงเทพส่วนใหญ่ ผมคิดว่าจะจัดของเองแล้วให้ช่างมาประกอบ คิดว่าอาจจะเช่าบ้านให้ช่างอาทิตย์นึงเพื่อประกอบเครื่อง เพราะอู่ที่เล็งไว้ก็โดนน้ำม่วมด้วย กำลังดูความคุ้มอยู่อะครับ หรือพี่มีที่แนะนำยังไง ช่วยบอกผมด้วยนะครับ รบกวนด้วยครับ
ขอบคุณครับ
-
mush23ขอบคุณทุกท่านมากๆครับที่ ให้ความรู้ มีอะไรแนะนำมาได้เลยครับผมเป็นมือใหม่ซูบารุจริงคับผม mush23
emo73o emo73o emo73o emo73o emo73o emo73o emo73o emo73o emo73o emo73o emo73o
-
ซ่อมเสร็จไวไครับ
รอน้ำลดแล้วค่อยออกมาแซ้ดดดดดด อีกทีครับ
-
ชอบขับเร็วครับผม คือเวลาจะแซงติดบูสตลอด ถนนว่างๆก็กด ผมชอบครับ เพราะที่ผ่านมาผมขับพวก J กับ VTEC มันอึด ส่วนเครื่อง SR ก็เคยขับอยู่2ปี ก็คิดว่าเครื่องไปง่ายที่สุดแล้ว แต่มาเจอ EJเข้าไปอึ้งเลย ซือมาปีกว่าได้อยู่ในรถยังไม่ถึง15วันเลยครับ ช่างได้อยู่นานกว่าผมอีก
ขอบคุณมากๆครับคุณพี่
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ตัวผมเองใช้รถก็เรียกว่าค่อนข้างจะเต็มที่ ไม่ว่าจะพาเค้าไปเที่ยวไหนต่อไหน วิ่งเล่นในสนามก็บ่อย.....แต่ตลอดเวลาที่ใช้มารถผมไม่เคยเสียแบบหนักหนาเลย ถ้าอย่างงั้นขออนุญาตเรียกว่าเล่าสู่กันฟังดีกว่านะครับ ผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรนักหนาหรอกครับ
ต้องเข้าใจเค้าก่อนว่า เครื่อง EJ เป็นเครื่อง 4 สูบเทอร์โบ สูบโต ชักสั้น เกียร์ชิด...Character ของรถเป็นรถที่เน้นเรื่องอัตราเร่งเป็นหลัก และมี Handling ที่ยากจะหาตัวจับได้ในรถระดับเดียวกัน ขับปรู๊ดปร๊าดในเมืองเนี่ย สนุกแน่นอน และไม่ใช่รถที่มุ่งเน้นมาทำ Top Speed ซักเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามรถอย่างซูบารุสามารถเดินทางไกลด้วยความเร็วสูงได้เป็นปกตินะครับ เมื่อเร่งแซงก็ติดบูสท์ได้ตามปกติ แต่พอวิ่งที่ความเร็วคงที่เทอร์โบก็จะไม่ติดบูสท์ (ถ้ามีวัดบูสท์อยู่ ลองสังเกตได้ครับ) แต่ก็มีเรื่องที่ต้องใส่ใจซักหน่อย ด้วยความที่เป็นเครื่องชักสั้น เกียร์ชิด ทำให้เมื่อเดินทางด้วยความเร็วสูงนานๆ รอบเครื่องที่ใช้ก็จะค่อนข้างสูง เมื่อรอบสูงก็จะเกิดความร้อนสะสมค่อนข้างมาก ดังนั้นถามต่อมาว่า อะไรที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนและลดการสึกหรอให้เครื่องยนต์?
......ก็คงหนีไม่พ้นน้ำมันเครื่องใช่มั้ยครับ ดังนั้นหากเป็นคนที่ชอบขับรถเร็ว ผมขอให้ใส่ใจในเรื่องน้ำมันเครื่องซักหน่อย ใช้น้ำมันเครื่องให้ดี และ ใส่ใจกับเรื่องอุณหภูมิน้ำมันเครื่องซักหน่อย ซึ่งถามว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม ก็ต้องมองต่อไปอีกว่า เกรดน้ำมันเครื่องที่ใช้เป็นเกรดอะไร เช่น 50 หรือ 60 (ดูเฉพาะตัวหลังก็พอครับ เพราะเมืองไทย ไม่ใช่เมืองหนาว) ยิ่งใช้ตัวหลังมาก ก็จะยิ่งทนความร้อนได้สูงตาม อุณหภูมิปลอดภัยสำหรับเครื่องของน้ำมันเครื่องเกรด 50 ก็ราวๆ ซัก 110 องศาเซลเซียส ถ้าเป็น เกรด 60 สามารถทนได้แบบปลอดภัยถึงเกือบ 120 องศาฯ ซึ่งถ้าชอบขับเร็ว ก็หาเกจ์อุณหภูมิน้ำมันเครื่องมาติดไว้ซักหน่อย จะได้ยกเท้าทัน ยิ่งถ้าชอบขับเร็วยาวๆ ก็แนะนำว่าให้หาออยล์คูลเลอร์มาใส่ซะ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิและยืดอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่อง ส่วนความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็แล้วแต่การใช้งานครับ ถ้าใช้งานหนักก็เปลี่ยนให้เร็วกว่ากำหนดขึ้นมา
อีกเรื่องนึงคือ อย่าลากรอบเกิน เพราะเครื่องเทอร์โบ ไม่จำเป็นต้องลากจนตัดเหมือนเครื่อง NA ครับ เมื่อเทอร์โบหมดความสามารถในการทำลมแล้ว ลากรอบไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา นอกจากความสะใจที่เห็นเข็มวัดรอบกวาดไปบนหน้าปัด ถ้าเป็นคอแดงธรรมดา วิ่งเพลินๆ บนถนน ผมแนะนำว่าเปลี่ยนเกียร์ที่ซักไม่เกิน 6500 รอบก็พอครับ ลองดูครับ แล้วจะรู้ว่าแค่นี้ก็มันส์แล้ว
ส่วนเรื่องอู่ครับ ผมแนะนำว่าให้เข้าไปคุยกับอู่ที่ชำนาญซูบารุโดยตรงดีกว่าครับ เพราะเครื่อง EJ เนี่ย ถ้าช่างที่ไม่เข้าใจเค้าถ่องแท้จะบอกว่า เล่นทำไมซูบารุ ซ่อมยาก ดูแลยาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซูบารุไม่ได้ดูแลยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะเมื่อเป็นเครื่องสแตนดาร์ด (มันก็คือรถโรงงานที่มีแรงม้าเยอะเท่านั้นเอง) อย่างไรก็ตามเมื่อจะต้องมีการโอเวอร์ฮอล อย่างที่บอกไปในคำตอบที่แล้วว่า Clearance กับ ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นใส่ใจเรื่องฝีมือช่างหน่อยเถอะครับ
ขอให้โชคดีครับ
mush17
-
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ตัวผมเองใช้รถก็เรียกว่าค่อนข้างจะเต็มที่ ไม่ว่าจะพาเค้าไปเที่ยวไหนต่อไหน วิ่งเล่นในสนามก็บ่อย.....แต่ตลอดเวลาที่ใช้มารถผมไม่เคยเสียแบบหนักหนาเลย ถ้าอย่างงั้นขออนุญาตเรียกว่าเล่าสู่กันฟังดีกว่านะครับ ผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรนักหนาหรอกครับ
ต้องเข้าใจเค้าก่อนว่า เครื่อง EJ เป็นเครื่อง 4 สูบเทอร์โบ สูบโต ชักสั้น เกียร์ชิด...Character ของรถเป็นรถที่เน้นเรื่องอัตราเร่งเป็นหลัก และมี Handling ที่ยากจะหาตัวจับได้ในรถระดับเดียวกัน ขับปรู๊ดปร๊าดในเมืองเนี่ย สนุกแน่นอน และไม่ใช่รถที่มุ่งเน้นมาทำ Top Speed ซักเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามรถอย่างซูบารุสามารถเดินทางไกลด้วยความเร็วสูงได้เป็นปกตินะครับ เมื่อเร่งแซงก็ติดบูสท์ได้ตามปกติ แต่พอวิ่งที่ความเร็วคงที่เทอร์โบก็จะไม่ติดบูสท์ (ถ้ามีวัดบูสท์อยู่ ลองสังเกตได้ครับ) แต่ก็มีเรื่องที่ต้องใส่ใจซักหน่อย ด้วยความที่เป็นเครื่องชักสั้น เกียร์ชิด ทำให้เมื่อเดินทางด้วยความเร็วสูงนานๆ รอบเครื่องที่ใช้ก็จะค่อนข้างสูง เมื่อรอบสูงก็จะเกิดความร้อนสะสมค่อนข้างมาก ดังนั้นถามต่อมาว่า อะไรที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนและลดการสึกหรอให้เครื่องยนต์?
......ก็คงหนีไม่พ้นน้ำมันเครื่องใช่มั้ยครับ ดังนั้นหากเป็นคนที่ชอบขับรถเร็ว ผมขอให้ใส่ใจในเรื่องน้ำมันเครื่องซักหน่อย ใช้น้ำมันเครื่องให้ดี และ ใส่ใจกับเรื่องอุณหภูมิน้ำมันเครื่องซักหน่อย ซึ่งถามว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม ก็ต้องมองต่อไปอีกว่า เกรดน้ำมันเครื่องที่ใช้เป็นเกรดอะไร เช่น 50 หรือ 60 (ดูเฉพาะตัวหลังก็พอครับ เพราะเมืองไทย ไม่ใช่เมืองหนาว) ยิ่งใช้ตัวหลังมาก ก็จะยิ่งทนความร้อนได้สูงตาม อุณหภูมิปลอดภัยสำหรับเครื่องของน้ำมันเครื่องเกรด 50 ก็ราวๆ ซัก 110 องศาเซลเซียส ถ้าเป็น เกรด 60 สามารถทนได้แบบปลอดภัยถึงเกือบ 120 องศาฯ ซึ่งถ้าชอบขับเร็ว ก็หาเกจ์อุณหภูมิน้ำมันเครื่องมาติดไว้ซักหน่อย จะได้ยกเท้าทัน ยิ่งถ้าชอบขับเร็วยาวๆ ก็แนะนำว่าให้หาออยล์คูลเลอร์มาใส่ซะ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิและยืดอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่อง ส่วนความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็แล้วแต่การใช้งานครับ ถ้าใช้งานหนักก็เปลี่ยนให้เร็วกว่ากำหนดขึ้นมา
อีกเรื่องนึงคือ อย่าลากรอบเกิน เพราะเครื่องเทอร์โบ ไม่จำเป็นต้องลากจนตัดเหมือนเครื่อง NA ครับ เมื่อเทอร์โบหมดความสามารถในการทำลมแล้ว ลากรอบไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา นอกจากความสะใจที่เห็นเข็มวัดรอบกวาดไปบนหน้าปัด ถ้าเป็นคอแดงธรรมดา วิ่งเพลินๆ บนถนน ผมแนะนำว่าเปลี่ยนเกียร์ที่ซักไม่เกิน 6500 รอบก็พอครับ ลองดูครับ แล้วจะรู้ว่าแค่นี้ก็มันส์แล้ว
ส่วนเรื่องอู่ครับ ผมแนะนำว่าให้เข้าไปคุยกับอู่ที่ชำนาญซูบารุโดยตรงดีกว่าครับ เพราะเครื่อง EJ เนี่ย ถ้าช่างที่ไม่เข้าใจเค้าถ่องแท้จะบอกว่า เล่นทำไมซูบารุ ซ่อมยาก ดูแลยาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซูบารุไม่ได้ดูแลยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะเมื่อเป็นเครื่องสแตนดาร์ด (มันก็คือรถโรงงานที่มีแรงม้าเยอะเท่านั้นเอง) อย่างไรก็ตามเมื่อจะต้องมีการโอเวอร์ฮอล อย่างที่บอกไปในคำตอบที่แล้วว่า Clearance กับ ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นใส่ใจเรื่องฝีมือช่างหน่อยเถอะครับ
ขอให้โชคดีครับ
mush17
ขอบคุณมากๆคร้าบบบ
-
อย่างที่เพื่อนๆบอก อยากให้ลองดูพวกระบบหล่อเย็นต่างๆด้วยครับ ทั้งระบบน้ำหม้อน้ำ และน้ำมันเครื่องด้วย ว่ามีจุดไหนที่เป็นปัญหาหรือไม่น่ะครับ
บางทีไม่ได้อยู่ที่ไส้ใน แต่อยู่ที่ส่วนควบก็เป็นไปได้ครับ
-
อ้าว เด็กคริสเตียนเหรอครับ ผมก็คริสเตียนรุ่น 142 เพื่อนๆแนะนำกันไปหมดแล้ว งั้นมาให้กำลังใจแทนแล้วกัน ซูบารุเหมือนสาวสวยบอบบางครับ ถ้าอยากจะขี่เธอต้องรู้ใจและค่อนข้างต้องทะนุถนอมหน่อย ถ้ารู้ใจซะอย่างรับรองรักกันไปอีกนานนนน ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมโทรมาคุยกันก็ได้ครับ ถ้ามีอะไรช่วยได้ก็ยินดี 086-811-5444 เคน
-
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ตัวผมเองใช้รถก็เรียกว่าค่อนข้างจะเต็มที่ ไม่ว่าจะพาเค้าไปเที่ยวไหนต่อไหน วิ่งเล่นในสนามก็บ่อย.....แต่ตลอดเวลาที่ใช้มารถผมไม่เคยเสียแบบหนักหนาเลย ถ้าอย่างงั้นขออนุญาตเรียกว่าเล่าสู่กันฟังดีกว่านะครับ ผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรนักหนาหรอกครับ
ต้องเข้าใจเค้าก่อนว่า เครื่อง EJ เป็นเครื่อง 4 สูบเทอร์โบ สูบโต ชักสั้น เกียร์ชิด...Character ของรถเป็นรถที่เน้นเรื่องอัตราเร่งเป็นหลัก และมี Handling ที่ยากจะหาตัวจับได้ในรถระดับเดียวกัน ขับปรู๊ดปร๊าดในเมืองเนี่ย สนุกแน่นอน และไม่ใช่รถที่มุ่งเน้นมาทำ Top Speed ซักเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามรถอย่างซูบารุสามารถเดินทางไกลด้วยความเร็วสูงได้เป็นปกตินะครับ เมื่อเร่งแซงก็ติดบูสท์ได้ตามปกติ แต่พอวิ่งที่ความเร็วคงที่เทอร์โบก็จะไม่ติดบูสท์ (ถ้ามีวัดบูสท์อยู่ ลองสังเกตได้ครับ) แต่ก็มีเรื่องที่ต้องใส่ใจซักหน่อย ด้วยความที่เป็นเครื่องชักสั้น เกียร์ชิด ทำให้เมื่อเดินทางด้วยความเร็วสูงนานๆ รอบเครื่องที่ใช้ก็จะค่อนข้างสูง เมื่อรอบสูงก็จะเกิดความร้อนสะสมค่อนข้างมาก ดังนั้นถามต่อมาว่า อะไรที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนและลดการสึกหรอให้เครื่องยนต์?
......ก็คงหนีไม่พ้นน้ำมันเครื่องใช่มั้ยครับ ดังนั้นหากเป็นคนที่ชอบขับรถเร็ว ผมขอให้ใส่ใจในเรื่องน้ำมันเครื่องซักหน่อย ใช้น้ำมันเครื่องให้ดี และ ใส่ใจกับเรื่องอุณหภูมิน้ำมันเครื่องซักหน่อย ซึ่งถามว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม ก็ต้องมองต่อไปอีกว่า เกรดน้ำมันเครื่องที่ใช้เป็นเกรดอะไร เช่น 50 หรือ 60 (ดูเฉพาะตัวหลังก็พอครับ เพราะเมืองไทย ไม่ใช่เมืองหนาว) ยิ่งใช้ตัวหลังมาก ก็จะยิ่งทนความร้อนได้สูงตาม อุณหภูมิปลอดภัยสำหรับเครื่องของน้ำมันเครื่องเกรด 50 ก็ราวๆ ซัก 110 องศาเซลเซียส ถ้าเป็น เกรด 60 สามารถทนได้แบบปลอดภัยถึงเกือบ 120 องศาฯ ซึ่งถ้าชอบขับเร็ว ก็หาเกจ์อุณหภูมิน้ำมันเครื่องมาติดไว้ซักหน่อย จะได้ยกเท้าทัน ยิ่งถ้าชอบขับเร็วยาวๆ ก็แนะนำว่าให้หาออยล์คูลเลอร์มาใส่ซะ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิและยืดอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่อง ส่วนความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็แล้วแต่การใช้งานครับ ถ้าใช้งานหนักก็เปลี่ยนให้เร็วกว่ากำหนดขึ้นมา
อีกเรื่องนึงคือ อย่าลากรอบเกิน เพราะเครื่องเทอร์โบ ไม่จำเป็นต้องลากจนตัดเหมือนเครื่อง NA ครับ เมื่อเทอร์โบหมดความสามารถในการทำลมแล้ว ลากรอบไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา นอกจากความสะใจที่เห็นเข็มวัดรอบกวาดไปบนหน้าปัด ถ้าเป็นคอแดงธรรมดา วิ่งเพลินๆ บนถนน ผมแนะนำว่าเปลี่ยนเกียร์ที่ซักไม่เกิน 6500 รอบก็พอครับ ลองดูครับ แล้วจะรู้ว่าแค่นี้ก็มันส์แล้ว
ส่วนเรื่องอู่ครับ ผมแนะนำว่าให้เข้าไปคุยกับอู่ที่ชำนาญซูบารุโดยตรงดีกว่าครับ เพราะเครื่อง EJ เนี่ย ถ้าช่างที่ไม่เข้าใจเค้าถ่องแท้จะบอกว่า เล่นทำไมซูบารุ ซ่อมยาก ดูแลยาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซูบารุไม่ได้ดูแลยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะเมื่อเป็นเครื่องสแตนดาร์ด (มันก็คือรถโรงงานที่มีแรงม้าเยอะเท่านั้นเอง) อย่างไรก็ตามเมื่อจะต้องมีการโอเวอร์ฮอล อย่างที่บอกไปในคำตอบที่แล้วว่า Clearance กับ ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นใส่ใจเรื่องฝีมือช่างหน่อยเถอะครับ
ขอให้โชคดีครับ
mush17
ครบถ้วนกระบวนการเลยครับพี่ครับ emo64o emo64o emo65o emo65o
-
"ต้องเข้าใจเค้าก่อนว่า เครื่อง EJ เป็นเครื่อง 4 สูบเทอร์โบ สูบโต ชักสั้น เกียร์ชิด...Character ของรถเป็นรถที่เน้นเรื่องอัตราเร่งเป็นหลัก และมี Handling ที่ยากจะหาตัวจับได้ในรถระดับเดียวกัน ขับปรู๊ดปร๊าดในเมืองเนี่ย สนุกแน่นอน และไม่ใช่รถที่มุ่งเน้นมาทำ Top Speed ซักเท่าไหร่นัก"
"ถ้าช่างที่ไม่เข้าใจเค้าถ่องแท้จะบอกว่า เล่นทำไมซูบารุ ซ่อมยาก ดูแลยาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซูบารุไม่ได้ดูแลยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะเมื่อเป็นเครื่องสแตนดาร์ด (มันก็คือรถโรงงานที่มีแรงม้าเยอะเท่านั้นเอง)"
mush17
พูดได้ตรงมากๆครับ เป็นสองประโยคที่โดนที่สุดๆๆ
ส่วนเรื่องรถพี่เนี่ย ผมไม่แน่ใจว่าจะช่วยอะไรได้มากป่าว? แต่พี่บอกว่าท้าวหนักเนี่ย ผมอยากแนะนำให้ลองย้ายอินเตอร์มาไว้ข้างหน้าดีไหมครับ? ผมรู้สึกว่าเมื่อพี่ลองทำทุกอย่างที่บอกกันแล้ว ผมเดาว่าท้าคงหนักขึ้น จะได้ช่วยในเรื่องของอุณหภูมิเครื่องด้วย ผมไม่รู้ว่ามันจำเป็นมากแค่ไหนนะครับ นี่แค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
-
Clearance คืออะไร หมายถึงอะไรครับ รบกวนผู้รู้อธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ ข้าน้อยไม่ทราบจริงๆ
-
สาเหตุเล็กน้อยก็ทำให้เครื่องพังได้ครับ ขับรถแบบนี้ต้องเอาใจใส่กันหลายๆจุดครับ
-
ผมว่าดูที่เครื่งก่อนว่าสมบูรณ์ขนาดไหน แล้วมาดูที่เรื่องของน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิและความหนืดเป็นหลัก
อาจจะติดออยคูลเลอร์ก็ดีครับ ส่วนอินเตอร์หน้าถ้าโบเล็กหรือเดิมๆผมว่าไม่มีผลครับวิ่งแย่ลงด้วยซ้ำ ผมใช้มา3ปี
วิ่งทางยาวบ่อยมากเหยียบตลอด เพียงแต่รู้นิสัยของเครื่องej ว่าไม่ควรแช่บูสและดูแลน้ำมันเครื่องให้ดี ก็ยังใช้ได้ดี
จนทุกวันนี้ครับ
-
ขอบคุณทุกท่านมากๆเลยครับอบอุ่นดีจริงๆ ยังไงผมจะสู้อีกซักครั้ง เพราะเป็นรถในฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ว่าจะเลิกซะหน่อย เจอพี่ๆดีแบบนี้เลิกยาก!!!!!
-
อ้าว เด็กคริสเตียนเหรอครับ ผมก็คริสเตียนรุ่น 142 เพื่อนๆแนะนำกันไปหมดแล้ว งั้นมาให้กำลังใจแทนแล้วกัน ซูบารุเหมือนสาวสวยบอบบางครับ ถ้าอยากจะขี่เธอต้องรู้ใจและค่อนข้างต้องทะนุถนอมหน่อย ถ้ารู้ใจซะอย่างรับรองรักกันไปอีกนานนนน ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมโทรมาคุยกันก็ได้ครับ ถ้ามีอะไรช่วยได้ก็ยินดี 086-811-5444 เคน
ผมแจ้ครับพี่ รุ่น152ครับ คริสเตียนทั้งบ้านเลยคับพี่ พี่ผมคนนึงก็142ครับพี่ ชื่อโรจครับ
emo63oemo63o emo63o emo63oรถพี่สวยม๊ากกกก ชอบๆ emo63o emo63o emo63o
-
ผมแจ้ครับพี่ รุ่น152ครับ คริสเตียนทั้งบ้านเลยคับพี่ พี่ผมคนนึงก็142ครับพี่ ชื่อโรจครับ
emo63oemo63o emo63o emo63oรถพี่สวยม๊ากกกก ชอบๆ emo63o emo63o emo63o
อัสสัมขอแจมด้วยได้มั้ยครับ emo70o
-
ไม่มีปัญหาครับ emo64o แฟนสมัยเด็กๆก้อัสสัม แต่ อัสสัมหญิง นะพี่อิอิ
-
อ้าว เด็กคริสเตียนเหรอครับ ผมก็คริสเตียนรุ่น 142 เพื่อนๆแนะนำกันไปหมดแล้ว งั้นมาให้กำลังใจแทนแล้วกัน ซูบารุเหมือนสาวสวยบอบบางครับ ถ้าอยากจะขี่เธอต้องรู้ใจและค่อนข้างต้องทะนุถนอมหน่อย ถ้ารู้ใจซะอย่างรับรองรักกันไปอีกนานนนน ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมโทรมาคุยกันก็ได้ครับ ถ้ามีอะไรช่วยได้ก็ยินดี 086-811-5444 เคน
พี่เคนอายุเยอะนะนี่ mush22
-
ผมแจ้ครับพี่ รุ่น152ครับ คริสเตียนทั้งบ้านเลยคับพี่ พี่ผมคนนึงก็142ครับพี่ ชื่อโรจครับ
emo63oemo63o emo63o emo63oรถพี่สวยม๊ากกกก ชอบๆ emo63o emo63o emo63o
อ้าว งั้นผมกับโรจน่าจะรู้จักกันครับ เห็นตรงลายเซ็นเขียนว่ายกยอ ใช่ร้านยกยอตรงคลองสานป่ะครับ เคยไปอุดหนุนบ่อยๆ บ้านพ่อแม่พี่อยู่แถวเจริญนครครับ
-
พี่เคนอายุเยอะนะนี่ mush22
เอ่อ ได้ข่าวว่าเรารุ่นเดียวกันไม่ใช่เหรอครับต่อ mush32
-
อ้าว งั้นผมกับโรจน่าจะรู้จักกันครับ เห็นตรงลายเซ็นเขียนว่ายกยอ ใช่ร้านยกยอตรงคลองสานป่ะครับ เคยไปอุดหนุนบ่อยๆ บ้านพ่อแม่พี่อยู่แถวเจริญนครครับ
ใช่ครับพี่ mush17 ถ้ามีอะไรให้รับใช้บอกได้นะครับพี่ 082-236-6661 เบอร์ตรงครับผม emo67o
-
เอ่อ ได้ข่าวว่าเรารุ่นเดียวกันไม่ใช่เหรอครับต่อ mush32
ม่ายช่ายแน่นอนอ่ะพี่ mush37
-
อ้าว เด็กคริสเตียนเหรอครับ ผมก็คริสเตียนรุ่น 142 เพื่อนๆแนะนำกันไปหมดแล้ว งั้นมาให้กำลังใจแทนแล้วกัน ซูบารุเหมือนสาวสวยบอบบางครับ ถ้าอยากจะขี่เธอต้องรู้ใจและค่อนข้างต้องทะนุถนอมหน่อย ถ้ารู้ใจซะอย่างรับรองรักกันไปอีกนานนนน ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมโทรมาคุยกันก็ได้ครับ ถ้ามีอะไรช่วยได้ก็ยินดี 086-811-5444 เคน
ชอบจัง สวยบอบบาง
ผมมาจาก EK ครับ ได้รถมา อาทิตย์เดียวพังครับบ ถึงกับเสียสติ
หลังจากซ่อมมาก็อยู่กันมาเกือบปีแล้วครับ ยังดีอยู่ เอาใจช่วยครับ
-
อัสสัมขอแจมด้วยได้มั้ยครับ emo70o
ผมก็อัสสัมครับ ฮ่าๆๆๆๆ
-
เรื่องชาร์ปละลายลองถามช่างตอบมาเหมือนๆกันว่่า นอกจากคุณภาพของน้ำมันเครื่องแล้ว ยังเกิดจากการใช้กรองน้ำมันเครื่องแทนครับ บางคันใส่ของยี่ห้ออื่นเช่น mitsubishi ฯลฯ แม้จะใส่แทนกันได้แต่การกรองไม่เหมือนของซูแท้ๆครับ
-
อัสสัมด้วยได้มั้ยครับ 555555+ emo72o
-
อัสสัม ไหนกันครับ ผมบางรัก emo64o
-
กลายเป็นกระทู้เช็คชื่อไปแย้ว mush18
-
emo72o
-
อัสสัม ไหนกันครับ ผมบางรัก emo64o
120 บางรักครับ emo64o
-
120 บางรักครับ emo64o
125ครับพี่ emo65o
-
กลายเป็นกระทู้เช็คชื่อไปแย้ว mush18
mush16